จับมือวอชิงตัน โอบรับปูติน: อินเดียจะรักษาสมดุลนี้ได้นานแค่ไหน
ในโลกการเมืองระหว่างประเทศที่ทุกก้าวต้องเลือกข้าง อินเดียพยายามเดินเกมที่ยากที่สุดเกมหนึ่ง นั่นคือ การกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันก็ยังเปิดพรมแดงต้อนรับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียอย่างไม่ปิดบัง คำถามที่นักวิเคราะห์ทั่วโลกกำลังจับตาคือ อินเดียจะสามารถรักษาสมดุลนี้ได้อีกนานแค่ไหน — หรือสุดท้ายจะถูกบีบให้เลือกทางใดทางหนึ่ง
ในด้านหนึ่ง วอชิงตันมองอินเดียเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง ทั้งในฐานะตลาดขนาดใหญ่ แรงงานคุณภาพ และ “ตัวถ่วงดุลจีน” ในเอเชีย สหรัฐฯ เดินหน้าผลักดันข้อตกลงการค้า ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี การผลิตชิป และอุตสาหกรรมกลาโหมกับนิวเดลีอย่างจริงจัง ความสัมพันธ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเศรษฐกิจ แต่คือการลงทุนระยะยาวในโครงสร้างอำนาจของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
แต่อีกด้านหนึ่ง อินเดียก็ยังรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับมอสโก รัสเซียเป็นทั้งซัพพลายเออร์พลังงานราคาถูก อาวุธยุทโธปกรณ์ และพันธมิตรเก่าที่มีความไว้วางใจกันมายาวนาน นับตั้งแต่สงครามยูเครน อินเดียเพิ่มการนำเข้าน้ำมันรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมย้ำจุดยืน “ไม่เลือกข้าง” บนเวทีโลก และเมื่อปูตินได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้นำอินเดีย ภาพนั้นก็ส่งสารชัดเจนว่า นิวเดลียังไม่พร้อมตัดสัมพันธ์กับมอสโก
นี่ไม่ใช่ความย้อนแย้งในสายตาของอินเดีย แต่คือยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า “ความเป็นอิสระเชิงยุทธศาสตร์” อินเดียเชื่อว่า ประเทศมหาอำนาจไม่ควรผูกอนาคตไว้กับขั้วใดขั้วหนึ่ง การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรอง และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาเพียงฝ่ายเดียว
อย่างไรก็ตาม เกมนี้เริ่มยากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับสหรัฐฯ ความใกล้ชิดระหว่างอินเดียกับรัสเซียคือจุดอ่อนไหว วอชิงตันอาจเข้าใจเหตุผลเชิงประวัติศาสตร์และความมั่นคงของอินเดีย แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามภาพรวมของการคว่ำบาตรรัสเซียและการเมืองเรื่องคุณค่าได้ตลอดไป ข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ การถ่ายโอนเทคโนโลยีขั้นสูง และความร่วมมือด้านความมั่นคง ล้วนมาพร้อมความคาดหวังทางการเมือง
ในฝั่งรัสเซียเอง มอสโกมองอินเดียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศใหญ่ที่ยังปฏิบัติต่อรัสเซียในฐานะหุ้นส่วนที่มีศักดิ์ศรี ความสัมพันธ์นี้ช่วยให้รัสเซียไม่ถูกโดดเดี่ยวจนเกินไป และเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงตลาดโลก รัสเซียจึงมีแรงจูงใจสูงที่จะรักษาความสัมพันธ์นี้ให้แน่นแฟ้น
คำถามสำคัญคือ อินเดียจะถูกบีบให้เลือกหรือไม่? ในระยะสั้น คำตอบอาจยังเป็น “ไม่” เพราะสหรัฐฯ เองก็ต้องการอินเดียมากเกินกว่าจะผลักออกไป และรัสเซียก็ไม่มีเหตุผลจะกดดันอินเดีย
ให้เลือกข้างอย่างชัดเจน แต่ในระยะยาว หากความตึงเครียดระหว่างขั้วอำนาจรุนแรงขึ้น พื้นที่ตรงกลางที่อินเดียยืนอยู่อาจแคบลงเรื่อย ๆสุดท้าย อินเดียกำลังพยายามพิสูจน์ว่า โลกหลายขั้วไม่จำเป็นต้องเลือกข้างแบบศูนย์หรือหนึ่ง แต่การ “ได้ทั้งสองทาง” ต้องอาศัยการทูตที่ละเอียดอ่อน ความเชื่อมั่นจากทุกฝ่าย และความสามารถในการรับแรงเสียดทานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากพลาดเพียงก้าวเดียว เกมสมดุลนี้อาจกลายเป็นเกมที่ไม่มีทางออกและนี่คือเดิมพันที่แท้จริงของอินเดีย — ไม่ใช่แค่ข้อตกลงการค้าหรือการต้อนรับผู้นำ แต่คือการกำหนดบทบาทของตัวเองในโลกที่กำลังแตกออกเป็นหลายขั้วอย่างรวดเร็ว.
อ้างอิงจาก: bbc cnn
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
Wall push up ท่าวิดพื้นกำแพง ตัวช่วยในการออกกำลังกายง่าย ๆ
11 เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐานตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
เศรษฐกิจรัสเซียกำลังหายใจรวยริน แต่ปูตินยังไม่คิดยกธงขาว
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
โรงแรมในเกียวโตลดราคาเหลือ 3,000 เยนต่อคืน หลังไม่มีนักท่องเที่ยวจีน
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์








