เศรษฐกิจรัสเซียกำลังหายใจรวยริน แต่ปูตินยังไม่คิดยกธงขาว
ถ้ามองตัวเลขเศรษฐกิจของรัสเซียวันนี้ หลายคนอาจเผลอคิดว่า “ถึงเวลาต้องคุยแล้วหรือเปล่า” เพราะแรงกดดันจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก การใช้จ่ายด้านสงครามที่สูงลิ่ว และรายได้จากพลังงานที่ผันผวน ล้วนทำให้เศรษฐกิจรัสเซียไม่ได้แข็งแรงอย่างที่โฆษณาไว้ แต่ในความเป็นจริง การที่เศรษฐกิจกำลังดิ้นรน ไม่ได้หมายความว่า วลาดิเมียร์ ปูติน จะรีบเดินมานั่งโต๊ะเจรจาในเร็ววัน — และมีแนวโน้มว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกหลายปี
เริ่มจากภาพใหญ่ก่อน เศรษฐกิจรัสเซียในช่วงหลังสงครามยูเครนเข้าสู่สภาพ “อยู่ได้แต่ไม่สบาย” รัฐบาลสามารถประคองตัวเลขการเติบโตได้จากการอัดฉีดงบประมาณ การผลิตทางทหาร และการค้ากับประเทศที่ไม่ร่วมคว่ำบาตร เช่น จีน อินเดีย และบางประเทศในตะวันออกกลาง แต่การเติบโตแบบนี้ไม่ใช่การเติบโตที่ยั่งยืน มันคือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยรัฐ ใช้เงินสำรอง ใช้แรงงาน และใช้ทรัพยากรไปกับสงครามมากกว่านวัตกรรมหรือคุณภาพชีวิตประชาชน
ผลข้างเคียงเริ่มชัด ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่า เงินเฟ้อกดดันชีวิตประจำวัน คนรุ่นใหม่และแรงงานฝีมือไหลออกนอกประเทศ บริษัทต่างชาติหายไปจำนวนมาก เทคโนโลยีสำคัญต้องพึ่งการลักลอบนำเข้า หรือใช้ของทดแทนที่ด้อยคุณภาพกว่า เศรษฐกิจรัสเซียจึงเหมือนรถที่ยังวิ่งได้ แต่ต้องเติมน้ำมันแพงขึ้น ใช้อะไหล่เก่า และขับในเส้นทางที่คับแคบลงทุกที
คำถามคือ แล้วทำไมแรงกดดันทั้งหมดนี้ยังไม่พอจะบีบให้ปูตินยอมเจรจา?
คำตอบอยู่ที่ “การเมือง” มากกว่า “เศรษฐกิจ” สำหรับปูติน การเจรจาที่ดูเหมือนการยอมถอย คือความเสี่ยงต่ออำนาจโดยตรง ระบบการเมืองรัสเซียถูกสร้างบนภาพผู้นำที่แข็งแกร่ง ไม่ยอมแพ้แรงกดดันจากภายนอก การยอมมานั่งโต๊ะเจรจาโดยไม่มีชัยชนะที่จับต้องได้ อาจถูกตีความในประเทศว่าเป็นความอ่อนแอ ซึ่งอันตรายยิ่งกว่าค่าเงินอ่อนหรือเงินเฟ้อเสียอีก
อีกประเด็นที่หลายคนมองข้ามคือ รัสเซีย “ปรับตัว” กับความยากลำบากได้ดีในเชิงโครงสร้าง สังคมที่เคยผ่านวิกฤตหนักหนามาหลายรอบ ตั้งแต่ยุคโซเวียตล่มสลาย วิกฤตเศรษฐกิจปี 1998 ไปจนถึงการคว่ำบาตรหลังยึดไครเมีย ทำให้รัฐและประชาชนจำนวนหนึ่งคุ้นชินกับความฝืดเคือง ปูตินจึงเชื่อว่า เวลาทำงานเข้าข้างเขา มากกว่าที่จะเข้าข้างฝ่ายตะวันตกซึ่งต้องเผชิญแรงกดดันทางการเมืองจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในมุมยุทธศาสตร์ ปูตินยังเดิมพันว่า โลกกำลังเปลี่ยนขั้ว อำนาจของสหรัฐและยุโรปไม่ได้เด็ดขาดเหมือนเดิม เศรษฐกิจโลกกำลังแตกเป็นหลายค่าย หากรัสเซียทนได้ยาวพอ สภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์อาจเอื้อให้เขาได้เงื่อนไขที่ดีกว่าในอนาคต การรีบเจรจาตอนนี้จึงดูไม่คุ้มในสายตาเครมลินสุดท้าย เศรษฐกิจที่กำลังดิ้นรนของรัสเซีย อาจสร้างรอยร้าวระยะยาว แต่ยังไม่ถึงจุดแตกหัก ปูตินเลือกยอมให้ประชาชน “ลำบากแต่ยังอยู่ได้” ดีกว่ายอมเสี่ยงกับการเจรจาที่อาจสั่นคลอนอำนาจของตัวเอง
สรุปให้เข้าใจง่าย เศรษฐกิจรัสเซียกำลังเหนื่อยจริง แต่ยังไม่เจ็บพอจะล้ม และสำหรับปูติน ตราบใดที่รัฐยังควบคุมเกมการเมืองภายในได้ โต๊ะเจรจาก็ยังเป็นของอนาคตไกล — ไกลพอที่จะนับเป็น “หลายปี” ไม่ใช่ “อีกไม่นาน”ถ้าจะเปรียบแบบตรงไปตรงมา ตอนนี้รัสเซียเหมือนนักมวยที่โดนต่อยจนหอบ แต่ยังไม่ยอมทิ้งผ้าเช็ดหน้า และปูตินก็ยังเชื่อว่า เขาอึดกว่าอีกฝ่าย.
อ้างอิงจาก: bbc cnn
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียแบบ “มหาศาล” ของทรัมป์ จะเขย่ามอสโกแค่ไหนและคำตัดสินใจของจีนกับอินเดียคือหมากชี้ขาด
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
โรงแรมในเกียวโตลดราคาเหลือ 3,000 เยนต่อคืน หลังไม่มีนักท่องเที่ยวจีน
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์






