ระทึกชายแดน! คลิปทหารเขมรแบก RPG ข่มขู่ ทหารไทยใจนิ่งคุมสถานการณ์อยู่หมัด
🇰🇭🔥 ระทึกแนวชายแดน! ทหารเขมรแบก RPG จ่อทหารไทยกลางเขตแดนปราสาทคนา หลักเขตฯ 19–20 สุรินทร์ – เผชิญหน้าเดือดก่อนเจรจาคลี่คลาย
สถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชากลับมาปะทุอีกครั้ง หลังเกิดเหตุทหารกัมพูชาถืออาวุธหนักประเภท RPG (เครื่องยิงลูกระเบิดประทับบ่ายิง) เดินตรงเข้ามาหาทหารไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตพื้นที่ของ ปราสาทคนา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง หลักเขตแดนที่ 19–20 อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ จนเกิดภาพเหตุการณ์เฉียดปะทะที่ทำให้สังคมไทยสะเทือนทันทีที่คลิปถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์
คลิปจากเพจ Thai Burma Railway ทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งถูกแชร์อย่างกว้างขวางในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เผยให้เห็นการเผชิญหน้าระยะประชิดที่ยากจะเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน เพราะนอกจากทหารกัมพูชาจะปรี่เข้ามาหาทหารไทยพร้อมอาวุธร้ายแรงแล้ว ยังมีการโต้เถียงด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว กล่าวหาว่าทหารไทยรุกล้ำพื้นที่ สร้างลวดหนามกีดขวาง และย้ายตำแหน่งกำลังพลลงมาใกล้เขตแดนเกินกว่าที่สองฝ่ายเคยตกลงกัน
บทความนี้จะพาผู้อ่านสำรวจเหตุการณ์แบบ “ลำดับขั้น” ตั้งแต่ต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหา บรรยากาศเผชิญหน้ารอบล่าสุด เนื้อหาการเจรจาที่ถูกบันทึกไว้ในคลิป รวมถึงบริบททางการเมือง–ความมั่นคงที่ทำให้พื้นที่นี้อ่อนไหวเป็นพิเศษ พร้อมวิเคราะห์ความเสี่ยง ความเป็นไปได้ และผลกระทบในระยะยาวหากปัญหาไม่ถูกคลี่คลาย
🔥 จุดชนวนเหตุ – ทำไมทหารเขมรถึงถือ RPG เข้ามาแนวเขตแดน?
ก่อนพิจารณาคลิปเหตุการณ์ ควรทำความเข้าใจบริบทด้านพื้นที่ก่อนว่า ปราสาทคนา เป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างจนพังทลาย เหลือเพียงแนวกำแพงและฐานหิน โดยตั้งอยู่ใกล้เส้นเขตแดนไทย–กัมพูชาแบบประชิดมากจน “ระยะยืนของทหารทั้งสองฝ่ายอาจห่างกันเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น”
ข้อมูลจากกองกำลังสุรนารีเคยระบุว่า
พื้นที่บริเวณปราสาทไม่มีประเทศใดครอบครอง
แต่ทั้งสองฝ่ายมีฐานกำลังอยู่ใกล้เคียง
และต้องยึดตาม “เส้นปฏิบัติการชั่วคราว” ที่สองฝ่ายตกลงร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1–2 เดือนที่ผ่านมา มีรายงานว่าฝั่งกัมพูชามีการขยับกำลังพลในหลายจุดเพื่อทำสิ่งก่อสร้างหรือปรับพื้นที่บางส่วน จนเกิดความไม่ไว้วางใจกับฝ่ายไทย กระทั่งวันเกิดเหตุ เหมือนว่าความตึงเครียดสะสมได้ปะทุขึ้นในทันที
🎥 เหตุการณ์จริงตามคลิป – “RPG จ่อใส่ทหารไทยแบบประชิด”
คลิปที่ถูกเผยแพร่สร้างความตกใจในสังคมไทยด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการ:
1. ทหารกัมพูชาถือ RPG มาตรงหน้า
อาวุธชนิดนี้มีอานุภาพสูง สามารถทำลายยานพาหนะหรือสิ่งก่อสร้างได้ หากมีการลั่นไกแม้แต่น้อย ความเสียหายจะมหาศาล
2. ระยะยืนประชิดมาก
เพียงไม่กี่ก้าว หากมีใครเคลื่อนไหวผิดจังหวะ อาจนำไปสู่การยิงตอบโต้และกลายเป็นเหตุปะทะระดับชาติ
3. มีการโต้เถียงด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวจากทั้งสองฝ่าย
ทำให้สถานการณ์ถูกมองว่า “เฉียดสงคราม” เลยทีเดียว
ในคลิป ทหารกัมพูชากล่าวด้วยภาษาเขมรลักษณะต่อว่าไทยว่า:
“แต่ก่อนทหารไทยอยู่ตรงนั้น ทำไมตอนนี้ลงมาอยู่ตรงนี้? พรมแดนอยู่ด้านหลัง ทำไมเอาของวางฝั่งนี้? ออกมาเจอหน้ากันหน่อย!”
ฝั่งทหารไทยเมื่อได้ยินถ้อยคำดังกล่าว แม้จะไม่ได้ฟังภาษาเขมรออกทั้งหมด แต่ท่าทีทหารกัมพูชาที่เดินเข้ามาพร้อม RPG ทำให้ต้องตอบโต้ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด:
“พี่กลับไปที่เดิมนะ ไม่ต้องเอาอาร์พีจีมาจ่อผม ลวดอยู่ตรงนี้ ถ้าพี่เข้ามา ผมจะดันไปข้างหน้าอีก เข้าใจไหม?”
น้ำเสียงดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดแรงกดดันและป้องกันไม่ให้กัมพูชาขยับเข้าหาเขตแดนมากกว่านี้ เพราะเป็นระยะอันตรายที่ไทยไม่อาจปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำได้แม้แต่น้อย
🔥 การเจรจาหวุดหวิดเดือด – “ต่างคนต่างอยู่!”
ในช่วงเจรจาที่ตึงเครียดนั้น ทหารไทยยังคงยืนยันหลักการเดิมตามข้อตกลงพื้นที่ปฏิบัติการร่วม:
“อยู่ที่เดิม! ไม่ต้องเข้ามาใกล้ลวดหนาม พี่เอากำลังพี่ออกไป ไม่ต้องแบก RPG มา เราคุยกันแล้วครั้งหนึ่ง ถ้าพี่ไม่เข้ามา ผมก็อยู่ที่เดิม”
สิ่งที่น่าสนใจคือ ฝั่งไทยพยายามสื่อสารแบบ “Soft Power ทางทหาร” คือ
ไม่ตอบโต้ด้วยอาวุธ
ใช้การเจรจาเสียงดังแต่ไม่หยาบคาย
ชัดเจนว่าไม่อยากให้เกิดเหตุผิดพลาด
และย้ำหลักการ “ต่างคนต่างอยู่” ตามที่สองฝ่ายเคยตกลงกันไว้
การเลือกใช้ท่าทีสงบ–ชัดเจนเช่นนี้ ช่วยลดโอกาสเกิดปะทะได้มาก เพราะหากตอบโต้ด้วยน้ำเสียงก้าวร้าวเท่ากัน อาจทำให้สถานการณ์ลุกลามในไม่กี่วินาที
🧭 ทำไมกัมพูชาถึงกล่าวหาไทยว่า “รุกล้ำ”?
ต้องเข้าใจก่อนว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นหนึ่งในโซนที่ยังมี “ความคลุมเครือทางพรมแดน” อยู่บ้าง เนื่องจาก:
แผนที่เก่าหลายฉบับตีความไม่ตรงกัน
เส้นพรมแดนบนแผนที่อาจไม่ตรงกับสภาพภูมิประเทศ
บางจุดเป็นพื้นที่ป่าหรือเนินเขา ทำให้ตรวจสอบยาก
ทั้งไทยและกัมพูชาเคยมีข้อพิพาทเล็ก–ใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงหลายครั้ง
ดังนั้น หากหนึ่งฝ่ายเห็นว่าอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้เกินไป เพียงไม่กี่เมตร ก็อาจถูกตีความเป็น “การรุกล้ำ” ได้ทันที
การวางลวดหนามหรือการย้ายจุดยืนเพียงนิดเดียว อาจจุดชนวนความขัดแย้งทางทหารได้ในทันที เพราะพื้นที่เป็น “แนวเฉพาะกิจ” ที่ห้ามขยับกำลังเกินข้อตกลงเดิม
💣 อาวุธ RPG ทำให้สถานการณ์รุนแรงแค่ไหน?
RPG ไม่ใช่ปืนธรรมดา แต่เป็นอาวุธสงครามที่มีคุณสมบัติ:
ยิงทำลายรถถังได้
ระเบิดสร้างรัศมีทำลายกว้าง
หากยิงพลาดอาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียชีวิตหลายราย
การที่ทหารกัมพูชาถือ RPG เข้ามาในระยะประชิดเช่นนี้ถูกมองว่าเป็น พฤติกรรมที่เสี่ยงมากเกินไป เพราะไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องนำอาวุธหนักมาใช้ในการเจรจากับกำลังของประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ ยังถูกมองว่าเป็น “การข่มขู่” หรือ "การโชว์แสนยานุภาพ" เพื่อกดดันไทยให้ถอยออกจากพื้นที่ที่เขมรตีความว่าเป็นพรมแดนของตัวเอง
⚔️ ความตึงเครียดที่สะสมมานาน – ปราสาทคนาและพื้นที่ใกล้เคียง
พื้นที่รอบปราสาทคนาถือว่าเป็น “พื้นที่สีแดงด้านความมั่นคง” มาตั้งแต่หลายสิบปีก่อน สาเหตุเกิดจาก:
✔ ความใกล้ชิดชายแดนมากเกินไป
โบราณสถานแทบจะตั้งอยู่บนเส้นแบ่งพรมแดน
✔ สภาพภูมิประเทศเป็นเนินเขา–ป่าโปร่ง
เหมาะแก่การซ่อนกำลังทหารและยุทโธปกรณ์
✔ การปักปันเขตแดนยังไม่แล้วเสร็จ 100%
✔ เคยเกิดเหตุปะทะหลายครั้งในอดีต
รวมถึงเหตุการณ์รุนแรงช่วงปี 2551–2554 ที่ไทย–กัมพูชาปะทะกันบริเวณปราสาทพระวิหาร ทำให้พื้นที่นี้ถูกเฝ้าระวังเป็นพิเศษจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น เพียงการ “ขยับตัวผิดจังหวะ” ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็สามารถทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ตลอดเวลา
⚖️ กองกำลังสุรนารีชี้แจง – “บริเวณปราสาทไม่มีใครครอบครอง”
กกล.สุรนารีให้ข้อมูลสำคัญว่า
ปราสาทคนาในปัจจุบันพังทลายหมดแล้ว
ตัวซากปราสาทไม่ใช่พื้นที่ตั้งกำลังของทั้งสองฝ่าย
ทั้งไทย–กัมพูชามีกำลังอยู่ “ใกล้ ๆ แต่ไม่อยู่ในตัวปราสาท”
ทุกอย่างดำเนินการตามหลักปฏิบัติการร่วม และข้อตกลงไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขยายพื้นที่เพิ่มเติม
ดังนั้นการกล่าวหาว่าฝ่ายไทยรุกล้ำเข้าไปยัง “ตัวปราสาท” จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในพื้นที่
🧭 วิเคราะห์สถานการณ์ – ใครได้ประโยชน์จากการยั่วยุ?
เหตุการณ์นี้อาจมองได้หลายมุม:
1. การสื่อสารผิดพลาดของฝ่ายกัมพูชา
อาจมีทหารบางนายเข้าใจผิดเรื่องระยะเขตแดน จึงเดินเข้ามาต่อว่าและแบก RPG มาข่มขู่
2. การสร้างภาพการป้องกันประเทศของฝ่ายกัมพูชา
บางครั้งทหารอาจต้องการสร้างภาพลักษณ์ “แข็งกร้าว” เพื่อรายงานต่อผู้บังคับบัญชา
3. ความพยายามทดสอบปฏิกิริยาฝ่ายไทย
บางสถานการณ์อาจเป็นการทดสอบว่าไทยจะตอบโต้หรือไม่ เมื่อถูกยั่วด้วยอาวุธหนัก
4. ความตึงเครียดทางการเมืองภายในกัมพูชา
อาจมีประเด็นการใช้เหตุชายแดนเป็นเครื่องมือสร้างกระแสความรักชาติ
5. ความเข้าใจผิดเรื่องการวางลวดหนาม
ไทยอาจวางรั้วลวดในตำแหน่งที่เขมรมองว่าเข้ามาใกล้เกินไป จึงเกิดการเผชิญหน้า
🕊 ทางออกของสถานการณ์ – หลีกเลี่ยงปะทะด้วยการเจรจา
สิ่งที่ไทยทำถูกต้องที่สุดในคลิปคือ
ไม่ตอบโต้ด้วยอาวุธ
รักษาระยะห่างตามกฎชายแดน
ยืนยันขอตามข้อตกลงเดิม
ใช้น้ำเสียงแข็งแต่ไม่ก่อความรุนแรง
เพราะหากตอบโต้ด้วยการยกปืนหรือใช้กำลัง
จะนำไปสู่:
การปะทะจริง
ความสูญเสีย
การขยายความขัดแย้งไประดับรัฐบาล
ศึกการทูตทั้งในอาเซียนและระดับโลก
ไทยเลือกแนวทาง “ลดความรุนแรง” (De-escalation) ซึ่งเป็นวิธีที่มีความรับผิดชอบต่อพื้นที่ชายแดนและประชาชนทุกฝ่าย
📌 สรุปภาพรวมสถานการณ์ (ฉบับเข้าใจง่าย)
ทหารกัมพูชาเดินถือ RPG เข้ามาหาทหารไทยที่ปราสาทคนา
กล่าวหาว่าไทยรุกล้ำพื้นที่และขยับแนวลวดหนาม
ทหารไทยยืนยันว่ายืนในตำแหน่งตามข้อตกลง
มีการเถียง–เจรจาเสียงแข็ง แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นใช้อาวุธ
ไทยสั่งชัดเจน “อย่าเข้ามาใกล้ลวดหนาม”
เหตุการณ์จบลงด้วยการเจรจาและแยกยืนตามเดิม
ไม่มีการปะทะหรือสูญเสีย
กกล.สุรนารีชี้แจงว่าพื้นที่ตัวปราสาทไม่มีทหารครอบครอง
สถานการณ์ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด
อ้างอิงจาก: อ้างอิงข้อมูลจากรายการ เข้านี้ขยี้ข่าว ช่อง 8 และ เฟซบุ๊กแฟนเพจ "Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ"
มาลี เจียตา เรียกร้องให้ไทย หยุดยิง ตามข้อตกลง
ไทย-เขมร เปิดฉากการรบเต็มรูปแบบตลอดแนวชายแดน
เปิดตำนาน "ไซยาไนด์": จากความบังเอิญทางศิลปะ สู่สารพิษพลิกประวัติศาสตร์โลก
คฤหาสน์ 5 พันล้านของอดีตนางเอกดังกลายเป็น "รังแมลงสาบ" พร้อมเผยภาพสุดขนลุก
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
"F-16 ไทย" จัดหนัก ถล่มคาสิโนเขมรที่ช่องอานม้า "ราบเป็นกลอง" หลังพบเป็นฐานซุกอาวุธโจมตีไทย
ชีวิตยิ่งกว่าละคร นางเอกแต่งงานกับเศรษฐีพิการ สะท้อนเรื่องบุญคุณและรักแท้
F-16 ไทย ถล่ม คาสิโนช่องอานม้าพังราบ
เมื่อไม่มีความสุขกับชีวิต ควรแก้ไขอย่างไรดี
เกิดเหตุแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ 7.0 แมก เขย่าแคนาดากับอลาสก้า
ไทยไม่ทน กองทัพบกยืนยันส่ง "อากาศยาน" ถล่มฐานยิvเขมร หลังทหารไทย "พลีชีพ" 1 นาย เจ็บอีก 2 นาย
ทึ่งทั่วโลก "สะพานพระราม" หรือ "สะพานของอดัม" ตำนานกลางทะเลที่น่าค้นหาคำตอบ
ทหารไทยยิงปืนใหญ่ถล่มกระเช้าขึ้นเนิน 350 ของเขมร เหลือแต่ซาก
ไทย-เขมร เปิดฉากการรบเต็มรูปแบบตลอดแนวชายแดน
"ปลากระโทงร่ม" ปลายักษ์ใหญ่ความเร็วสูงแห่งท้องทะเล เร็วจนต้องร้องขอชีวิต
ผัก ผลไม้ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ลดเสมหะ
มาลี เจียตา เรียกร้องให้ไทย หยุดยิง ตามข้อตกลง
เขมรโจมตี "ช่องบก" ฐานป้อมไทยโดนถล่ม ทหารพลีชีพ 1 นาย บาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย ขอให้ปลอดภัยทุกนาย
ทหารไทยยิงปืนใหญ่ถล่มกระเช้าขึ้นเนิน 350 ของเขมร เหลือแต่ซาก
พิธีกรข่าววิจารณ์ "โฆษกพรรคประชาชนไต้หวัน" โพสต์รูปใส่ชุดว่ายน้ำเพื่อหาเสียง
ด่วน เปิดฉากรบเต็มอัตราศึกตลอดแนวแล้ว พื้นที่พิพาทชายแดน






