เขมรเดินเกมรุกเร็ว! พา AOT ลงพื้นที่ อ้างไทยยิงประชาชนเขมรก่อน และตรวจสอบอาการบาดเจ็บของชาวกัมพูชา 3 รายถึงห้อง ICU

13 พฤศจิกายน เวลา 08.20 น. – บรรยากาศที่จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาเป็นไปด้วยความตึงเครียด หลังจากช่วงเช้าวันนี้ นายอุม ราตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองทัพกัมพูชา ได้นำคณะผู้สังเกตการณ์จากอาเซียน (AOT) ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์บาดเจ็บของพลเรือนกัมพูชาจำนวน 3 ราย ซึ่งขณะนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของ โรงพยาบาลมิตรภาพกัมพูชา-ญี่ปุ่น มงคลบุรี

แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีขึ้นอย่างเร่งด่วน หลังเกิดกระแสข่าวในสังคมออนไลน์ของกัมพูชา เมื่อค่ำวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลว่า “ทหารไทยได้กราดยิงใส่พลเรือนกัมพูชาในหมู่บ้านเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย” จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกและความไม่พอใจให้กับชาวบ้านจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนเปิดเผยว่า ระหว่างการตรวจสอบ นายอุม ราตรี ได้ให้ข้อมูลกับคณะฯ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการปฏิบัติของฝ่ายทหารไทย แต่เมื่อมีการตรวจสอบเชิงลึก กลับพบว่าข้อเท็จจริงยังไม่สามารถยืนยันได้ในขณะนี้ และยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการปะทะหรือการใช้อาวุธจากฝั่งไทยตามที่มีการกล่าวอ้าง

เจ้าหน้าที่จากอาเซียนระบุว่า “จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงพยานในพื้นที่ เพื่อยืนยันลำดับเหตุการณ์ที่แท้จริง” พร้อมเน้นย้ำว่าการเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างประเทศ และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่ชายแดน

ขณะเดียวกัน ทางการไทยยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว แต่มีรายงานจากฝั่งชายแดนไทยระบุว่า เมื่อช่วงเวลาที่ถูกอ้างว่าเกิดเหตุ ไม่มีรายงานการปะทะ หรือเสียงปืนจากพื้นที่แนวชายแดนแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งสองประเทศจึงอยู่ระหว่างการประสานข้อมูล เพื่อป้องกันการขยายผลของข่าวปลอมที่อาจกระทบต่อสันติภาพชายแดน ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชาได้ร่วมมือกันดูแลความสงบในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ขณะนี้ คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานเบื้องต้น เพื่อเสนอต่อสำนักงานใหญ่ของอาเซียนและรัฐบาลทั้งสองฝ่าย โดยคาดว่าจะมีการสรุปผลการตรวจสอบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ขอบคุณภาพประกอบจากเพจ Army Military Force จ้า