ต๊อบ เถ้าแก่น้อย ถูกสั่งห้ามเป็นผู้บริหาร 20 เดือน หลังซื้อขายหุ้นผิดกฎ

⚖️ ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง 5 ราย รวมมูลค่า 16.39 ล้านบาท กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น TKN

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกประกาศสำคัญที่สร้างความสนใจอย่างมากในวงการตลาดทุนไทย 🏦 เนื่องจากมีการดำเนินคดี บุคคล 5 ราย ในกรณี ซื้อขายหุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN โดยใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading) ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

รายชื่อบุคคลที่ถูกดำเนินคดีประกอบด้วย:

1. อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ – ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท TKN

2. ณัชชัช พงศ์ พีระเดชาพันธ์ – กรรมการผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ

3. พนิดา วิริยะกิจนุกูล

4. ฐิติรัตน์ ภานุวัฒน์วนิชย์

5. จักรพันธ์ ชาติปรีชากร

ทั้ง 5 ราย ถูกกำหนดให้ชำระเงินรวม 16,392,684 บาท 💸 และห้ามดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เป็นระยะเวลาตามที่ ก.ล.ต. กำหนด

 

📊 ข้อมูลเบื้องต้นและเหตุผลของการลงโทษ

ก.ล.ต. เปิดเผยว่าได้รับข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อเดือนมีนาคม 2566 และได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมจนพบหลักฐานชัดเจนว่า ในช่วงวันที่ 5 สิงหาคม – 9 พฤศจิกายน 2565 บุคคลทั้ง 5 ราย ได้กระทำการซื้อขายหุ้น TKN โดยอาศัยข้อมูลภายใน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนทั่วไป

ข้อมูลสำคัญที่บุคคลทั้ง 5 ใช้ประกอบการซื้อขาย ได้แก่:

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 ของ TKN ซึ่งมีกำไรสุทธิ 179.97 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลรอบที่ 2 (รอบพิเศษ) สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสดังกล่าว ในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น

ทั้งสองปัจจัยนี้ถือว่าเป็น ข้อมูลสำคัญด้านบวก (Material Nonpublic Information) ที่สามารถส่งผลต่อราคาหุ้น TKN เมื่อเปิดเผย

 

💹 วิธีการกระทำความผิด

หลักฐานของ ก.ล.ต. ระบุชัดเจนว่า:

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ได้ซื้อหุ้น TKN ผ่านบัญชีของ พนิดา วิริยะกิจนุกูล

ณัชชัช พงศ์ พีระเดชาพันธ์ ได้ซื้อหุ้น TKN ผ่านบัญชีของ ฐิติรัตน์ และจักรพันธ์

การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น ก่อนวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่ TKN ประกาศข้อมูลภายในต่อ SET

📜 มาตรฐานทางกฎหมาย

การกระทำของบุคคลทั้ง 5 รายถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ดังนี้:

1. อิทธิพัทธ์ และณัชชัชพงศ์ – กระทำความผิด ซื้อหุ้นโดยอาศัยข้อมูลภายใน (Insider Trading) ตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(1) มีบทลงโทษตามมาตรา 296 และ 296/2

2. พนิดา, ฐิติรัตน์, จักรพันธ์ – กระทำความผิดฐาน สนับสนุนการซื้อหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายใน ตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 315

การกระทำดังกล่าวถือเป็น การละเมิดหลักการความโปร่งใสในตลาดทุน และอาจทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปเสียหายจากการได้เปรียบที่ไม่เป็นธรรม

 

🏛️ มาตรการลงโทษทางแพ่ง

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติชัดเจนในการใช้มาตรการลงโทษกับบุคคลทั้ง 5 ราย โดยมีรายละเอียดดังนี้:

รายชื่อ ค่าปรับทางแพ่ง ระยะห้ามเป็นกรรมการ/ผู้บริหาร

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ 11,601,063 บาท 20 เดือน

ณัชชัช พงศ์ พีระเดชาพันธ์ 2,916,030 บาท 14 เดือน

พนิดา วิริยะกิจนุกูล 625,197 บาท 13 เดือน

ฐิติรัตน์ ภานุวัฒน์วนิชย์ 625,197 บาท 9 เดือน

จักรพันธ์ ชาติปรีชากร 625,197 บาท 9 เดือน

หมายเหตุ: ระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารมีผลตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการ

 

💡 ความสำคัญของมาตรการนี้

การลงโทษทางแพ่งครั้งนี้มีความสำคัญหลายด้าน:

1. ป้องกันการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading) – การกระทำลักษณะนี้ถือเป็นการทำให้ตลาดหุ้นไม่เป็นธรรมและเสียความเชื่อมั่น

2. ปกป้องผู้ลงทุนรายย่อย – นักลงทุนทั่วไปจะเสียเปรียบอย่างมากหากบุคคลในบริษัทใช้ข้อมูลลับก่อนเปิดเผย

3. สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมาย – การใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งและการห้ามดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหาร จะช่วยสร้างความเคร่งครัดในตลาดทุน

 

💰 การชำระค่าปรับและเงินผลประโยชน์

บุคคลทั้ง 5 รายต้องชำระ ค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ผลประโยชน์ที่ได้รับ จากการกระทำความผิดทั้งหมด โดยเงินเหล่านี้ถือเป็น รายได้แผ่นดิน ที่นำส่ง กระทรวงการคลัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การละเมิดกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่เรื่องเล็ก และจะถูกจัดการอย่างเด็ดขาด

 

⚖️ กระบวนการตรวจสอบของ ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจาก SET และตรวจสอบอย่างละเอียด

พบหลักฐานว่าการซื้อขายเกิดขึ้น ก่อนการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ

มีการตรวจสอบบัญชีซื้อขายหุ้นและการโอนเงิน เพื่อยืนยันความเชื่อมโยงของบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า ก.ล.ต. มีมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

📝 ผลกระทบต่อวงการตลาดทุน

การดำเนินคดีครั้งนี้ส่งผลโดยตรงต่อ:

1. ความเชื่อมั่นของนักลงทุน – นักลงทุนรู้ว่าหากมีการใช้ข้อมูลภายในซื้อขาย หุ้นจะมีบทลงโทษทันที

2. การบริหารจัดการบริษัท – ผู้บริหารและกรรมการบริษัทต้องระมัดระวังการใช้ข้อมูลสำคัญ

3. ภาพลักษณ์ของตลาดหุ้นไทย – การลงโทษเด็ดขาดช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในตลาดทุน

🔍 บทสรุป

การดำเนินคดีบุคคล 5 ราย กรณีซื้อขายหุ้น TKN โดยใช้ข้อมูลภายใน เป็นตัวอย่างชัดเจนของ ความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไทย 📊

มาตรการลงโทษทางแพ่ง ประกอบด้วย:

ค่าปรับและชดใช้ผลประโยชน์ที่ได้รับ รวม 16.39 ล้านบาท

ระยะเวลาห้ามดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหาร 9–20 เดือน

เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้บริหารและนักลงทุนทั่วไปว่า การใช้ข้อมูลภายในถือเป็นความผิดร้ายแรง และไม่มีข้อยกเว้น

สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ก.ล.ต. พร้อมดำเนินคดีทุกกรณีเพื่อปกป้องความโปร่งใสในตลาดทุนและสร้างความยุติธรรมแก่ผู้ลงทุนทุกคน 💼⚖️