⚠️ เสียงสะท้อนถึง ศธ. หลังประกาศงดรื่นเริง 1 ปี ร้านเช่าชุดหวั่นถูกยกเลิกออร์เดอร์

⚠️ เสียงสะท้อนถึง ศธ. หลังงดกิจกรรมรื่นเริง 1 ปี: กระทบนักเรียนและผู้ประกอบการร้านชุด ขอดูเรื่องระยะเวลาใหม่

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ออก หนังสือด่วนที่สุด เวียนแจ้งหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดให้ทราบและถือปฏิบัติเกี่ยวกับการ ถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีข้อปฏิบัติสำคัญ ดังนี้

1. ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน

2. ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี

3. งดจัดกิจกรรมที่มีลักษณะรื่นเริงทุกประเภทเป็นเวลา 1 ปี

4. เผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระองค์ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงาน และให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ

แนวทางดังกล่าวถือเป็นมาตรการ แสดงความอาลัยอย่างเต็มรูปแบบ และสะท้อนถึงความสำคัญของพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ต่อสังคมไทย อย่างไรก็ตาม หลังมีการประกาศออกไป กลับเกิดเสียงสะท้อนและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งในโลกออนไลน์และสังคมผู้ปกครอง

 

🔹 ความเห็นจากผู้ปกครองและสังคมออนไลน์

เพจเฟซบุ๊กของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งรวบรวมข่าวสารและความคิดเห็นจากประชาชน ได้เผยแพร่คอมเมนต์ของผู้ปกครองรายหนึ่ง ที่สะท้อนถึงผลกระทบจากการงดกิจกรรมรื่นเริง 1 ปี โดยระบุว่า

 "ขอให้พิจารณาค่ะ ตอนนี้ร้านค้าชุดเกี่ยวกับขบวนพาเหรด มีการยกเลิกกัน แทบจะร้องไห้และกลุ้มใจกันหมด เพราะแม่ๆ หวังจะให้เด็กๆ ได้ใส่ เด็กๆ ก็รอใส่ในสิ้นเดือน เด็กบางคนถึงกับร้องเพราะโรงเรียนยกเลิก เพราะเป็นช่วงแข่งกีฬาสี แล้วมายกเลิก 1 ปี ผู้ประกอบการร้านชุดจะอยู่ยังไง มีการเยียวยาหรือไม่ บางคนลงทุนไม่ใช่น้อย ระยะเวลาขอให้พิจารณาใหม่เถอะค่ะ"

คอมเมนต์นี้สะท้อนถึง ผลกระทบในระดับเศรษฐกิจชุมชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านเช่าชุดที่มักจะลงทุนซื้อชุดจำนวนมากเพื่อรองรับกิจกรรมของโรงเรียน การงดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ทำให้เกิด ความสูญเสียทางการเงินและความกังวลต่อความอยู่รอดของธุรกิจ

นอกจากนี้ ผู้ปกครองบางส่วนยังสะท้อนความกังวลเรื่อง ผลกระทบต่อการเรียนรู้และพัฒนาการของนักเรียน โดยมองว่า กิจกรรมรื่นเริง เช่น กีฬาสี ขบวนพาเหรด หรืองานแสดงความสามารถของเด็ก ๆ เป็นส่วนสำคัญของ กิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ ที่ช่วยสร้างทักษะทั้งด้านสังคม การทำงานเป็นทีม การวางแผน และความคิดสร้างสรรค์

🔹 ผลกระทบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

กิจกรรมรื่นเริงในโรงเรียน เช่น กีฬาสี การแสดงบนเวที ขบวนพาเหรด หรือกิจกรรมส่งเสริมความสามารถพิเศษ ถือเป็น ส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนรู้แบบบูรณาการ ซึ่งช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ทั้งในด้านทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความรับผิดชอบ การจัดการเวลา และความคิดสร้างสรรค์

การงดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปี อาจทำให้เด็ก ขาดโอกาสในการเรียนรู้นอกห้องเรียน และสูญเสียโอกาสในการฝึกฝนทักษะชีวิตที่ไม่สามารถหาได้จากการเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว

ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษากล่าวว่า

 "กิจกรรมรื่นเริงเป็นการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ เด็กจะได้เรียนรู้การทำงานร่วมกัน แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การงดกิจกรรมเหล่านี้ในระยะยาวอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์ของเด็กบางคน"

ดังนั้น แม้ว่ามาตรการงดกิจกรรมรื่นเริงจะมีเจตนาดี คือเพื่อ ถวายความอาลัยอย่างเหมาะสม แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้อง พิจารณาผลกระทบต่อเด็กและผู้ประกอบการด้วย

 

🔹 มุมมองของผู้ประกอบการร้านชุดและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

ผู้ประกอบการร้านเช่าชุด ขบวนพาเหรด และอุปกรณ์ประกอบกิจกรรมในโรงเรียนต่างกล่าวตรงกันว่า การงดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลานาน กระทบโดยตรงต่อรายได้และการลงทุน หลายคนต้องซื้อชุดจำนวนมากเพื่อรองรับกิจกรรมของนักเรียน แต่เมื่อกิจกรรมถูกยกเลิกเป็นปีเต็ม ทำให้เกิด ความสูญเสียทางการเงิน โดยเฉพาะในช่วงต้นปีการศึกษา

ตัวอย่างเช่น ร้านชุดในกรุงเทพฯ รายหนึ่งกล่าวว่า

 "เราลงทุนชุดสำหรับขบวนพาเหรดไว้ตั้งแต่ต้นปี มีทั้งชุดธีมละครและชุดกีฬา ตอนนี้กิจกรรมถูกยกเลิก เราต้องแบกรับต้นทุนทั้งหมด ไม่มีรายได้จากการให้เช่าเลย นับเป็นความลำบากครั้งใหญ่จริงๆ"

ไม่เพียงแต่ร้านเช่าชุด โรงเรียนบางแห่งยังต้อง ปรับแผนกิจกรรมประจำปี ซึ่งรวมถึงงานกีฬาสี งานวันคริสต์มาส หรืองานแสดงของนักเรียน ทำให้ครูและผู้บริหารต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อปรับเปลี่ยนโปรแกรมการเรียนการสอน

 

🔹 เสียงสะท้อนจากครูและบุคลากรทางการศึกษา

ครูหลายท่านมองว่าการงดกิจกรรมรื่นเริงอาจกระทบต่อ แรงจูงใจและความสุขของนักเรียน เพราะกิจกรรมเหล่านี้เป็นจุดสำคัญที่นักเรียนตั้งตารอ และเป็นโอกาสให้เด็กได้แสดงความสามารถพิเศษ

คุณครูรายหนึ่งกล่าวว่า

 "กิจกรรมรื่นเริงไม่ได้มีเพียงความสนุกสนาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เราสอนเด็กเรื่องการทำงานร่วมกัน การแข่งขันอย่างเป็นธรรม และความคิดสร้างสรรค์ การงดกิจกรรมเหล่านี้นานเกินไป อาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการพัฒนาทักษะที่สำคัญ"

นอกจากนี้ ครูยังสะท้อนถึง ภาระงานของครูเอง เพราะต้องปรับเปลี่ยนแผนการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง และทำให้งบประมาณและทรัพยากรของโรงเรียนต้องจัดสรรใหม่

 

🔹 เสนอแนวทางปรับปรุงและพิจารณาระยะเวลา

ผู้ปกครองและครูบางส่วนเสนอให้ กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาปรับระยะเวลา ของมาตรการงดกิจกรรมรื่นเริง เพื่อให้สอดคล้องกับ ผลกระทบต่อการเรียนรู้และเศรษฐกิจชุมชน

แนวทางที่เสนอมีดังนี้:

1. ลดระยะเวลางดกิจกรรมรื่นเริง จาก 1 ปี เหลือ 3-6 เดือน ซึ่งยังเพียงพอที่จะถวายความอาลัยต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

2. อนุญาตให้จัดกิจกรรมที่มีลักษณะสร้างสรรค์และปลอดภัย เช่น การแสดงความสามารถ การประกวดวิชาการ หรือกิจกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอน

3. เยียวยาผู้ประกอบการ โดยเปิดโอกาสให้ร้านเช่าชุดและผู้จำหน่ายอุปกรณ์จัดกิจกรรมสามารถปรับโปรแกรมหรือเลื่อนงานได้ โดยไม่เสียโอกาสทางรายได้ทั้งหมด

4. สื่อสารอย่างชัดเจนกับผู้ปกครองและชุมชน เพื่อให้เข้าใจวัตถุประสงค์และแนวทางปฏิบัติ ลดความสับสนและความกังวล

 

🔹 ความคิดเห็นจากสังคมออนไลน์

นอกจากเสียงผู้ปกครองและครูแล้ว ความคิดเห็นจากสังคมออนไลน์ยังสะท้อนถึงความกังวล ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาทักษะเด็ก เช่น

ผู้ใช้งานรายหนึ่งกล่าวว่า “เด็ก ๆ รอคอยกิจกรรมนี้มาทั้งปี การยกเลิกยาว ๆ ทำให้เสียแรงจูงใจและความสนุกในการเรียน”

อีกคอมเมนต์ระบุว่า “ผู้ประกอบการร้านเช่าชุดลงทุนเยอะมาก การยกเลิกเป็นปีทำให้ธุรกิจอยู่ยากมาก”

ผู้ใช้งานอีกคนเสนอว่า “ควรให้มีข้อยกเว้นสำหรับกิจกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร เพื่อไม่กระทบการเรียนรู้ของเด็ก”

เสียงสะท้อนเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า มาตรการงดกิจกรรมรื่นเริงอย่างเคร่งครัดในระยะเวลา 1 ปีเต็ม อาจสร้างผลกระทบด้านบวกเพียงส่วนหนึ่ง แต่กลับกระทบด้านลบต่อสังคมและชุมชนอย่างมีนัยสำคัญ

 

🔹 สรุป

กรณีการงดกิจกรรมรื่นเริงของกระทรวงศึกษาธิการ หลังการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นมาตรการที่สะท้อนความเคารพและความอาลัยต่อพระองค์อย่างสูง แต่ผลกระทบที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็น การขาดโอกาสเรียนรู้ของนักเรียน การสูญเสียรายได้ของผู้ประกอบการร้านชุด และความกังวลของผู้ปกครองและครู ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการ