🕊️ “นฤมล” ชี้แจงชัด! ศธ. ไม่ได้ห้ามเด็กจัดกิจกรรมช่วงไว้อาลัย ย้ำเคารพสิทธิทุกฝ่าย

รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงคำสั่งงดกิจกรรมรื่นเริง 1 ปี ไม่กระทบกีฬาสี - ย้ำชัดไม่ปิดกั้นการแสดงออกของนักเรียน

หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกหนังสือด่วนที่สุด เพื่อขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานในสังกัด “งดจัดกิจกรรมที่มีลักษณะรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปี” เพื่อแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นั้น ข่าวดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ทันที โดยเฉพาะในหมู่ผู้ปกครองและนักเรียนที่แสดงความกังวลว่า มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลต่อกิจกรรมในโรงเรียน เช่น กีฬาสี การแสดงศิลปะ ดนตรี หรืองานวันสำคัญต่าง ๆ ภายในสถานศึกษา

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 นาง นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกมา ชี้แจงอย่างเป็นทางการ ถึงประเด็นนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน พร้อมยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าว ไม่ได้เป็นการห้ามกิจกรรมของนักเรียน แต่เป็นเพียงการขอความร่วมมือ “งดจัดกิจกรรมรื่นเริงในเชิงบันเทิง” ที่มีลักษณะครื้นเครง เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาแห่งความอาลัยของประเทศเท่านั้น

 

คำสั่ง ศธ. งดกิจกรรมรื่นเริง 1 ปี – เพื่อความเหมาะสมในช่วงเวลาแห่งความอาลัย

นางนฤมลได้อธิบายว่า หนังสือของกระทรวงศึกษาธิการที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น มีเนื้อหาชัดเจนว่าขอความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดให้ “งดจัดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปี” เพื่อแสดงออกถึงความอาลัยอย่างเหมาะสมต่อการสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนีผู้ทรงคุณูปการอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะด้านการศึกษา วัฒนธรรม และศิลปหัตถกรรมไทย

รัฐมนตรีฯ ย้ำว่า จุดประสงค์หลักของคำสั่งนี้ ไม่ใช่การปิดกั้นความสนุกสนานหรือการแสดงออกของนักเรียน แต่เป็นการขอให้ทุกภาคส่วนในระบบการศึกษา ปรับรูปแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น อาจลดความรื่นเริงของงานสังสรรค์ หรืองดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่ไม่จำเป็นในช่วงระยะเวลา 1 ปี เพื่อร่วมถวายความอาลัยอย่างเป็นทางการ

“กิจกรรมที่ขอให้งดจัดนั้น หมายถึงงานบันเทิง งานสังสรรค์ หรือกิจกรรมที่มีลักษณะเฉลิมฉลอง เช่น งานศิษย์เก่าพบปะ งานเลี้ยงส่ง งานแสดงความยินดีแบบครึกครื้น ไม่ได้หมายความว่าจะห้ามกิจกรรมการเรียนรู้หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ในโรงเรียนทั้งหมด” รมว.ศึกษาธิการกล่าว

 

ไม่กระทบ “กีฬาสี” หรือกิจกรรมเสริมหลักสูตรของนักเรียน

หนึ่งในคำถามที่ผู้ปกครองจำนวนมากแสดงความกังวล คือ มาตรการดังกล่าวจะส่งผลต่อ “กีฬาสีโรงเรียน” ซึ่งถือเป็นกิจกรรมสำคัญประจำปีของสถานศึกษาหรือไม่ เพราะกีฬาสีเป็นโอกาสให้นักเรียนได้รวมพลังสามัคคี แสดงความคิดสร้างสรรค์ และฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม

นางนฤมลได้ตอบประเด็นนี้อย่างชัดเจนว่า “กีฬาสียังสามารถจัดได้ตามปกติ” เพราะถือเป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่มีประโยชน์ต่อผู้เรียน และอยู่ในขอบข่ายของการส่งเสริมทักษะด้านร่างกายและสังคม ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว

“กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ห้ามกีฬาสี หรือกิจกรรมในลักษณะสร้างสรรค์แต่อย่างใด เพียงแต่ขอให้สถานศึกษาปรับรูปแบบให้เหมาะสม เช่น อาจลดความครื้นเครงในส่วนของการแสดงคอนเสิร์ตหรือการประกวดที่เน้นความสนุกสนานเกินไป แต่กิจกรรมการแข่งขันกีฬา การเชียร์สี หรือขบวนพาเหรดที่อยู่ในขอบเขตความเหมาะสมยังคงทำได้ตามปกติ” รัฐมนตรีกล่าวย้ำ

 

ย้ำชัด “ไม่ปิดกั้นการแสดงออกของนักเรียน” – สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์และเรียนรู้

นางนฤมลยังกล่าวต่อว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์อยู่เสมอ เพราะนั่นคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ การทำงานร่วมกัน และการสื่อสารในสังคม

ดังนั้น แม้จะมีมาตรการงดกิจกรรมรื่นเริง แต่ทางกระทรวงฯ ยังคงสนับสนุนให้โรงเรียนจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร เช่น

การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม

การประกวดความสามารถด้านวิชาการ

การแข่งขันทักษะอาชีพ

การจัดนิทรรศการแสดงผลงานของนักเรียน

รวมถึงกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม

ทั้งหมดนี้ถือเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้อย่างแท้จริง ไม่อยู่ในข่ายของ “งานรื่นเริงที่ต้องงดจัด”

“เราไม่อยากให้เด็กหรือครูเข้าใจผิดว่า ‘งดรื่นเริง 1 ปี’ หมายถึงห้ามทำกิจกรรมทุกอย่าง เพราะไม่ใช่แบบนั้นเลย กระทรวงต้องการให้ทุกโรงเรียนยังคงเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาการของนักเรียน เพียงแต่ให้จัดกิจกรรมโดยคำนึงถึงความเหมาะสมของช่วงเวลาเท่านั้น” รมว.ศึกษาธิการกล่าวเพิ่มเติม

 

สั่งการ “ปลัด ศธ.” เร่งแจ้งเขตพื้นที่และสถานศึกษาทั่วประเทศ – ป้องกันความเข้าใจผิด

เพื่อป้องกันความสับสนและการตีความผิดพลาด นางนฤมลเปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ส่งหนังสือเวียนไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ รวมถึงผู้บริหารสถานศึกษาทุกระดับ เพื่อสื่อสารให้เข้าใจตรงกันในแนวทางปฏิบัติ

โดยได้กำชับว่าให้แต่ละโรงเรียนอธิบายและประชาสัมพันธ์ให้กับ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง เข้าใจความหมายและขอบเขตของคำว่า “กิจกรรมรื่นเริง” อย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจนกลายเป็นประเด็นดราม่าในสังคม

“สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสาร ต้องให้ทุกคนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเราต้องการให้มาตรการนี้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสม ไม่ใช่กลายเป็นการสร้างความขัดแย้งหรือความเข้าใจผิดในหมู่ผู้ปกครองและนักเรียน” นางนฤมลกล่าวย้ำ

 

เสียงสะท้อนจากสังคม – ผู้ปกครองเข้าใจและเห็นด้วย

หลังจากมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กระแสความกังวลในโลกออนไลน์ก็เริ่มลดลง ผู้ปกครองจำนวนมากแสดงความเข้าใจและเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว โดยมองว่าเป็นเรื่องที่สมควรและเหมาะสมกับช่วงเวลาแห่งความอาลัย

หลายความคิดเห็นในโซเชียลระบุว่า “การงดงานรื่นเริงที่มีความครึกครื้นนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่กิจกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เช่น กีฬาสี หรือกิจกรรมจิตอาสา ยังคงควรจัดต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาเด็กในหลายมิติ”

ขณะเดียวกัน มีครูบางส่วนออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การออกคำสั่งในลักษณะนี้ช่วยให้โรงเรียนมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนมากขึ้น และสามารถวางแผนจัดกิจกรรมในปีการศึกษาได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ต้องกังวลว่าจะผิดนโยบายของกระทรวง

 

มองลึกกว่าคำสั่ง – โอกาสพัฒนาแนวคิดกิจกรรมรูปแบบใหม่

ในอีกมุมหนึ่ง นักวิชาการด้านการศึกษาหลายท่านมองว่า การงดกิจกรรมรื่นเริงในช่วงนี้อาจเป็นโอกาสดีให้โรงเรียนและครูได้ พัฒนากิจกรรมในรูปแบบใหม่ ที่เน้นคุณค่าเชิงการเรียนรู้มากขึ้น เช่น

การจัดกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

โครงการจิตอาสาในชุมชน

เวิร์กช็อปศิลปหัตถกรรมไทย เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

การสร้างสื่อการเรียนรู้ที่สะท้อนความกตัญญูและความจงรักภักดี

ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับช่วงเวลาแห่งความอาลัย แต่ยังช่วยเสริมสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับนักเรียนอีกด้วย

 

สรุปภาพรวม – ย้ำชัด “งดรื่นเริง” ไม่ใช่ “งดทุกอย่าง”

จากการชี้แจงทั้งหมดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สรุปได้ว่า คำสั่งงดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปีนั้น มีเป้าหมายเพื่อแสดงความอาลัยอย่างเหมาะสมต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเพื่อให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ปฏิบัติอย่างเป็นเอกภาพ โดย ไม่ได้ห้ามกิจกรรมการเรียนรู้ การแข่งขันกีฬา หรือการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนแต่อย่างใด

กระทรวงศึกษาธิการยังคงสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้พัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน ทั้งด้านวิชาการ ศิลปะ กีฬา และจิตอาสา เพียงแต่ขอให้จัดกิจกรรมด้วยความเหมาะสมทางอารมณ์และวัฒนธรรมในช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนี้

 

บทสรุปสุดท้าย

นโยบาย “งดกิจกรรมรื่นเริง 1 ปี” ของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ใช่การจำกัดเสรีภาพของเด็กนักเรียน แต่เป็นการวางแนวทางเพื่อให้ทุกโรงเรียนร่วมกันแสดงออกถึงความเคารพและความอาลัยอย่างสง่างาม พร้อมทั้งยังเป็นโอกาสให้วงการศึกษาไทยได้กลับมาทบทวนแนวทางการจัดกิจกรรมในเชิงคุณค่ามากกว่าความบันเทิง

ในขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ก็ยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า จะสนับสนุนทุกกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพของตนเอง เพราะ “การเรียนรู้ที่แท้จริง” ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในห้องเรียน แต่เกิดขึ้นจากการลงมือทำ ผ่านกิจกรรมที่มีความหมายและจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม

 

📰 สรุปสั้น ๆ สำหรับผู้อ่าน:

“งดรื่นเริง 1 ปี” ไม่ใช่ “งดกิจกรรมทั้งหมด”

โรงเรียนยังจัดกีฬาสี แข่งขันศิลปะ ดนตรี หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ได้

เพียงแต่ควรปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับช่วงเวลาแห่งความอาลัยเท่านั้น