ทนายแจงชัด! กัน จอมพลัง ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์มูลนิธิ
⚖️ ดราม่ามูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้: นรเศรษฐ์ชี้ชัด กฎหมายระบุอะไร “กัน จอมพลัง” ทำเองไม่ได้ แต่ยังยืนยันช่วยประชาชนต่อ
เรื่องราวของ “กัน จอมพลัง” หรือ กัณฐิศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมออนไลน์และวงการมูลนิธิอีกครั้ง หลังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับของ มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า หากมูลนิธิต้องเลิกล้ม ทรัพย์สินทั้งหมดที่เหลืออยู่จะตกเป็นของ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”
กรณีนี้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม โดยผู้คนเริ่มตั้งคำถามถึง ความโปร่งใสของมูลนิธิ การบริหารจัดการทรัพย์สิน และความเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเมือง
📌 นรเศรษฐ์ ชี้ชัดขั้นตอนทางกฎหมาย
ล่าสุด ทนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ได้ออกมาโพสต์ชี้ช่องทางกฎหมายในประเด็นนี้อย่างละเอียดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า การแก้ไขข้อบังคับมูลนิธิฯ ต้องดำเนินการผ่านมติของคณะกรรมการเท่านั้น ไม่สามารถให้ที่ปรึกษาหรือบุคคลใดสั่งการเอง
ทนายนรเศรษฐ์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงผู้รับทรัพย์สินของมูลนิธิ จาก “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า” ไปเป็นมูลนิธิอื่น ถือเป็นการ แก้ไขข้อบังคับของมูลนิธิ ซึ่งข้อบังคับข้อ 38 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า อำนาจในการแก้ไขข้อบังคับเป็นของที่ประชุมคณะกรรมการ
เงื่อนไขสำคัญ 2 ประการคือ
1. การประชุมต้องมีกรรมการเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด (องค์ประชุม)
2. มติอนุมัติให้แก้ไขต้องได้รับคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการที่เข้าร่วมประชุม
ทนายนรเศรษฐ์สรุปว่า อำนาจนี้เป็นของที่ประชุมคณะกรรมการอย่างแท้จริง ที่ปรึกษามูลนิธิไม่มีสิทธิ์แก้ไขเองได้
💬 ความเห็นจากทนายนรเศรษฐ์
แม้ทนายนรเศรษฐ์ไม่เคยรู้จักกัน จอมพลังเป็นการส่วนตัว แต่เขาก็แสดงความชื่นชมต่อบทบาทของกันในการช่วยเหลือผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรม
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากเขาอยู่ในฐานะของกัน จอมพลังและเชื่อมั่นอย่างสุจริตใจว่า การกำหนดทรัพย์สินเมื่อเลิกมูลนิธิให้ตกเป็นของมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นสิ่งถูกต้องตามเจตนารมณ์และหลักการที่ยึดถือ เขาก็จะไม่พยายามเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ แต่จะเดินหน้าทำงานตามเป้าหมายของมูลนิธิต่อไปอย่างไม่หวาดหวั่น
คำพูดของทนายนรเศรษฐ์ช่วยทำให้ประชาชนเข้าใจว่า แม้จะมีข้อสงสัยเรื่องการแก้ไขข้อบังคับ แต่ เจตนารมณ์ของมูลนิธิและการทำงานเพื่อประชาชนยังคงชัดเจน
⚡ การตอบโต้ของกัน จอมพลัง
หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กัณฐิศว์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้ออกมาชี้แจงว่า
ตนไม่ได้มีเจตนาจะยกเลิกมูลนิธิ
ไม่ได้โอนทรัพย์สินไปให้บุคคลอื่นหรือบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจง
มูลนิธิยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนต่อไป แม้ว่าปัจจุบันงบประมาณติดลบหลัก 10 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจากโครงการช่วยเหลือต่าง ๆ
เขาย้ำว่า เงินทุกบาททุกสตางค์และทรัพย์สินทั้งหมดถูกนำไปใช้ช่วยประชาชนและทหารชายแดน รถยนต์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็เป็นของมูลนิธิ ไม่ใช่ของส่วนตัว
นอกจากนี้เพื่อความโปร่งใสต่อสังคม กัน จอมพลัง ได้เตรียมปรับเปลี่ยนรายชื่อมูลนิธิผู้รับทรัพย์สินในกรณีเลิกกิจการ โดยเลือกมูลนิธิใหญ่ระดับประเทศที่ทำงานด้านการศึกษาและช่วยเหลือประชาชนเป็นผู้รับ
เขายืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับการโอนเงินหรือยุบมูลนิธิ แต่เป็นเพียงการแก้ไขรายละเอียดเพื่อความโปร่งใส
🛠️ การทำงานต่อเนื่องแม้มีงบติดลบ
เช้าวันที่ 23 ตุลาคม กัณฐิศว์เคลื่อนไหวผ่านโซเชียลของตัวเอง พร้อมย้ำว่า มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้จะเดินหน้าทำงานเพื่อสังคมและประชาชนต่อไป
เขาโพสต์ข้อความว่า
"ตื่นเช้ามาก็ลุยลงบล็อกคอนกรีต เตรียมสร้างบังเกอร์หลุมหลบภัยเพื่อแนวหน้าอีกแล้ว หลายคนอาจสงสัย ทำไมไม่หยุดสร้างสักที ก็เพราะยังมีหลายพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากใจของพวกเรา"
เขายังชี้แจงว่า พิกัดหน้างานไม่ได้ลงสู่สาธารณะ เพื่อป้องกันข้อมูลถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
"พวกเรามูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ขอเดินหน้าต่อด้วยใจที่เต็มไปด้วยพลังและความห่วงใย"
ข้อความนี้สะท้อนถึง ความตั้งใจและความมุ่งมั่นของกัน จอมพลัง ที่ไม่หวั่นต่อกระแสดราม่าหรือข้อสงสัยใด ๆ
📌 บทสรุปของเรื่องราว
เรื่องราวของ กัน จอมพลัง ในครั้งนี้มีหลายมิติ
1. มิติทางกฎหมาย – การแก้ไขข้อบังคับมูลนิธิเป็นอำนาจของคณะกรรมการ และที่ปรึกษาไม่สามารถสั่งการเองได้
2. มิติสังคมและสาธารณะ – ประชาชนและผู้ติดตามต้องเข้าใจว่าการบริหารมูลนิธิมีความซับซ้อน และการทำงานเพื่อสาธารณะต้องโปร่งใส
3. มิติการทำงานภาคสนาม – แม้ว่างบติดลบและมีข้อสงสัย แต่การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนยังดำเนินต่อเนื่อง และเห็นผลชัดเจน
4. ความโปร่งใสและความเชื่อมั่น – การแก้ไขรายละเอียดผู้รับทรัพย์สินเมื่อเลิกกิจการ เป็นการสร้างความชัดเจน ไม่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินหรือยุบมูลนิธิ
🌟 ข้อคิดสำหรับสังคม
เรื่องนี้สอนให้เห็นว่า การทำงานเพื่อสาธารณะไม่ง่าย ต้องมีความชัดเจนทางกฎหมาย และโปร่งใสในทุกขั้นตอน
ผู้ที่ทำงานจริงต้องได้รับการสนับสนุนและกำลังใจ
การตรวจสอบและวิจารณ์เป็นสิทธิ แต่ต้องพิจารณาข้อมูลและบริบทให้ครบถ้วน
ความตั้งใจและความมุ่งมั่นของผู้ทำงานภาคสนามสำคัญกว่าแค่ภาพลักษณ์บนโซเชียล
แม้จะมีแรงกดดันและข้อสงสัย แต่ กัน จอมพลัง ยังคงยืนยันทำงานเพื่อประชาชนต่อไป ด้วยหัวใจมุ่งมั่นและโปร่งใส
ชาร์จพลังชีวิตจากธรรมชาติรอบตัว ดูแลสุขภาพง่าย ๆ ไม่เสียเงินซักบาท
สส."รังสิมันต์ โรม" ยืนยัน ถ้าเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ มีนโยบายจัดการ"แก๊งสแกมเมอร์" ทันที
เขมรแช่งไทย เจอหายนะทันตา พนมเปญไหม้ 11 หลัง เสียชีวิต 1 ซ้ำร้าย ตำรวจเก๊ รีดไถต่างชาติโดนจับ สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง
พาส่องธุรกิจ ของคุณนานา ไรบีนา ที่หลายคนยังไม่เคยรู้
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
"ปู มัณฑนา" โพสต์ถึง "ดารา น." ติดหนี้ 400 ล้าน...ถูกเพจดังเล่นงานเหมือนตัวเองเป๊ะ!
เผยสถิติการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี..งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68
🎯 อัปเดตล่าสุด! แนวโน้มเลขเด็ดจากสำนักดัง & โซเชียล งวด 1 ธันวาคม 2568
เขมรโคม่าหนี้สาธารณะ รัฐบาลลูกชาย"ฮุนเซน" สั่งกู้แสนล้าน หลายฝ่ายมอง เงินที่กู้มา อาจใช้ซื้อยุทโธปกรณ์มากกว่าพัฒนาประเทศ
เกมการทดสอบแรงลม จากการเคลื่อนไหว 🕺 💃 (เขื่อนลำตะคอง)
2 เดือนบนถนน เรื่องราวสะเทือนใจของ "บรูโน่" สุนัขถูกทิ้ง แต่ยังรอเจ้าของที่เดิมไม่ไปไหน
“ตุ๊กตาไทจื้อและหมวกจองจอหงวน” พิธีกรรมความเชื่อในโรงงิ้วตามคติชนวิทยาของชาวจีน
เขมรแช่งไทย เจอหายนะทันตา พนมเปญไหม้ 11 หลัง เสียชีวิต 1 ซ้ำร้าย ตำรวจเก๊ รีดไถต่างชาติโดนจับ สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง
เผยสถิติการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี..งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68
🎯 อัปเดตล่าสุด! แนวโน้มเลขเด็ดจากสำนักดัง & โซเชียล งวด 1 ธันวาคม 2568
ผัก ผลไม้ กินแล้ว "ตัวหอม"
เครือร้านโซบะในญี่ปุ่นติดประกาศให้นักท่องเที่ยวอย่ามาทานในช่วงเวลาอาหารกลางวัน
เกมการทดสอบแรงลม จากการเคลื่อนไหว 🕺 💃 (เขื่อนลำตะคอง)
"นานา ไรบีนา" เปิดใจร่ำไห้ ขอโทษครอบครัว-เพื่อนๆที่ทำให้ผิดหวัง ขยะแขยงตัวเอง ยืนยัน หนี้สินทั้งหมดไม่เกี่ยวกับการพนันแต่ เป็นการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด
นาทีระทึก หม้อแปลงระเบิด ที่หาดใหญ่ 22 พ.ย. 68
สส."รังสิมันต์ โรม" ยืนยัน ถ้าเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ มีนโยบายจัดการ"แก๊งสแกมเมอร์" ทันที
เขมรแช่งไทย เจอหายนะทันตา พนมเปญไหม้ 11 หลัง เสียชีวิต 1 ซ้ำร้าย ตำรวจเก๊ รีดไถต่างชาติโดนจับ สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง


