เปิดเส้นทาง “กัน จอมพลัง” จากพ่อค้าบะหมี่ชามยักษ์ สู่นักอาสาผู้เขย่าโซเชียลระดับประเทศ!
💪 ทำความรู้จัก “กัน จอมพลัง” จากพ่อค้าบะหมี่ชามยักษ์ สู่มหาเศรษฐีหนุ่มใจบุญ ผู้ยืนหยัดช่วยเหลือประชาชนและต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
ในโลกโซเชียลทุกวันนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ “กัน จอมพลัง” หรือชื่อจริง กัณฐ์ศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ชายร่างใหญ่หัวใจยักษ์ที่มักจะปรากฏตัวในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของสังคมไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประชาชนเดือดร้อน เขามักจะ “ลงมือจริง” ทั้งช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก สนับสนุนทรัพยากร และเป็นกระบอกเสียงให้กับคนที่ถูกเอาเปรียบ
จากชายหนุ่มธรรมดาที่เริ่มต้นชีวิตด้วยการขายบะหมี่ริมตลาด จนเติบโตเป็นเจ้าของแบรนด์ “บะหมี่จอมพลัง” ที่โด่งดังทั่วประเทศ และต่อยอดสู่การเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ เรื่องราวชีวิตของเขานั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
🍜 จุดเริ่มต้นของ “จอมพลัง” จากบะหมี่ชามใหญ่สู่ชื่อเสียงระดับประเทศ
ก่อนที่ “กัน จอมพลัง” จะกลายเป็นชื่อที่คนทั้งประเทศรู้จัก เขาเคยเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาที่มีความฝันอยากสร้างธุรกิจของตัวเอง เขาเริ่มต้นเปิดร้านบะหมี่เล็ก ๆ ที่ ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ ซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นตลาดกลางคืนยอดนิยมของวัยรุ่นและครอบครัว
สิ่งที่ทำให้ร้านของเขาไม่เหมือนใคร คือ “ขนาด” ของบะหมี่ — ใช่แล้ว!
บะหมี่จอมพลัง ของเขามีชามใหญ่เท่ากะละมัง พร้อมเครื่องแน่นเต็มอิ่ม ทั้งหมูแดง หมูกรอบ ลูกชิ้น ไข่ และผักแบบจัดเต็มจนกินได้ทั้งครอบครัว
ไอเดียนี้ถือว่า “ล้ำยุค” เพราะในช่วงเวลานั้น ยังไม่มีร้านไหนทำบะหมี่ชามใหญ่ไซซ์จัมโบ้แบบนี้มาก่อน จึงทำให้ชื่อของร้าน “บะหมี่จอมพลัง” กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว
ลูกค้าจำนวนมากต่างเดินทางมาถ่ายรูปและแชร์ลงโซเชียล จนทำให้ร้านกลายเป็นแหล่งเช็กอินยอดนิยม มีรายการทีวีหลายช่องติดต่อมาถ่ายทำ โดยเฉพาะรายการดังอย่าง “อายุน้อยร้อยล้าน” ทางช่อง Workpoint ที่เปิดโอกาสให้เขาได้เล่าเรื่องราวการเริ่มต้นธุรกิจจากศูนย์
หลังออกอากาศเพียงไม่นาน “กัน จอมพลัง” ก็กลายเป็นชื่อที่ทุกคนจดจำ และธุรกิจบะหมี่ของเขาก็ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ ตลาดรันเวย์ ร่มเกล้า และหลายแห่งทั่วกรุงเทพฯ
💔 ช่วงเวลาที่ยากลำบาก — เมื่อธุรกิจต้องปิดตัว
แม้ร้าน “บะหมี่จอมพลัง” จะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่ไม่มีเส้นทางไหนที่ราบรื่นตลอดไป เพราะในปี 2564 ช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักในประเทศไทย ร้านอาหารหลายแห่งได้รับผลกระทบ รวมถึงร้านของเขาด้วย
ในวันที่ 17 กันยายน 2564 “กัน จอมพลัง” ตัดสินใจประกาศ ปิดร้านบะหมี่จอมพลังสาขาตลาดนัดรถไฟ ซึ่งเป็นสาขาแรกที่เปิดมากว่า 10 ปีเต็ม
เขาโพสต์ข้อความอำลาลูกค้าอย่างซึ้งใจ พร้อมเปิดใจว่าการปิดร้านครั้งนี้ไม่ใช่เพราะขาดแรงบันดาลใจ แต่เป็นเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจและมาตรการควบคุมโรคที่กระทบหนักจนไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายได้อีกต่อไป
แต่แทนที่เขาจะจมอยู่กับความเศร้า “กัน จอมพลัง” กลับใช้ช่วงเวลานี้พลิกชีวิตตัวเองอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนจาก “พ่อค้าบะหมี่” มาเป็น “ผู้ให้” ที่ช่วยเหลือผู้คนในยามเดือดร้อน
🚑 จุดเปลี่ยนของชีวิต — จากผู้ประกอบการสู่ผู้ช่วยเหลือประชาชน
เมื่อธุรกิจต้องหยุดชะงัก “กัน จอมพลัง” ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เขาเริ่มต้นลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยใช้เงินส่วนตัวและแรงกายแรงใจของตัวเอง
เขาร่วมกับเพื่อน ๆ ระดมทุนจัดซื้อ รถพยาบาล เตียงผู้ป่วย และถังออกซิเจน เพื่อบริจาคให้โรงพยาบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ขาดแคลนในช่วงวิกฤต
ภาพของชายร่างใหญ่ที่ขับรถตระเวนแจกของ ช่วยคนติดเชื้อ และจัดหาทรัพยากรให้โรงพยาบาล ถูกแชร์ออกไปทั่วโลกออนไลน์ จนกลายเป็นไวรัลอีกครั้ง
ชาวเน็ตต่างยกให้ “กัน จอมพลัง” เป็น “ผู้ให้ตัวจริง” และนับแต่นั้นมา เขาก็กลายเป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมที่มีคนติดตามมากที่สุดในประเทศไทย โดยเพจ “กัน จอมพลัง ช่วยสู้” มีผู้ติดตามมากกว่า 9.1 ล้านคน
⚖️ เสียงแห่งความยุติธรรม — นักสู้เพื่อสิทธิของคนตัวเล็ก
นอกจากการช่วยเหลือด้านสิ่งของ “กัน จอมพลัง” ยังใช้ชื่อเสียงของตนเองเป็นกระบอกเสียงให้ผู้ที่ถูกเอาเปรียบในสังคม
หลายครั้งที่เราจะเห็นเขาออกมา “ไลฟ์สด” หรือ “โพสต์ช่วยเหลือคดีต่าง ๆ” โดยเฉพาะกรณีที่ประชาชนถูกโกง ถูกหลอก หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม เขามักจะเข้าไปช่วยเหลือเป็นตัวกลางประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่ “ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง” เพื่อหาความจริงให้กับผู้เสียหาย
ไม่ว่าจะเป็น คดีหลอกลงทุน คดีลูกจ้างไม่ได้รับค่าจ้าง หรือคดีชาวบ้านถูกกลั่นแกล้งโดยผู้มีอิทธิพล เขามักจะเป็นคนแรก ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วย
สิ่งเหล่านี้ทำให้ “กัน จอมพลัง” กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ความกล้าและความยุติธรรม” ที่หลายคนศรัทธา
👨👩👧 ด้านชีวิตส่วนตัว — ครอบครัวอบอุ่นและภรรยาคู่ใจ
ในด้านชีวิตส่วนตัว “กัน จอมพลัง” แต่งงานกับ หมิว ลลิตา หงสะมัด อดีตนางงามจากหลายเวที ซึ่งปัจจุบันเธอคอยเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานของสามี ทั้งคู่มีลูกสาวสุดน่ารักชื่อว่า “น้องหมี่เกี๊ยว” ที่เป็นแก้วตาดวงใจของครอบครัว
หลายครั้งที่กันแชร์ภาพลูกสาวลงโซเชียล มักจะมีแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมความน่ารักอบอุ่นของครอบครัวนี้เสมอ เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ลูกและครอบครัวคือแรงผลักดันสำคัญที่สุดในชีวิต”
🌍 จากชายธรรมดาสู่สัญลักษณ์แห่ง “พลังใจ”
เมื่อมองย้อนกลับไป จะเห็นได้ว่าชีวิตของ “กัน จอมพลัง” คือภาพสะท้อนของคำว่า “ไม่ยอมแพ้”
เขาเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีต้นทุนชีวิตมากมาย แต่ใช้แรงกายและความคิดสร้างสรรค์สร้างธุรกิจจนมีชื่อเสียง และเมื่อธุรกิจต้องล้ม เขาก็ลุกขึ้นมาสร้างคุณค่าด้วยการช่วยเหลือคนอื่นแทน
สิ่งที่เขาทำไม่ได้แค่สร้างความหวังให้กับผู้ที่กำลังตกทุกข์ได้ยากเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่อยากใช้ชีวิตเพื่อ “ให้” มากกว่า “รับ”
📱 เส้นทางปัจจุบันและสิ่งที่หลายคนยังไม่รู้
ปัจจุบัน “กัน จอมพลัง” ยังคงเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการให้ความรู้ทางกฎหมาย การช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อ และกิจกรรมเพื่อสังคมในหลายรูปแบบ เช่น
การเปิดโครงการช่วยเหลือครอบครัวยากจน
การสนับสนุนทุนการศึกษาให้เด็กในพื้นที่ห่างไกล
การลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ
การประสานงานกับตำรวจและหน่วยงานรัฐเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เดือดร้อน
นอกจากนี้ เขายังเริ่มมีโครงการ “อบรมเยาวชนต้นแบบจิตอาสา” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้าออกมาทำความดี
สิ่งที่น่าสนใจคือ ทุกครั้งที่มีคดีหรือเหตุการณ์ที่คนในสังคมกำลังได้รับความเดือดร้อน มักจะมีคอมเมนต์จำนวนมากว่า “รอกันจอมพลังมาแล้ว” แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อเขา
💬 คำพูดที่สะท้อนตัวตนของ “กัน จอมพลัง”
กันเคยพูดไว้ในรายการสัมภาษณ์หนึ่งว่า
“ผมไม่อยากให้คนมองว่าผมเป็นฮีโร่ ผมแค่อยากเป็นคนธรรมดาที่ไม่ยอมให้ความอยุติธรรมเกิดขึ้นเฉย ๆ”
ประโยคนี้กลายเป็นวลีที่แฟนคลับจำนวนมากแชร์ต่อ เพราะมันสะท้อนถึงความจริงใจและจิตใจที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ของเขา
🙌 บทสรุป — ผู้ชายคนนี้คือพลังของสังคมไทย
จากพ่อค้าบะหมี่ธรรมดา สู่ชายผู้มีหัวใจยิ่งใหญ่ “กัน จอมพลัง” คือหนึ่งในบุคคลที่แสดงให้เห็นว่า “ความดีไม่ต้องมีตำแหน่ง”
แม้จะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือคนมีอำนาจ แต่เขาใช้พลังของตนเองอย่างเต็มที่เพื่อสังคม จนวันนี้ชื่อของเขาไม่ได้หมายถึงแค่บะหมี่ชามใหญ่ แต่หมายถึง “พลังแห่งความหวัง” ที่ส่งต่อให้คนไทยทั้งประเทศ
และหากคุณอยากติดตามผลงานของเขา สามารถเข้าไปดูได้ที่เพจ Facebook: กันจอมพลัง ช่วยสู้
ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราวดี ๆ ของการให้ และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของคนตัวเล็กในสังคม
สรุป:
“กัน จอมพลัง” ไม่ใช่แค่ชื่อ แต่คือพลังใจของคนไทย ที่พิสูจน์แล้วว่า ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ใช่การมีเงินทองมากที่สุด แต่คือการได้ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างสุดหัวใจ ❤️
ธนาคารกรุงไทย แจ้งข่าว! ประกาศยุติให้บริการ แอปพลิเคชันเป๋าตุง
ผู้ว่านนทบุรีได้แจ้งความเกี่ยวกับกรณี "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ที่มีการปลอมลายเซ็นเพื่อจัดตั้งมูลนิธิ
ด่วน ไฟไหม้ตึกถล่ม กลางเมืองเขมร เสียหายหนัก วันนี้
ก๊อกน้ำแบบคันโยก เชื่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่สำคัญน้ำไม่เคยแห้งขอดแม้จะแล้งขนาดไหน (อินเดีย)
"ซีสน้ำผึ้งมะนาว" เมนูสำหรับคนที่ถือศีล 8 สิ่งที่ทานได้ ในอินเดีย
แนะนำวิธีเติมเงินเข้า G Wallet บนแอปเป๋าตัง ใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส 29 ต.ค.นี้
ประวัติศาสตร์การปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา
สูตรทำส้าอั่วเองง่ายๆ กลิ่นหอมพริกตะไคร้แรงถึงใจแบบเหนือแท้!
ขาเดียวก็เฟี้ยวได้ พ่อค้าลอตเตอรี่ ขี่ จยย. โชว์ผาดโผนยกขาโชว์ก่อนจะล้มกลิ้งกลางถนน นึกว่าโชว์บีบอย
หลงรักในความอร่อยของข้าวสาลี เม็ดสวยนุ่มลิ้น (อินเดีย)
โคตรสิ้นหวัง! เมื่อเข้าห้องน้ำแล้วเจอสายชำระแบบนี้ คงต้องสละถุงเท้าข้างนึงแล้วแหละ 🤣
หนุ่ม “เขมร” ถือป้ายประณามไทย กลางเมืองหลวงแคนาดา แต่ไร้คนสนใจ!
“อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” จวกกองทัพไร้ศักยภาพ! จัดหาส้วมให้แนวหน้ายังทำไม่ได้ ต้องให้ลูกน้องไปขอมูลนิธิช่วยแทน
ผู้ว่านนทบุรีได้แจ้งความเกี่ยวกับกรณี "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ที่มีการปลอมลายเซ็นเพื่อจัดตั้งมูลนิธิ
ประวัติศาสตร์การปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา
ด่วน ไฟไหม้ตึกถล่ม กลางเมืองเขมร เสียหายหนัก วันนี้
ก๊อกน้ำแบบคันโยก เชื่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่สำคัญน้ำไม่เคยแห้งขอดแม้จะแล้งขนาดไหน (อินเดีย)
“ทนายเดชา” สวนกลับเดือด! หลัง “กัน จอมพลัง” ชี้แจงข้อมูลมูลนิธิ บางจุดยังไม่เคลียร์ – ชี้มีลักษณะคล้าย ถูกครอบงำ
แรงสะเทือนโซเชียล! หนุ่มก่อสร้างเขมรอัดคลิปฝากถึงคนไทย — “ตึกสูง ๆ ทางด่วน มีแต่คนเขมรสร้างให้ อย่าเนรคุณ”
เปิดฤดูกาลหมอลำร้อยล้าน “เกรียงไกรอีสานศิลป์” เวทีแสง สี เสียง อลังการ สร้าง Soft Power หมอลำไทยดังไกลทั่วโลก
“ดิว ธีรภัทร” ยืนยันไม่ขอเงินบริจาคคืน — มองว่าได้ทำบุญแล้ว ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด




