🔥 เดือดกลางโซเชียล! “ฮุนเซน” ฟาดแรงอินฟลูฯ เขมร เผาสินค้าไทย ลั่นอย่าทำประเทศเสียหน้า!
ดราม่าร้อนแรง! “สมเด็จฮุน เซน” ตำหนิอินฟลูเอนเซอร์กัมพูชา หลังเผาสินค้าไทยในคลิปวีดีโอ
21 ตุลาคม 2568 เป็นวันที่สังคมออนไลน์กัมพูชาและไทยต่างให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากมีข่าวด่วนว่าประธานวุฒิสภากัมพูชา “สมเด็จฮุน เซน” ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจ Samdech Hun Sen of Cambodia ถึงกรณีที่อินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชาคนหนึ่งชื่อ ต้า หนิ ได้อัดคลิปวีดีโอขณะกำลังเผาสินค้าจากไทยอย่างโจ่งแจ้งในที่สาธารณะ ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความตระหนกให้ทั้งผู้ประกอบการไทยและประชาชนกัมพูชาเป็นอย่างมาก
คลิปวิดีโอดังกล่าวมีความยาวกว่า 8 นาที โดยมีคุณ K01 เป็นผู้นำกิจกรรมคว่ำบาตรสินค้าจากไทยในคลิป ซึ่งในระหว่างการถ่ายทอดเหตุการณ์ ต้า หนิ และ K01 ได้แสดงออกเชิงก้าวร้าวต่อสินค้าไทยด้วยการเผาและวิพากษ์วิจารณ์ผู้ขายอย่างรุนแรง
ประธานวุฒิสภากัมพูชาแสดงความผิดหวังอย่างแรง
ในโพสต์ของสมเด็จฮุน เซน ระบุว่า หลังจากที่ตนเองได้ชมคลิปวิดีโอทั้งหมด ตนรู้สึก ผิดหวังอย่างมากต่อการกระทำของทั้งคู่ โดยเฉพาะการกระทำของคุณ K01 ซึ่งถือว่าเป็นการ แสดงออกที่เกินกว่าความรักชาติและหัวรุนแรง จนสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประชาชนกัมพูชา
สมเด็จฮุน เซนได้ตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบของผู้ทำคลิป โดยกล่าวว่า “ชาวกัมพูชาจำนวนมากกำลังคว่ำบาตรสินค้าไทยเกือบ 99% ไม่ว่าจะเป็นคนในประเทศหรือกัมพูชาที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ แต่คำถามคือ แม่ค้าที่มีสินค้าไทยเหลืออยู่ควรนำไปขายที่ไหน?”
เขายังเสริมอีกว่า การเผาสินค้าไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง เพราะสินค้าเหล่านี้อาจนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น นำไปเลี้ยงสัตว์ หรือขายต่อเพื่อเอาทุนคืน ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกที่ สร้างคุณค่าและลดความสูญเสีย แทนการทำลายทิ้งอย่างสิ้นเปลือง
เน้นย้ำคุณค่าทางศีลธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม
ข้อความของสมเด็จฮุน เซนยังสอดแทรกประเด็นทางศีลธรรมและความเหมาะสมในสังคม โดยกล่าวว่า “ผมขอให้คุณ K01 หยุดกิจกรรมที่ไร้สติแบบนี้ทันที และร่วมเสริมสร้างคุณค่าทางศีลธรรม ความเหมาะสม คุณธรรม และศักดิ์ศรีของชาติ”
นี่ถือเป็นการเตือนอย่างชัดเจนต่ออินฟลูเอนเซอร์และประชาชนกัมพูชาทุกคนว่า การแสดงออกเพื่อความรักชาติไม่ควรทำให้เกิด ความรุนแรงหรือความเสียหายต่อผู้อื่น และควรใช้เหตุผลและความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นหลัก
คำแนะนำในการจัดการสินค้าเก่าและสินค้าใหม่
นอกจากการตำหนิการเผาสินค้าแล้ว สมเด็จฮุน เซนยังให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติต่อผู้ประกอบการกัมพูชา โดยชี้ว่า การขายสินค้าเก่าเป็นเรื่องปกติและสามารถทำได้ แต่ ไม่ควรนำเข้าสินค้าใหม่มาแอบอ้างเป็นสินค้าเก่า เพราะจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้บริโภคและทำลายความน่าเชื่อถือของตลาด
นอกจากนี้ เขายังเน้นให้ประชาชนตรวจสอบสินค้าที่ซื้อว่าเป็นสินค้าใหม่หรือเก่า และคำนึงถึงวันหมดอายุของสินค้าอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและความเสียหายทางเศรษฐกิจ
ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
เหตุการณ์การเผาสินค้าไทยนี้สร้างความตึงเครียดในมิติของ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เนื่องจากสินค้าไทยถือเป็นส่วนหนึ่งของการค้าระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งในอดีตทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ด้านการค้าส่งออกและนำเข้าสินค้าที่แน่นแฟ้น
การที่อินฟลูเอนเซอร์กัมพูชาออกมาเผาสินค้าไทยโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ นอกจากทำลายสินค้าที่มีมูลค่าแล้ว ยัง สร้างภาพลบต่อชาวกัมพูชาในสายตาประชาคมระหว่างประเทศ อีกด้วย
สมเด็จฮุน เซนจึงเน้นย้ำว่า การกระทำแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อชาติและประชาชน และควรส่งเสริมให้มีการ ผลิตและบริโภคสินค้าท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของกัมพูชาอย่างยั่งยืน
ประเด็นเชิงสังคมและอินฟลูเอนเซอร์
ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลสูง อินฟลูเอนเซอร์มีบทบาทสำคัญในการ สร้างกระแสและอิทธิพลต่อความคิดเห็นของประชาชน ดังนั้นการกระทำที่ไม่รอบคอบ เช่น การเผาสินค้า หรือแสดงออกเชิงก้าวร้าวต่อผู้อื่น สามารถส่งผลเสียต่อสังคมอย่างมหาศาล
สมเด็จฮุน เซนชี้ชัดว่า การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแสดงออกความรักชาติ ควรใช้สติปัญญาและความรับผิดชอบ ไม่ใช่ทำลายสินค้าหรือทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเสียหาย
นี่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่ ๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อผู้ติดตามหลายแสนคน เพราะการกระทำเล็ก ๆ อาจสร้าง ผลกระทบใหญ่ต่อสังคมและเศรษฐกิจ
การสร้างความตระหนักรู้ด้านเศรษฐกิจและการบริโภค
นอกจากเรื่องศีลธรรมแล้ว สมเด็จฮุน เซนยังเน้นเรื่อง การสร้างความตระหนักรู้ด้านเศรษฐกิจและการบริโภค โดยแนะนำให้ประชาชนสนับสนุนสินค้าในประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นการลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าอย่างไม่จำเป็น
การผลิตสินค้าท้องถิ่นและสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศ จะช่วยสร้าง รายได้หมุนเวียนในประเทศ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาสินค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว
แนวทางแก้ไขปัญหาการคว่ำบาตรสินค้า
สมเด็จฮุน เซนยังเสนอแนวทางที่เป็น ทางออกสร้างสรรค์ ต่อปัญหาการคว่ำบาตรสินค้าไทย โดยชี้ให้เห็นว่า แทนที่จะเผาสินค้า สามารถใช้ทางเลือกอื่น เช่น
1. ขายต่อสินค้าที่เหลืออยู่ เพื่อคืนทุนให้กับผู้ประกอบการ
2. นำสินค้าไปเลี้ยงสัตว์ หากสินค้าไม่สามารถบริโภคได้โดยตรง
3. บริจาคให้กับชุมชนหรือผู้ยากไร้ เพื่อสร้างประโยชน์ทางสังคม
แนวทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่ลดความสูญเสีย แต่ยังเป็น ตัวอย่างของการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ
บทสรุป: ความรักชาติควรมาพร้อมกับความรับผิดชอบ
เหตุการณ์ครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ความรักชาติไม่ควรมาพร้อมกับความรุนแรงหรือการทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น การแสดงออกทางสังคมควรใช้ เหตุผล ความรู้ และความรับผิดชอบต่อสังคม
สมเด็จฮุน เซนได้ส่งสารชัดเจนถึงอินฟลูเอนเซอร์และประชาชนกัมพูชา: การรักชาติคือการสร้างคุณค่า ไม่ใช่ทำลายของมีค่า การสนับสนุนสินค้าในประเทศ การผลิตสินค้าในท้องถิ่น และการบริหารทรัพยากรอย่างชาญฉลาด คือการรักชาติที่แท้จริง
สรุปประเด็นสำคัญของเรื่อง
อินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชาเผาสินค้าไทยในคลิป 8 นาที
สมเด็จฮุน เซน ตำหนิการกระทำนี้ว่าเป็น หัวรุนแรงและไร้สติ
แนะนำให้ใช้สินค้าที่เหลือประโยชน์ ไม่เผาทำลาย
สนับสนุนการขายสินค้าเก่า แต่ไม่แอบอ้างว่าสินค้าใหม่เป็นเก่า
เน้นการผลิตและบริโภคสินค้าท้องถิ่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
การรักชาติควรมาพร้อมกับ ความรับผิดชอบและศีลธรรม
อินฟลูเอนเซอร์ควรใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ เพื่อสร้างคุณค่า ไม่ทำลายสังคม



















