ชาวญี่ปุ่นมีงง คนไทยกินซูชิที่ตั้งขายกลางอากาศร้อนๆได้ยังไง ท้องไม่เสียหรือ ?
กลายเป็นประเด็นไวรัลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งในไทยและญี่ปุ่น เมื่อภาพ “ซูชิกลางแจ้งในประเทศไทย” ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียต่างประเทศ ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยตั้งแผงขายซูชิหลากสีเรียงรายอยู่บนโต๊ะโล่ง ๆ ท่ามกลางอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส และที่น่าทึ่งคือ… ขายดีมาก! ผู้คนต่อคิวยาวเหยียด บางร้านหมดเกลี้ยงตั้งแต่ยังไม่ถึงบ่าย
ภาพนี้สร้างความตกตะลึงให้กับชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อย หลายคนตั้งคำถามว่า “กินเข้าไปได้ยังไงโดยไม่ท้องเสีย?” ขณะที่บางคนถึงกับยกมือกุมขมับ บอกว่า “นี่ไม่น่าเรียกว่าซูชิเลยด้วยซ้ำ!” เพราะข้าวที่ใช้ดูเหมือนไม่ได้หมักด้วยน้ำส้มสายชูตามสูตรดั้งเดิมของญี่ปุ่น และวัตถุดิบหลายอย่างก็ดูไม่สดเท่ามาตรฐานซูชิในบ้านเกิดของพวกเขา
แต่แทนที่จะเกิดดราม่าหนัก ชาวเน็ตไทยกลับเข้ามาร่วมวงแสดงความคิดเห็นแบบอารมณ์ดี หลายคนตอบกลับอย่างขำขัน เช่น “ถ้ารู้ว่าคนไทยกินซูชิกับน้ำจิ้มซีฟู้ดนะ จะอกแตกตายเลยรึเปล่าเนี่ย!” บางคนเสริมว่า “ซูชิไทยมันคือสตรีทฟู้ดต่างหาก ไม่ใช่โอมากาเสะ” พร้อมแนบภาพซูชิหน้าปูอัด ไข่หวาน หรือแซลมอนรมควัน ที่ตกแต่งด้วยมายองเนสและซอสศรีราชาแบบไทย ๆ เพิ่มความเผ็ดแซ่บในสไตล์ท้องถิ่น
ความจริงแล้ว “ซูชิไทย” หรือ “ซูชิสตรีทฟู้ด” เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับตลาดนัดและห้างสรรพสินค้าในไทยมานานหลายปี จุดเด่นคือราคาย่อมเยา ชิ้นละ 5–10 บาท มีให้เลือกหลากหลายหน้า และมักเก็บไว้ในกล่องแช่เย็นหรือวางกลางแจ้งช่วงสั้น ๆ ก่อนขายหมดในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ชาวไทยส่วนใหญ่คุ้นชินกับการกินอาหารที่ผ่านการปรับให้เหมาะกับอากาศร้อนและระบบย่อยอาหารของคนในพื้นที่ ซึ่งต่างจากประเทศญี่ปุ่นที่เน้นความสดสะอาดและอุณหภูมิควบคุมเข้มงวด
แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากชาวญี่ปุ่นบางส่วน แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่มองด้วยความเข้าใจและเอ็นดู บางคนคอมเมนต์ว่า “เห็นคนไทยยิ้มกินกันอย่างมีความสุข ก็น่าจะโอเคแล้วล่ะ” ขณะที่บางคนยอมรับว่า อยากลองชิมดูสักครั้งว่า “ซูชิเมืองร้อน” จะมีรสชาติแตกต่างจากซูชิแบบญี่ปุ่นขนาดไหน
ท้ายที่สุด เรื่องนี้จึงไม่ได้กลายเป็นการถกเถียงเชิงลบ หากแต่สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมด้านอาหารที่น่าสนใจ — ซูชิในญี่ปุ่นอาจเป็นสัญลักษณ์ของศิลปะและความประณีต แต่ในประเทศไทย มันคือของกินเล่นง่าย ๆ ที่เข้าถึงได้ทุกคน เป็นรสชาติของความสุขราคาย่อมเยา ที่แม้จะละเมิดกฎตำราญี่ปุ่นไปบ้าง… ก็ยัง “อร่อยในแบบไทย ๆ” อยู่ดี.
ขอบคุณที่มาภาพ - X (TAKU@バンコク)





















