ข่าวคราวชาวเพื่อนบ้าน : กองทัพเมียนมาได้เปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ เข้าบุกตรวจค้น ศูนย์อาชญากรรมไซเบอร์ “KK Park” บริเวณเมืองเมียวดี ใกล้ชายแดนไทย
กองทัพเมียนมาได้เปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ เข้าบุกตรวจค้น ศูนย์อาชญากรรมไซเบอร์ “KK Park” บริเวณเมืองเมียวดี ใกล้ชายแดนไทย เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากการบุกตรวจสอบพบแรงงานที่ถูกบังคับให้ทำงานกว่า 2,100 คน พร้อมยึดอุปกรณ์ดาวเทียม Starlink จำนวน 30 เครื่อง ที่ใช้เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตเพื่อดำเนินการหลอกลวงออนไลน์
ศูนย์ KK Park ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งใน “เครือข่ายโกงไซเบอร์” ขนาดใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้กลวิธีหลอกล่อแรงงานต่างชาติให้เข้ามาทำงานด้วยข้อเสนอรายได้สูง แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลับถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขังไว้ภายในพื้นที่ปิด และบังคับให้ทำงานหลอกลวงทางออนไลน์ เช่น หลอกให้รัก (Romance Scam) หรือ หลอกลงทุนผ่านคริปโทเคอร์เรนซีและแพลตฟอร์มปลอม ซึ่งมีเหยื่อทั่วโลกตกเป็นเป้าหมาย
แม้ระบบอินเทอร์เน็ต Starlink จะยังไม่ได้รับอนุญาตให้ให้บริการในเมียนมาอย่างเป็นทางการ แต่มีการลักลอบนำเข้าอุปกรณ์เหล่านี้อย่างแพร่หลาย เพื่อใช้ในการสื่อสารและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครือข่ายโกงไซเบอร์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งตรวจสอบเส้นทางการนำเข้าและการใช้งานของอุปกรณ์ดังกล่าว
ในแถลงการณ์ของรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2025 ระบุว่า ปฏิบัติการเข้าตรวจค้นครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยอาคารหลากหลายรูปแบบ ทั้งอาคารชั้นเดียว 10 หลัง อาคารสองชั้นกว่า 100 หลัง และอาคารสูง 4-5 ชั้นอีกหลายหลัง รวมถึงร้านค้า หอพัก และคลินิกภายในพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่กว่า 90 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวไปสอบสวน
เจ้าหน้าที่ระบุเพิ่มเติมว่า ไม่พบเอกสารสิทธิ์ที่ดิน หรือใบอนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ผู้ดูแลหรือเจ้าของโครงการไม่ได้มาปรากฏตัวตามหมายเรียก ซึ่งรัฐบาลทหารประกาศว่าจะมี “การดำเนินการทางวินัยอย่างเข้มงวด” ต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
องค์กรสิทธิมนุษยชน Justice for Myanmar (JFM) เปิดเผยว่า KK Park แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ KK Park 1 และ KK Park 2 ซึ่งทั้งสองแห่งมีความเชื่อมโยงกับ กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (Karen Border Guard Force – BGF) ที่อยู่ภายใต้การกำกับของกองทัพเมียนมา โดย JFM ระบุว่า โครงการนี้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2020 และขยายตัวรวดเร็วหลังการรัฐประหารในปี 2021 โดยรัฐบาลทหารมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้กับพื้นที่ดังกล่าว
การบุกปิด KK Park ครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดของเมียนมาในรอบหลายปี ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานที่ยังคงฝังรากลึกในพื้นที่ชายแดน ซึ่งกลายเป็นเงามืดของโลกออนไลน์ที่เชื่อมโยงอาชญากรรมข้ามชาติอย่างแยบยลและยากต่อการตรวจจับ.





















