วุ่นกลางสยาม! มิสยูนิเวิร์สศรีลังกาทำ “มงกุฎนางงาม” หาย ตำรวจเร่งไล่วงจรปิดจนเจอของสำคัญคืน
มิสยูนิเวิร์สศรีลังกา ใจหาย! มงกุฎหายหลังนั่งแท็กซี่ลงสยามสแควร์ ตำรวจช่วยตามจนเจอ ส่งคืนเรียบร้อย
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตัวในวงการนางงามและนักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร หลังจากที่ Lihasha Lindsay-White มิสยูนิเวิร์สศรีลังกา 2025 ได้ประสบเหตุการณ์มงกุฎของเธอสูญหายบริเวณ สยามสแควร์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 19 ตุลาคม เวลา 13.48 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่มิสยูนิเวิร์สศรีลังกาได้ใช้บริการ แท็กซี่สีขาว-ชมพู ทะเบียน ทฬ 5714 กทม. โดยมี นายบุญชื่น มาตรคำจันทร์ เป็นคนขับ โดยเธอได้นั่งแท็กซี่จากจุดหนึ่งมาลงที่ สยามสแควร์ ซอย 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
เมื่อเธอลงจากรถและตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่า มงกุฎพร้อมชุดเดรสสีเขียวเข้มสูญหายไป ทำให้เกิดความตกใจอย่างมาก เธอจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวทันที
🔹 การดำเนินการของตำรวจ สน.ปทุมวัน
หลังได้รับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผกก.สน.ปทุมวัน ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวนและตำรวจท่องเที่ยว ทำการตรวจสอบพื้นที่ทันที รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาข้อมูลของรถแท็กซี่ที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผบก.น.6 และ พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รองผบก.น.6 ได้ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์นี้อย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ บุคคลสำคัญในวงการนางงามระดับนานาชาติ และเป็นภาพลักษณ์ที่สะท้อนถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบวงจรปิดจนทราบ ทะเบียนรถแท็กซี่และข้อมูลคนขับ ซึ่งได้ติดต่อไปยังสหกรณ์แท็กซี่ แต่เนื่องจากเป็นวันหยุด จึงไม่สามารถติดต่อได้ทันที ทำให้ต้องรอวันทำการต่อไป
🔹 การประสานงานและส่งคืนมงกุฎ
เมื่อวันทำการถัดมา เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับสหกรณ์แท็กซี่และคนขับรถทันที พร้อม แจ้งให้นำมงกุฎส่งคืนผู้เสียหายผ่านตำรวจท่องเที่ยว ผลปรากฏว่าสามารถติดตามและส่งคืนมงกุฎได้อย่างปลอดภัย
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้ชื่นชมการทำงานของตำรวจ สน.ปทุมวันและตำรวจท่องเที่ยว ที่สามารถติดตามมงกุฎมิสยูนิเวิร์สศรีลังกาได้อย่างรวดเร็วและเป็นมืออาชีพ พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์นี้ช่วยสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย ในด้านความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
🔹 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนความสำคัญด้านความปลอดภัย
เหตุการณ์มงกุฎสูญหายนี้ แม้จะเป็นเรื่องเล็กในแง่ของการโจรกรรม แต่สะท้อนถึง ความสำคัญของความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สยามสแควร์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นทุกวัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้ว่า การตรวจสอบและติดตามทรัพย์สินสูญหายต้องใช้ การประสานงานหลายฝ่าย ตั้งแต่กล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้า การติดต่อสหกรณ์แท็กซี่ การสอบถามคนขับ และการใช้ระบบฐานข้อมูลของตำรวจ ซึ่งเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐในการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
🔹 บทเรียนด้านการใช้บริการแท็กซี่และการเดินทาง
เหตุการณ์นี้ยังเป็น บทเรียนสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางด้วยแท็กซี่และขนทรัพย์สินมีค่า เช่น เครื่องประดับ มงกุฎ หรือเสื้อผ้าราคาแพง
คำแนะนำสำคัญจากตำรวจและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ได้แก่
1. ตรวจสอบทรัพย์สินก่อนและหลังลงจากรถ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดหาย
2. จดทะเบียนรถและชื่อคนขับ ก่อนขึ้นแท็กซี่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น
3. เลือกใช้แท็กซี่ผ่านสหกรณ์หรือแอปพลิเคชันที่น่าเชื่อถือ เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญหายของทรัพย์สิน
4. แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเมื่อเกิดเหตุ และใช้บริการตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้ช่วยติดตามอย่างรวดเร็ว
5. ติดตามกล้องวงจรปิดและหลักฐานประกอบ เพื่อลดโอกาสที่เหตุการณ์จะกลายเป็นคดีที่หาข้อสรุปยาก
🔹 ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย
การที่ตำรวจสามารถติดตามและส่งคืนมงกุฎของมิสยูนิเวิร์สศรีลังกาได้ทันเวลา เป็น การสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ว่าประเทศไทยมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่ดีและเอาจริงเอาจังในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
นักวิเคราะห์ด้านการท่องเที่ยวกล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ แม้เป็นเรื่องเล็ก แต่มีผลทางจิตวิทยาที่สำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวจะมั่นใจว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะมีหน่วยงานรัฐที่พร้อมช่วยเหลือและประสานงานอย่างมืออาชีพ
🔹 การทำงานของตำรวจไทย: ตัวอย่างของความร่วมมือหลายหน่วยงาน
เหตุการณ์นี้ยังชี้ให้เห็นถึง การทำงานเชิงบูรณาการของหน่วยงานรัฐหลายหน่วย ตั้งแต่
ตำรวจท่องเที่ยว ที่คอยประสานงานกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ตำรวจสน.ปทุมวัน ที่ติดตามเหตุการณ์ในพื้นที่และตรวจสอบกล้องวงจรปิด
สหกรณ์แท็กซี่และผู้ขับรถ ที่ให้ความร่วมมือในการส่งคืนทรัพย์สิน
ความร่วมมือดังกล่าวทำให้เหตุการณ์มงกุฎสูญหายสามารถคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว และสะท้อนถึงมาตรฐานการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทยที่สามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🔹 ความเห็นจากประชาชนและนักท่องเที่ยว
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในโซเชียลมีเดียและสื่อข่าว มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากแสดงความชื่นชมการทำงานของตำรวจไทย รวมถึงความเอาใจใส่ต่อ นักท่องเที่ยวต่างชาติในระดับ VIP
ผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งระบุว่า
“เห็นตำรวจตามหามงกุฎของมิสยูนิเวิร์สศรีลังกาแล้ว รู้สึกว่าประเทศไทยยังมีความปลอดภัยอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นสยามได้อย่างมั่นใจ”
นักท่องเที่ยวต่างชาติรายอื่นๆ ก็เห็นด้วยว่าการประสานงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเป็นตัวอย่างที่ดีของ การท่องเที่ยวเชิงปลอดภัยและบริการที่เป็นมิตร
🔹 บทสรุป
เหตุการณ์ มงกุฎมิสยูนิเวิร์สศรีลังกาสูญหายที่สยามสแควร์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ให้บริการสาธารณะ ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติและประชาชนทั่วไป
จากเหตุการณ์นี้ เราได้เห็นว่า
1. การตรวจสอบและติดตามทรัพย์สินสูญหายต้องอาศัย การประสานงานหลายฝ่าย
2. การใช้กล้องวงจรปิดและเทคโนโลยีช่วยติดตามเหตุการณ์เป็นสิ่งสำคัญ
3. การมีเจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวและตำรวจในพื้นที่ท่องเที่ยวที่พร้อมช่วยเหลือ สามารถสร้าง ความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับประเทศไทย
4. นักท่องเที่ยวควรมี ความระมัดระวังและตรวจสอบทรัพย์สิน ก่อนและหลังการเดินทาง
5. การประสานงานระหว่างตำรวจและผู้ให้บริการ เช่น แท็กซี่ เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
สุดท้าย แม้เหตุการณ์นี้จะจบลงด้วยดี แต่ก็เป็น บทเรียนสำคัญด้านความปลอดภัยและการบริการนักท่องเที่ยว สำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น สยามสแควร์ห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมืองกรุงเทพฯ





















