ปลัดสาวถูกตบหน้า! หญิงถอดรองเท้ากลางหน่วยเลือกตั้ง นักการเมืองดังขออย่าเอาเรื่อง
สุดช็อก! ปลัดสาวถูกหญิงถอดรองเท้าตบหน้า กลางหน่วยเลือกตั้งนายก อบต.โคกกะเทียม – นักการเมืองคนดังขออย่าเอาเรื่อง
วงการการเมืองท้องถิ่น จ.ลพบุรี ต้องสะเทือนใจ หลังเกิดเหตุการณ์สุดช็อกที่ หน่วยเลือกตั้งนายก อบต.โคกกะเทียม เมื่อมีปลัดสาวอายุ 52 ปีถูกหญิงสูงวัยถอดรองเท้าตบหน้า กลางหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งสร้างความหวาดกลัวต่อความปลอดภัยส่วนบุคคล และกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ได้รับความสนใจทั้งในพื้นที่และสังคมออนไลน์
เหตุการณ์บานปลายระหว่างการเลือกตั้ง
วันที่ 19 ตุลาคม 2568 ตำบลโคกกะเทียม อ.เมืองลพบุรี จัดการ เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ โดยมีผู้ลงสมัครทั้งหมด 3 คน แต่หลังตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครพบว่า ผู้สมัครหมายเลข 2 คุณสมบัติไม่ครบ ทำให้การเลือกตั้งเหลือผู้สมัครเพียงหมายเลข 1 และหมายเลข 3 เท่านั้น
การเลือกตั้งในวันดังกล่าว มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 8 แห่ง โดยเปิดให้ประชาชนลงคะแนนเสียงตามปกติ ซึ่งในช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. ปลัด อบต. น.ส.โยษิตา อายุ 52 ปี ซึ่งทำหน้าที่ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยว่ามีผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดลพบุรี
บริเวณเกิดเหตุ – หน่วยเลือกตั้งศาลา SMI หมู่ 2
เมื่อไปถึงหน่วยเลือกตั้งที่ ศาลา SMI หมู่ 2 ปลัดโยษิตาและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยได้ควบคุมตัวผู้กระทำผิดเป็นชายวัย 21 ปี พร้อมหลักฐานโทรศัพท์มือถือและภาพถ่ายบัตรใช้ลงคะแนน โดยชายคนดังกล่าวพยายามใช้บัตรลงคะแนนของผู้อื่น
ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนชายวัย 21 ปีอยู่นั้น ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น
หญิงวัย 53 ปีถอดรองเท้าตบหน้า – ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทันที
จู่ๆ มีผู้ที่มาสังเกตการณ์หน่วยเลือกตั้ง เดินตรงเข้ามาหาปลัดโยษิตา ซึ่งต่อมาเปิดเผยชื่อว่า นางจำเนียร อายุ 53 ปี โดยนางจำเนียรถอดรองเท้าและ ตบหน้า ปลัดโยษิตาฝ่ายซ้ายอย่างเต็มแรง กลางหน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาระงับเหตุและควบคุมตัวผู้กระทำผิดทันที
อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกควบคุมตัว นางจำเนียรยังไม่แสดงท่าทีสะทกสะท้าน โดยยังนั่งด่าทอและพูดถึงเรื่องอดีตต่างๆ ซึ่งเธอให้เหตุผลว่า หมั่นไส้อยากตบมานานแล้ว
ปลัดสาวเผยความรู้สึก – กลัวไม่ปลอดภัย
หลังเกิดเหตุ น.ส.โยษิตา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่ารู้สึกตกใจและหวาดกลัวต่อความปลอดภัยส่วนตัว โดยกล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเครียดอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดความรุนแรงถึงขั้นนี้ในหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งปกติถือเป็นพื้นที่ที่ควรปลอดภัยและมีการควบคุมอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ปลัดโยษิตายังระบุว่า ขณะนี้มี นักการเมืองคนดังเข้ามาขอให้ไม่เอาเรื่อง แต่เธอกลับรู้สึกว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและความปลอดภัย จึงตัดสินใจเดินหน้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำหน่วยเลือกตั้งระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นการกระทำที่ไม่คาดคิด ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ กกต.ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างทันท่วงที
ด้าน กกต.จังหวัดลพบุรี ชี้แจงว่า หน่วยเลือกตั้งทุกแห่งได้รับการเตรียมความพร้อมเรื่องความปลอดภัยแล้ว แต่บางครั้งเหตุการณ์ฉับพลันที่เกิดจากอารมณ์ส่วนตัวของผู้มาใช้สิทธิ์อาจเกิดขึ้นได้
สาเหตุและปัจจัยเบื้องหลังการกระทำ
จากการสอบถามเบื้องต้น พบว่าผู้กระทำความผิดเป็น นางจำเนียร ผู้มีอายุ 53 ปี มีประวัติความขัดแย้งกับปลัดโยษิตามอดีต โดยระบุว่ามี ความหมั่นไส้อยากทำร้ายมานานแล้ว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่อง ความตึงเครียดและความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่น ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น
ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่ามี นักการเมืองท้องถิ่นคนดัง มาขอร้องไม่ให้ดำเนินคดี โดยอ้างเหตุผลว่าต้องการรักษาภาพลักษณ์และบรรยากาศทางการเมือง แต่ปลัดโยษิตายืนยันว่าเรื่องนี้เป็น เรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลและความถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่สามารถเพิกเฉยได้
ผลกระทบต่อบรรยากาศการเลือกตั้ง
เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งหลายคน ทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งในวันนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียด
เจ้าหน้าที่หลายคนหวาดกลัวและต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ผู้มาใช้สิทธิ์บางส่วนรู้สึกกังวลต่อความรุนแรง จึงมีบางคนลังเลที่จะเข้าคูหาลงคะแนน
กกต.จังหวัดลพบุรีต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และวางมาตรการป้องกันความรุนแรงเพิ่มเติม
ทั้งนี้ การเลือกตั้งยังดำเนินต่อไปอย่างเป็นระบบ และผู้สมัครทั้งหมายเลข 1 และหมายเลข 3 ได้รับโอกาสให้ประชาชนตัดสินใจลงคะแนนตามปกติ
กระบวนการดำเนินคดี
หลังเกิดเหตุ น.ส.โยษิตาในฐานะผู้เสียหายได้ เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองลพบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนางจำเนียรไว้ พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งอาจมีความผิดฐาน
1. ทำร้ายร่างกาย
2. รบกวนการเลือกตั้ง
3. ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงกับผู้ชายวัย 21 ปีที่พยายามใช้บัตรลงคะแนนผู้อื่น เพื่อให้แน่ใจว่าเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้มีเบื้องหลังทางการเมืองที่ซับซ้อนมากกว่าที่ปรากฏ
ความเห็นของประชาชนและสังคมออนไลน์
เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกในสังคมออนไลน์ โดยประชาชนจำนวนมากแสดงความเห็นว่า
การใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ถือเป็นเรื่องไม่สมควร
หน่วยเลือกตั้งควรมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
นักการเมืองที่ขออย่าเอาเรื่องอาจสร้าง ข้อสงสัยเรื่องความยุติธรรม
ผู้คนจำนวนมากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม เพื่อให้เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เกิดซ้ำ และรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และผู้เข้าร่วมการเลือกตั้ง
มาตรการป้องกันในอนาคต
หลังเกิดเหตุ กกต.จังหวัดลพบุรีได้วางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำในอนาคต โดยประกอบด้วย
1. เพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าตลอดเวลาการลงคะแนน
2. จัดอบรมเจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการเลือกตั้ง เรื่องการจัดการความขัดแย้งและการป้องกันความรุนแรง
3. ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ในทุกหน่วยเลือกตั้ง เพื่อบันทึกเหตุการณ์และใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย
4. ประชาสัมพันธ์ประชาชนและผู้สังเกตการณ์ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของการเลือกตั้ง
บทสรุป – สังคมการเมืองต้องเฝ้าระวัง
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองท้องถิ่นยังมีความตึงเครียด และบางครั้งอาจก่อให้เกิดความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง การตัดสินใจของปลัดโยษิตาที่เลือกเดินหน้าแจ้งความ เป็นตัวอย่างที่ดีของการ รักษาสิทธิและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่
ประชาชนควรติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และหวังว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเป็น บทเรียนสำคัญในการจัดการเลือกตั้ง ให้ปลอดภัยและยุติธรรม






















