เปิดลงทะเบียนรอบสุดท้าย! “คนละครึ่งพลัส” 21 ต.ค. นี้ ใครพลาดรอบแรก รีบเช็กสิทธิให้ทัน
ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งพลัส 2568: ลงทะเบียนครบ 20 ล้านสิทธิ ร้านค้าเข้าร่วมเพิ่มต่อเนื่อง เปิดรับสแกนจริง 29 ต.ค. นี้
โครงการ คนละครึ่งพลัส หนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย ยังคงได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชนและผู้ประกอบการทั่วประเทศ หลังจากเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2568 เป็นต้นมา
ล่าสุด กระทรวงการคลังได้เปิดเผยว่า การลงทะเบียนในวันแรกของโครงการได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ทำให้ยอดการลงทะเบียนครบ 20 ล้านสิทธิ์ ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพในชีวิตประจำวัน
เปิดลงทะเบียนวันแรก – ครบ 20 ล้านสิทธิ์ วงเงิน 44,000 ล้านบาท
นาย วินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าว่า การลงทะเบียนวันแรกของโครงการคนละครึ่งพลัสมีประชาชนเข้าร่วมครบตามจำนวนวงเงินที่รัฐบาลจัดไว้คือ 44,000 ล้านบาท ภายในเวลา 16.00 น. ของวันเดียวกัน
สำหรับการคำนวณวงเงินสิทธิ์ กระทรวงการคลังใช้สมมติฐานเบื้องต้นว่า ผู้ลงทะเบียนแต่ละรายอาจได้รับวงเงินสูงสุด 2,400 บาท ซึ่งจำนวนสิทธิ์นี้ครอบคลุมประชาชนที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด เช่น อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และไม่ได้เป็นผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้ชี้แจงว่า หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว หากพบว่ายังมี วงเงินสิทธิคงเหลือ จะนำกลับมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใหม่ในวันถัดไป ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ตุลาคม 2568
วิธีการตรวจสอบและลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สิทธิ์
ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ แต่ยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถตรวจสอบ วงเงินสิทธิคงเหลือ ได้ที่หน้าเว็บไซต์หลักของโครงการ www.คนละครึ่งพลัส.com และสามารถเข้าไปลงทะเบียนผ่านแอป “เป๋าตัง” ในช่วงเวลา 06.00-22.00 น. ของวันที่ 21 ตุลาคม 2568
สำหรับคุณสมบัติการเข้าร่วมโครงการ มีรายละเอียดดังนี้
1. อายุ: ต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ: ต้องไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
3. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: หากยื่นแบบต้องเป็นการยื่น ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91 หรือ ภ.ง.ด.95 ของปีภาษี 2567 และต้องยื่นภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568
ประชาชนสามารถตรวจสอบวันและวิธีการยื่นแบบภาษีได้ด้วยตนเอง ดังนี้
กรณียื่นแบบ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ สามารถตรวจสอบวันยื่นจาก ใบเสร็จรับเงิน ที่ได้รับ
กรณียื่นแบบออนไลน์ สามารถตรวจสอบวันยื่นได้ผ่านเว็บไซต์ของ กรมสรรพากร ที่ https://efiling.rd.go.th/rd-cms/
ด้วยขั้นตอนการตรวจสอบนี้ รัฐบาลต้องการให้มั่นใจว่าประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์และเพื่อป้องกันการซ้ำซ้อนของสิทธิ์
ความคืบหน้าการลงทะเบียนของร้านค้า – เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากการลงทะเบียนของประชาชนแล้ว การลงทะเบียน ผู้ประกอบการร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น. มีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดังนี้
ร้านค้าที่ลงทะเบียนสำเร็จ
รวมทั้งหมด: 223,088 ร้าน
ร้านค้ารายเดิม: 86,224 ร้าน
ร้านค้ารายใหม่: 136,864 ร้าน
ร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร
รวมทั้งหมด: 87,976 ร้าน
รอให้ร้านค้าเข้ามากดยอมรับ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการ: 82,450 ร้าน
รอดำเนินการตรวจสอบ: 5,526 ร้าน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ยังสามารถทยอยลงทะเบียนได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงการจะเปิดให้ร้านค้าเริ่ม สแกนรับเงินจากประชาชนจริงได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568
สำหรับระยะเวลาการเปิดรับร้านค้า กระทรวงการคลังระบุว่าจะปิดรับสมัครร้านค้าในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ดังนั้น ร้านค้ายังมีเวลาเตรียมตัวและสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตามคุณสมบัติที่กำหนด
ประโยชน์และความสำคัญของโครงการคนละครึ่งพลัส
โครงการคนละครึ่งพลัส เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในยุคที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลักการสำคัญของโครงการ คือ รัฐร่วมจ่ายครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่าย ในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ในราคาที่เหมาะสม โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับวงเงินสูงสุด 2,400 บาท
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า โครงการนี้เป็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายและสร้างฐานลูกค้าใหม่ผ่านระบบ สแกน QR ของแอป “เป๋าตัง” ซึ่งประชาชนใช้จ่ายง่ายและสะดวก
ขั้นตอนและแนวทางการใช้สิทธิ์สำหรับประชาชน
ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้เงินสิทธิ์ได้ผ่านแอป “เป๋าตัง” โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1. เปิดแอปเป๋าตัง และล็อกอินด้วยบัญชีของผู้ลงทะเบียน
2. ตรวจสอบยอดสิทธิ์คงเหลือของตนเอง
3. เลือกร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
4. สแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้า/บริการ
5. ระบบจะตัดยอดครึ่งหนึ่งของผู้ซื้อและส่วนที่เหลือจะจ่ายโดยร้านค้า
สิทธิ์สามารถใช้ได้ทั้ง ร้านอาหาร, ร้านค้าปลีก, ร้านค้าในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทุกประเภท โดยมีเป้าหมายกระจายเงินไปสู่ผู้ประกอบการทุกภูมิภาค
การตรวจสอบคุณสมบัติและเงื่อนไขเพิ่มเติม
นอกจากคุณสมบัติพื้นฐานแล้ว กระทรวงการคลังยังได้แนะนำประชาชนและร้านค้าให้ตรวจสอบ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ อย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาการไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้
ประชาชนต้องตรวจสอบ คุณสมบัติการยื่นภาษี
ร้านค้าต้องยืนยัน เอกสารการจดทะเบียนร้านค้า และกดยอมรับ เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเตรียมระบบตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้น เพื่อให้การใช้สิทธิ์เป็นไปอย่างโปร่งใส
สรุปความคืบหน้าสำคัญ
ลงทะเบียนประชาชนวันแรกครบ 20 ล้านสิทธิ์ วงเงิน 44,000 ล้านบาท
ประชาชนยังสามารถตรวจสอบสิทธิคงเหลือและลงทะเบียนรอบใหม่ในวันที่ 21 ตุลาคม 2568
ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 223,088 ร้าน และมีร้านค้าใหม่ที่อยู่ระหว่างตรวจสอบและยืนยันเงื่อนไขอีก 87,976 ร้าน
เปิดให้ร้านค้าเริ่มสแกนรับเงินประชาชนจริงตั้งแต่ 29 ตุลาคม 2568
ปิดรับร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการวันที่ 19 ธันวาคม 2568
สามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.คนละครึ่งพลัส.com
โครงการ คนละครึ่งพลัส จึงเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน และส่งเสริมการจับจ่ายใช้สอยในระบบเศรษฐกิจฐานราก พร้อมทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้าในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังมีความผันผวน
ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ควรติดตามข้อมูลอัปเดตอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบ คุณสมบัติและวงเงินสิทธิ์คงเหลือ เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสในการเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือที่สำคัญนี้





















