ข้อมูลล่าสุดเกาหลีใต้ไปกัมพูชาแล้วไม่กลับกว่า 2-3 พันรายต่อปี
ส.ส.เกาหลีใต้เรียกร้องตรวจสอบด่วน หลังพบพลเมืองหายไปนับพันรายจากกัมพูชา
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญหาการเดินทางของพลเมืองเกาหลีใต้ไปต่างประเทศและไม่กลับประเทศเริ่มกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทางสังคมและการเมืองของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปประเทศกัมพูชาแล้วไม่กลับประเทศ ซึ่งตัวเลขจากหลายหน่วยงานชี้ให้เห็นถึงความกังวลอย่างหนักต่อความปลอดภัยของพลเมือง รวมถึงความจำเป็นในการตรวจสอบและป้องกันปัญหาในอนาคต
ล่าสุด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ นายปาร์ค ซัน-แด จากพรรคประชาธิปไตย ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ของเกาหลีใต้ ตรวจสอบอย่างละเอียดและเร่งด่วน หลังพบข้อมูลว่ามีชาวเกาหลีใต้จำนวนมากที่เดินทางไปกัมพูชาแล้วไม่กลับประเทศ ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับหลายพันคนต่อปี
ตัวเลขชี้ชัด: พลเมืองหายไปนับพันรายต่อปี
ข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ที่นายปาร์คอ้างอิงชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างจำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา และจำนวนที่เดินทางกลับประเทศ โดยมีสถิติที่น่าตกใจดังนี้
ปี 2021: ชาวเกาหลีใต้เดินทางไปกัมพูชา 5,476 คน แต่ไม่กลับมา 113 คน
ปี 2022: ชาวเกาหลีใต้เดินทางไปกัมพูชา 35,606 คน แต่ไม่กลับมา 3,209 คน
ปี 2023: ชาวเกาหลีใต้เดินทางไปกัมพูชา 81,716 คน แต่ไม่กลับมา 2,662 คน
ปี 2024: ชาวเกาหลีใต้เดินทางไปกัมพูชา 100,820 คน แต่ไม่กลับมา 3,248 คน
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีชาวเกาหลีใต้ หลายพันคนต่อปีที่เดินทางไปกัมพูชาแล้วไม่กลับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2024 ซึ่งมีชาวเกาหลีใต้เดินทางไปกัมพูชามากกว่า 100,000 คน แต่เดินทางกลับเพียง 97,572 คน ทำให้มีตัวเลขหายไปถึง 3,248 คน
การเดินทางผ่านประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากการเดินทางโดยตรงไปกัมพูชาแล้ว ข้อมูลยังชี้ว่ามีชาวเกาหลีใต้จำนวนไม่น้อยที่ เดินทางเข้ากัมพูชาผ่านประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไทยและเวียดนาม และไม่เดินทางกลับประเทศเช่นกัน ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขผู้หายไปอาจสูงกว่าที่สถิติของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้รายงาน
กรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาเองก็ได้รวบรวมข้อมูลและพบตัวเลขที่น่าตกใจในบางปี ตัวเลขผู้เดินทางเข้ากัมพูชา สูงกว่าตัวเลขสถิติของเกาหลีใต้เกือบสองเท่า ซึ่งทำให้เกิดคำถามถึงความถูกต้องของข้อมูล และความจำเป็นในการตรวจสอบอย่างละเอียด
ความกังวลด้านความปลอดภัย
เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างหนักต่อรัฐบาลและประชาชนเกาหลีใต้ เพราะชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปต่างประเทศโดยไม่กลับประเทศอาจตกอยู่ใน ความเสี่ยงหลายด้าน ได้แก่
1. ความเสี่ยงทางอาชญากรรม: ผู้เดินทางที่ไม่กลับประเทศอาจถูกล่อลวงเข้าสู่ธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น การค้ามนุษย์ การหลอกลวง หรือการทำงานที่ผิดกฎหมาย
2. ความเสี่ยงทางสุขภาพและชีวิต: การอยู่ต่างประเทศโดยไม่มีเอกสารถูกต้องหรือการไม่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอาจทำให้พลเมืองเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ โรคภัย หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด
3. ผลกระทบต่อครอบครัวและสังคม: ครอบครัวและญาติอาจไม่สามารถติดตามและช่วยเหลือได้ทันเวลา ทำให้เกิดความเสียใจและความกังวลทางจิตใจ
เสียงเรียกร้องจากนายปาร์ค ซัน-แด
นายปาร์ค ซัน-แด เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูล โดยกล่าวว่า
“หากคำให้การในท้องถิ่นถูกต้อง ก็ดูเหมือนว่ามีเหยื่ออีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย รัฐบาลต้องทำการเปรียบเทียบข้อมูลการเข้าออกประเทศแบบรายบุคคลอย่างละเอียด พร้อมกับข้อมูลจากกงสุลและตำรวจ เพื่อทบทวนคดีของผู้ที่ไม่ได้เดินทางกลับประเทศอีกครั้ง นี่เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง”
คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นว่าปัญหานี้ไม่ใช่เพียงตัวเลขสถิติ แต่เป็น ประเด็นความปลอดภัยและสิทธิของพลเมืองเกาหลีใต้ ที่ต้องได้รับการตรวจสอบและป้องกันอย่างจริงจัง
ความเป็นไปได้ของเหตุผลที่ไม่กลับประเทศ
จากการวิเคราะห์เบื้องต้น มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้ชาวเกาหลีใต้ไม่กลับประเทศหลังเดินทางไปกัมพูชา ได้แก่
1. การเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย: บางคนอาจเดินทางไปเพื่อทำงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว คาสิโน หรือธุรกิจที่ไม่ถูกกฎหมาย และไม่สามารถกลับประเทศได้ตามกำหนด
2. การล่อลวงและค้ามนุษย์: เกิดความเป็นไปได้ว่าบางรายถูกล่อลวงเข้าสู่การค้ามนุษย์หรือถูกบังคับให้ทำงาน
3. การหลีกเลี่ยงกฎหมายและภาษี: ผู้ที่มีคดีติดตัว หรือปัญหาทางกฎหมายในเกาหลีใต้ อาจใช้การเดินทางไปต่างประเทศเป็นช่องทางหลีกเลี่ยง
4. ปัญหาส่วนตัวหรือครอบครัว: บางรายอาจมีเหตุผลส่วนตัว เช่น การย้ายถิ่นฐานเพื่อเริ่มชีวิตใหม่
ความจำเป็นของการตรวจสอบเชิงรุก
นายปาร์ค ซัน-แดเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ ตรวจสอบข้อมูลการเข้า-ออกประเทศอย่างละเอียด โดยใช้ข้อมูลจากหลายหน่วยงานร่วมกัน ได้แก่
กระทรวงยุติธรรม: เพื่อวิเคราะห์ตัวเลขผู้เดินทางไปต่างประเทศ
กงสุลเกาหลีในกัมพูชา: เพื่อตรวจสอบข้อมูลบุคคลที่แจ้งต่อสถานกงสุล
ตำรวจและหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง: เพื่อจับคู่ข้อมูลกับผู้ที่เดินทางออกจากประเทศ
การตรวจสอบเชิงรุกนี้ไม่เพียงเพื่อ ค้นหาผู้หายไปและให้ความช่วยเหลือ แต่ยังเป็นการสร้าง มาตรการป้องกันในอนาคต ลดความเสี่ยงต่อพลเมืองที่อาจตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน
ข้อเสนอแนะเพื่อความปลอดภัยของพลเมือง
เพื่อป้องกันปัญหาการหายไปของพลเมืองเกาหลีใต้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินมาตรการดังนี้
1. การให้ข้อมูลและคำแนะนำก่อนเดินทาง: ชี้แจงเกี่ยวกับกฎหมายท้องถิ่น การทำงาน และความเสี่ยงของการเดินทาง
2. การติดตามการเดินทาง: ใช้ระบบดิจิทัลเพื่อตรวจสอบการเข้า-ออกประเทศอย่างเรียลไทม์
3. การสร้างเครือข่ายช่วยเหลือในต่างประเทศ: สถานกงสุลและสถานทูตต้องมีช่องทางติดต่อฉุกเฉินสำหรับพลเมือง
4. การบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ล่อลวง: เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมาย
บริบททางสังคมและเศรษฐกิจ
การเดินทางไปกัมพูชาเป็นที่นิยมในหมู่พลเมืองเกาหลีใต้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่ำและโอกาสในการทำงานหรือท่องเที่ยว แต่เมื่อจำนวนผู้เดินทางเพิ่มขึ้น ก็ทำให้ ความเสี่ยงในการถูกล่อลวงหรือเข้าไปในกิจกรรมผิดกฎหมายเพิ่มสูง
นอกจากนี้ การเดินทางผ่านประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไทยและเวียดนาม ยังทำให้ ข้อมูลการเข้า-ออกประเทศซับซ้อนยิ่งขึ้น ทำให้การติดตามและช่วยเหลือพลเมืองเป็นเรื่องท้าทาย
สรุป
กรณีชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปกัมพูชาแล้วไม่กลับประเทศ เป็น ประเด็นความปลอดภัยและสิทธิมนุษยชน ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ข้อมูลสถิติที่น่าตกใจแสดงให้เห็นว่ามีหลายพันคนต่อปีที่ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง
นายปาร์ค ซัน-แด เรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ ตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเปรียบเทียบข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรม กงสุล และตำรวจ เพื่อค้นหาผู้หายไปและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำในอนาคต
การดำเนินการนี้ไม่เพียงช่วย ปกป้องพลเมืองเกาหลีใต้ แต่ยังส่งสัญญาณถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน และสร้างความมั่นใจว่าผู้เดินทางทุกคนสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้อย่างปลอดภัย
เรื่องราวนี้จึงไม่ใช่แค่ตัวเลขสถิติ แต่เป็น บทเรียนสำคัญทางสังคม การเมือง และความปลอดภัยพลเมือง ที่เกาหลีใต้ต้องจัดการอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัยและมั่นใจในอนาคต
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
ดราม่าเดือด นครสวรรค์! ตำรวจจอดรถไม่ดับเครื่อง เสียงดังจนแม่ค้าทนไม่ไหว เดินออกมาให้ตำรวจดับเครื่อง เนื่องจากมีแม่ป่วยอยู่ในร้าน
"โดนัลด์ ทรัมป์" หัวร้อนจัดหลังเกือบเสียท่าในเกมการเมืองกับกัมพูชา จนทำให้ไทยเกือบหันไปซบจีน ปิดทางทะเล ดับฝัน ฮุนเซน ที่จะมีทางออกทะเลเสรีพังทะลายลงทันที
10 เลขขายดี "สลากพารวย" งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68..ส่องเลย เลขไหนมาแรง!!
ทหารเขมร สุดห้าว โพสต์ภาพ พร้อมแคปชั่น อยากสอยโดรนพวกเสียม
พาส่องธุรกิจ ของคุณนานา ไรบีนา ที่หลายคนยังไม่เคยรู้
เคยเอ๊ะๆกันไหม ทำไมถึงเรียกว่า "เย็นตาโฟ" ทั้งที่มันก็ร้อนอยู่นะ ทำไมในเมนูนี้ถึงมีคำว่า "เย็น" กันน๊า ?
🎯 อัปเดตล่าสุด! แนวโน้มเลขเด็ดจากสำนักดัง & โซเชียล งวด 1 ธันวาคม 2568
กันจอมพลังเผยภาพ สุดตกใจ หญิงเกาะเสาไฟฟ้ากลางน้ำเชี่ยวหาดใหญ่ ลั่นอะไร ไม่เคยเจอก็ได้เจอ
รวมภาพตลกขำขันประจำวันนี้ วันที่ลมแรง แถมอากาศเย็นสบาย น่านอนจริงๆเลยเน่อ
บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สั่งระดมกำลัง ตชด. กว่า 2,000 นาย ลุยชายแดน เขมรหนีหวาดกลัว หลังไทย ส่ง F-16 ลาดตระเวนปราสาทตาควาย
"ศุภจี" ยืนยัน ไม่มีความตั้งใจอยากเป็นนายกรัฐมนตรี ชี้ วันนี้ขอโฟกัสทุ่มเททำหน้าที่ รมว.พาณิชย์ ให้ดีที่สุด กลับเวลาที่เหลืออยู่ในขณะนี้
ดราม่าเดือด นครสวรรค์! ตำรวจจอดรถไม่ดับเครื่อง เสียงดังจนแม่ค้าทนไม่ไหว เดินออกมาให้ตำรวจดับเครื่อง เนื่องจากมีแม่ป่วยอยู่ในร้าน
10 เลขขายดี "สลากพารวย" งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68..ส่องเลย เลขไหนมาแรง!!
เปิดคำตอบรอบ 5 คนสุดท้าย ใครพูดได้ใจมากที่สุด
งิ้วในการแสดง: โครงสร้างอันศักดิ์สิทธิ์
รวมภาพตลกขำขันประจำวันนี้ วันที่ลมแรง แถมอากาศเย็นสบาย น่านอนจริงๆเลยเน่อ
ทหารเขมร สุดห้าว โพสต์ภาพ พร้อมแคปชั่น อยากสอยโดรนพวกเสียม
"โบว์ เมลดา" สวยตลก ไม่เคยตายไมค์ เปิดเส้นทางจาก Kiss Me Five ชีวิตพลิกผันหลังชนะเลิศ ไทยซุปเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2013"
ดราม่าเดือด นครสวรรค์! ตำรวจจอดรถไม่ดับเครื่อง เสียงดังจนแม่ค้าทนไม่ไหว เดินออกมาให้ตำรวจดับเครื่อง เนื่องจากมีแม่ป่วยอยู่ในร้าน
บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สั่งระดมกำลัง ตชด. กว่า 2,000 นาย ลุยชายแดน เขมรหนีหวาดกลัว หลังไทย ส่ง F-16 ลาดตระเวนปราสาทตาควาย
ทหารเขมร สุดห้าว โพสต์ภาพ พร้อมแคปชั่น อยากสอยโดรนพวกเสียม

