เพจ CSI LA เจอโดนฟ้อง! “พล.อ.วิชญ์” ส่งทนาย หลังรูปกลุ่มทีมเจรจาพื้นที่ทับไทย–กัมพูชา ทำสังคมเข้าใจผิด
ดราม่าโพสต์ CSI LA ปม BIC Group: ทนายเผย พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมเตือนการแชร์ข่าวออนไลน์
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 เกิดกระแสดราม่าในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังเพจ CSI LA โพสต์เนื้อหากรณี เครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ โดยอ้างถึงภาพของบุคคลไทยหลายคนที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการเมืองข้ามพรมแดน บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้สร้างความสับสนในสังคมว่า พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตนายทหารและบุคคลสำคัญในวงการความมั่นคงของไทย อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว
📌 เนื้อหาโพสต์ต้นเรื่องจาก CSI LA
โพสต์ของ CSI LA ระบุข้อความว่า:
"ให้ภาพมันเล่าเรื่อง บอร์ดไทย 3 คนที่เป็นสะพานเชื่อมการเมือง-การเงินข้ามพรมแดน BIC Group ของเขมร"
โดยมีการระบุชื่อบุคคล 3 คน พร้อมตำแหน่งปัจจุบันและอดีต ดังนี้
1. วรภัค ธันยาวงษ์ – ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
2. อารีพงษ์ ภู่ชะอุ่ม – อดีต ปลัดกระทรวงพลังงาน, ปัจจุบันเป็น ประธานบอร์ด Maybank Securities (Thailand)
3. วิสนุ ปราสาททองโอสถ – อดีต ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ตำรวจ), ปัจจุบันเป็น ประธานกลุ่มบริษัท Finansia
นอกจากนี้ ภาพและข้อความบางส่วนของโพสต์ได้ระบุว่าเป็น “ทีมกุนซือ เจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา” ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคมว่า พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อาจเกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว ทั้งที่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น
🛡️ ทนายความออกโรงชี้แจง
นายณัฐพล ทองคำ ทนายความที่ได้รับมอบหมายจาก พลเอกวิชญ์ เปิดเผยว่า แม้เพจ CSI LA จะไม่ได้เอ่ยชื่อ พลเอกวิชญ์โดยตรง แต่การใช้ภาพและข้อความเชื่อมโยงกับคำว่า “ทีมกุนซือ” ทำให้สังคมเกิด ความเข้าใจผิด ว่าท่านเกี่ยวข้องกับ BIC Group
นายณัฐพล ระบุว่า:
"เพื่อปกป้องสิทธิ์ของ พลเอกวิชญ์ ในชั้นนี้ เราจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป เนื่องจากข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปแล้ว ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและส่งผลต่อชื่อเสียงของท่าน"
ทั้งนี้ ทนายความยืนยันชัดเจนว่า พลเอกวิชญ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการหรือเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ แต่อย่างใด
💼 ประวัติและบทบาทของ พลเอกวิชญ์
พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็น อดีตนายทหารที่มีบทบาทสำคัญด้านความมั่นคง และเป็นบุคคลที่มีความห่วงใยต่อชาติอย่างยิ่ง ในประเด็นพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชา ท่านมีส่วนร่วมเบื้องหลังในการจัดหาอุปกรณ์และความสะดวกให้กับหน่วยงานทหารไทย เช่น
เสื้อเกราะและอุปกรณ์ป้องกันภัย
วิทยุสื่อสารและอุปกรณ์เชิงเทคนิค
อาหารและยานพาหนะ สำหรับปฏิบัติการทางทหาร
การสร้าง ถนนและบังเกอร์ เพื่อสนับสนุนการปกป้องอธิปไตย
ความสำคัญของบทบาทเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า พลเอกวิชญ์ทำงานเบื้องหลังอย่างจริงจังและ ไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ครั้งนี้ท่านต้องออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง เนื่องจากถูกตีความผิดพลาดในสื่อสาธารณะ
🔍 ผลกระทบต่อสังคมจากการโพสต์ที่คลุมเครือ
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความเสี่ยงของการเผยแพร่ข้อมูลบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลถูกตีความหรือเชื่อมโยงกับบุคคลสำคัญ
การโพสต์ภาพและข้อความโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้บุคคลเสียหายชื่อเสียง
แม้บางโพสต์จะถูกลบออกแล้ว แต่ข้อมูลได้เผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะแล้ว และ ถูกแชร์ต่อเป็นวงกว้าง
ผู้คนในสังคมอาจเกิดความเข้าใจผิดและวิพากษ์วิจารณ์บุคคลโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง
ทนายความจึงเรียกร้องให้สื่อออนไลน์และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ตรวจสอบและไตร่ตรองก่อนโพสต์ เพื่อลดความเสียหายและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
⚖️ สิทธิ์ทางกฎหมายของบุคคลในกรณีข้อมูลบิดเบือน
ตามกฎหมายไทย บุคคลที่ถูกเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนหรือทำให้เสียชื่อเสียง มีสิทธิ์ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ได้แก่
1. ฟ้องหมิ่นประมาททางอาญา – หากข้อความทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อบุคคล
2. เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง – หากมีความเสียหายทางทรัพย์สินหรือจิตใจ
3. ดำเนินคดีต่อผู้เผยแพร่ข้อมูล – หากตรวจพบเจตนาละเมิดสิทธิหรือสร้างความเสียหายโดยตั้งใจ
กรณีนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า แม้บุคคลจะเป็นคนที่ทำงานเพื่อสังคมและประเทศชาติ ก็สามารถได้รับผลกระทบจากการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
📢 ข้อคิดสำหรับสังคมและผู้ใช้โซเชียลมีเดีย
1. ตรวจสอบแหล่งข่าว – ก่อนแชร์ข้อมูล ควรตรวจสอบความถูกต้องจากหลายแหล่ง
2. เคารพสิทธิส่วนบุคคล – การเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลต้องคำนึงถึงสิทธิส่วนตัวและชื่อเสียง
3. ไม่สรุปจากภาพหรือข้อความเดียว – บางครั้งภาพหรือข้อความอาจถูกตัดต่อหรือเชื่อมโยงผิดบริบท
4. ความรับผิดชอบของเพจและสื่อออนไลน์ – เพจหรือสื่อควรมีมาตรฐานตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่
🌐 บทบาทของ พลเอกวิชญ์ ในการสนับสนุนสังคม
แม้จะมีข่าวเข้าใจผิดเกี่ยวกับ BIC Group แต่ประวัติและการทำงานของพลเอกวิชญ์สะท้อนให้เห็นว่า
ท่านทำงาน เบื้องหลัง (Behind the Scenes) ในหลายโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
มีความ ห่วงใยต่อทหารและประชาชน ในพื้นที่พิพาท
ไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ทำงานเพื่อสังคมและความมั่นคงของชาติ
การออกมาปกป้องสิทธิ์ในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ สมเหตุสมผลและจำเป็น
🔎 สรุปความเข้าใจผิดและบทเรียน
1. เพจ CSI LA โพสต์ภาพและข้อความเชื่อมโยงบุคคลไทยกับ BIC Group แต่ ไม่ควรตีความว่า พลเอกวิชญ์เกี่ยวข้อง
2. นายณัฐพล ทองคำ ทนายความยืนยันว่า พลเอกวิชญ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
3. การแชร์หรือโพสต์ข้อมูลบนโลกออนไลน์ต้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเคารพสิทธิส่วนบุคคล
4. กรณีนี้เป็นบทเรียนสำคัญของสังคมไทยในยุคดิจิทัล ที่ข้อมูลสามารถ แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและสร้างความเข้าใจผิดได้ง่าย
5. บุคคลที่ทำงานเพื่อสังคมและชาติ แม้จะไม่เคยปรากฏตัวในสื่อ แต่ก็อาจได้รับผลกระทบจากการบิดเบือนข้อมูล
💡 ข้อคิดสุดท้าย
ในยุคที่ข้อมูลออนไลน์มีบทบาทสูง การไตร่ตรองก่อนโพสต์ การตรวจสอบความถูกต้อง และการเคารพสิทธิส่วนบุคคล เป็นสิ่งจำเป็นต่อสังคม การกระทำเหล่านี้ไม่เพียงช่วยปกป้องบุคคลจากความเสียหาย แต่ยัง สร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
กรณีของ พลเอก์วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า แม้บุคคลจะมีบทบาทต่อสังคมและชาติอย่างแท้จริง แต่หากข้อมูลถูกบิดเบือนหรือเชื่อมโยงโดยไม่ถูกต้อง ก็สามารถสร้างความเข้าใจผิดในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว
การกระจายข่าวที่ผิดพลาดนี้ไม่เพียงส่งผลต่อชื่อเสียงของบุคคลเท่านั้น แต่ยังอาจสร้าง ความเสียหายต่อความเชื่อมั่นของสาธารณชน ต่อหน่วยงานรัฐและสถาบันต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้ การรับรู้ของประชาชนมักเกิดจาก ภาพรวมของข่าวสารและข้อความที่สื่อออกมา มากกว่าการวิเคราะห์เชิงลึก ซึ่งทำให้การเข้าใจผิดเกิดขึ้นง่าย




















