อัฟกานิสถานปะทะปากีสถานดับเจ็บเกลื่อน
วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] รัฐบาลทาลิบันแห่งอัฟกานิสถาน ได้ออกมากล่าวว่า "วานนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] เราได้เริ่มปฏิบัติการทางทหารตลอดทั้งคืน โดยกองกำลังอัฟกันสามารถสังหารทหารปากีสถาน ได้มากถึง 58 นาย และ บาดเจ็บอีก 30 นาย" และ "การโจมตีในครั้งนี้ เป็นการตอบโต้ ต่อการละเมิดดินแดนและน่านฟ้าของอัฟกานิสถาน โดยกองทัพปากีสถานอย่างต่อเนื่อง!!"
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายปากีสถาน ก็ได้ออกมาแถลงการณ์โต้กลับ โดยยืนยันว่า "มีทหารเสียชีวิตเพียง 23 นายเท่านั้น!!" และ "ฝ่ายตาลีบันเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อน!!"
โฆษกรัฐบาลตาลีบัน "ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด" กล่าวงในกรุงคาบูลว่า "กองกำลังอัฟกันสามารถยึดที่มั่นชายแดนของปากีสถาน ได้ถึง 25 แห่ง" และ "ควบคุมสถานการณ์บริเวณชายแดนทั้งหมดไว้ได้" พร้อมย้ำว่า "กิจกรรมผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว ได้ถูกยับยั้งลงแล้ว!!"
กระทรวงกลาโหมของตาลีบัน กล่าวเพิ่มเติมว่า "ปฏิบัติการนี้ถือเป็น การตอบโต้ที่ประสบความสำเร็จ" และเตือนว่า "หากปากีสถานยังคงละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนอีกครั้ง อัฟกานิสถานจะตอบโต้กลับอย่างรุนแรง" และ "ผลจากการปะทะทำให้ด่านการค้าสำคัญอย่าง ทอร์คัม และ จามัน ต้องปิดทำการชั่วคราว ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ลี้ภัยอัฟกันจำนวนมาก ที่อยู่ระหว่างเดินทางออกจากปากีสถาน"
นายกรัฐมนตรี เชห์บาซ ชารีฟ"" ของปากีสถาน ได้ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าวว่า "กองทัพของเรา ได้ตอบโต้กลับอย่างสาสม ซึ่งทำลายฐานที่มั่นของฝ่ายอัฟกันหลายแห่ง" และ "ได้สังหารกลุ่มติดอาวุธตาลีบันและเครือข่ายก่อการร้าย ได้มากกว่า 200 ราย พร้อมยึดจุดยุทธศาสตร์ตามแนวชายแดนกลับคืนมา 19 แห่งด้วย!!"
สถานการณ์ตึงเครียดครั้งนี้ ได้สร้างความวิตกไปทั่วภูมิภาค โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ ซึ่งออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจ และ หลีกเลี่ยงการยกระดับความรุนแรงเพิ่มเติม...
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศ "อะมีร์ ข่าน มุตตากี" ของตาลีบัน ซึ่งกำลังเดินทางเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการ กล่าวว่า "อัฟกานิสถานยินดีรับฟังข้อเรียกร้องจากประเทศอาหรับ ในการหาทางออกโดยสันติ" แต่ยืนยันว่า "คาบูลยังคงสงวนสิทธิ์ในการป้องกันตนเอง!!" และ "เราต้องการทางออกอย่างสันติ แต่หากความพยายามนั้นไม่เป็นผล เราก็พร้อมใช้ทางเลือกอื่น!!" และ "พวกคุณต้องยอมรับผลที่ตามมา..."





















