กัมพูชาผ่านมา 73 วัน ยังคงเรียกร้องให้ไทยปล่อยตัวทหาร 18 นายที่ถูกควบคุมตัว
ผ่านมากว่า 73 วัน แล้ว นับตั้งแต่เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา 18 นาย ถูกฝ่ายความมั่นคงของไทยจับกุมตัวในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยทางการไทยระบุว่าทหารกลุ่มดังกล่าวได้ข้ามเขตแดนเข้ามาในพื้นที่ไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายชายแดน ขณะที่ฝั่งกัมพูชาออกแถลงการณ์ยืนยันว่าทหารเหล่านี้เพียง “ลาดตระเวนตามหน้าที่” และอาจหลงข้ามแนวเขตแดนโดยไม่เจตนา
ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนครึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชา โดยกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งหนังสือและยื่นคำร้องหลายครั้ง ขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการปล่อยตัวทหารทั้ง 18 นายโดยเร็ว พร้อมย้ำถึง “มิตรภาพระหว่างสองประเทศ” และ “ความร่วมมือเพื่อสันติภาพชายแดน” อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยยังคงยืนยันต้องให้กระบวนการสอบสวนและพิจารณาตามกฎหมายเสร็จสิ้นก่อน
แหล่งข่าวจากชายแดนรายงานว่า ทหารทั้ง 18 นายยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในพื้นที่ของกองกำลังผาเมือง จังหวัดสระแก้ว โดยได้รับการดูแลตามมาตรฐานด้านมนุษยธรรม ขณะเดียวกัน มีการเจรจาระหว่างคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) เพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน
ภายในประเทศกัมพูชา กระแสเรียกร้องจากครอบครัวของทหารผู้ถูกควบคุมตัวยังคงดำเนินต่อเนื่อง หลายครอบครัวเดินทางไปยื่นหนังสือถึงหน่วยงานรัฐในกรุงพนมเปญ โดยขอให้รัฐบาลกดดันทางการไทยให้เร่งปล่อยตัวทหารทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข นอกจากนี้ สื่อกัมพูชาหลายสำนักยังรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึง “ความอ่อนไหวของเขตแดน” และความจำเป็นในการร่วมมือระหว่างสองประเทศในการป้องกันความเข้าใจผิดในอนาคต
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงมองว่า กรณีนี้อาจกลายเป็นบททดสอบสำคัญของความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา หลังจากสองฝ่ายพยายามฟื้นฟูความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมระดับสูง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงและลดความตึงเครียดที่อาจส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยังไม่ได้ประกาศกำหนดเวลาชัดเจนว่าจะปล่อยตัวทหารกัมพูชาเมื่อใด แต่ยืนยันว่าพร้อมเจรจาและดำเนินการตามหลักกฎหมายและมิตรภาพระหว่างประเทศ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นชนวนความขัดแย้งใหม่ในภูมิภาคอินโดจีน.





















