กัมพูชาเตือนไทย อย่าใช้ชายแดนเป็นสนามทดสอบอาวุธ เทียบสถานการณ์กับสงครามยูเครน
กัมพูชาเตือนไทย อย่าใช้ชายแดนเป็นสนามทดสอบอาวุธ – เทียบสถานการณ์กับสงครามยูเครน
วันที่ 9 ตุลาคม 2568 — กระแสความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชายังคงร้อนแรงขึ้นอีกระดับ หลังจาก นาย แก้ว เรมี ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งกัมพูชา (CHRC) ออกแถลงการณ์เตือนไทยอย่างเป็นทางการว่า “อย่าทำให้พื้นที่ชายแดนกลายเป็นสนามทดสอบอาวุธของประเทศมหาอำนาจ” โดยระบุว่าการซ้อมรบ การเสริมกำลัง และการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักของฝ่ายไทยในช่วงที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่กัมพูชามองว่า “เกินความจำเป็น” และอาจกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาค
นายแก้ว เรมียังกล่าวเปรียบเทียบสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่าเริ่มมีลักษณะคล้ายกับสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเริ่มจากความเข้าใจผิดทางดินแดน ก่อนจะบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งทางทหารที่ยืดเยื้อ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการกระทำที่อาจ “ยั่วยุ” หรือ “ท้าทาย” ต่อฝ่ายกัมพูชา และหันกลับมาใช้การเจรจาเป็นแนวทางหลักในการแก้ไขปัญหา
ด้านรัฐบาลไทยยังคงยืนยันว่าทุกการเคลื่อนไหวของกองทัพเป็นไปเพื่อ “ป้องกันประเทศ” และ “คุ้มครองความมั่นคงของประชาชนไทยในพื้นที่ชายแดน” โดยไม่มีเจตนารุกราน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเตือนว่า หากสองฝ่ายยังคงตอบโต้กันด้วยถ้อยคำรุนแรง อาจกระทบต่อการค้า การท่องเที่ยว และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันในระยะยาว
ท่ามกลางบรรยากาศที่เปราะบาง นักวิเคราะห์หลายฝ่ายจึงเรียกร้องให้ทั้งไทยและกัมพูชากลับมาหารือกันอย่างสันติบนโต๊ะเจรจาอีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ “ไฟความขัดแย้งชายแดน” กลายเป็นชนวนความไม่มั่นคงระดับภูมิภาคในอนาคต















