ปูตินเยือนทาจิกิสถาน รัสเซียเดินเกมกระชับสัมพันธ์เอเชียกลาง ท่ามกลางแรงกดดันจากตะวันตก
ปูตินเยือนทาจิกิสถาน รัสเซียเดินเกมกระชับสัมพันธ์เอเชียกลาง ท่ามกลางแรงกดดันจากตะวันตก”
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ได้เดินทางไปยังกรุงดูชานเบ ประเทศทาจิกิสถาน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศเอเชียกลาง และการประชุมของ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS – Commonwealth of Independent States)
การเยือนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในยุทธศาสตร์ของรัสเซีย ที่ต้องการเสริมอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียกลาง ซึ่งมีความสำคัญทั้งในด้านพลังงาน การทหาร และการเมืองระหว่างประเทศ
การประชุมสุดยอดครั้งนี้มีเป้าหมายหลักคือ
1. เสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างประเทศสมาชิก CIS
2. หารือแนวทางรับมือภัยคุกคามร่วม เช่น การก่อการร้ายข้ามพรมแดน, การลักลอบค้ายาเสพติด และความไม่มั่นคงจากอัฟกานิสถาน
3. ขยายความร่วมมือด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงการท่อส่งก๊าซและพลังงานไฟฟ้าระหว่างรัสเซีย–เอเชียกลาง
แหล่งข่าวจากสำนักข่าว Reuters รายงานว่า ปูตินใช้โอกาสนี้เพื่อผลักดันให้เกิดการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานและความมั่นคงเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของรัสเซียในภูมิภาคที่จีนกำลังแผ่อิทธิพลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
รัสเซียกับบทบาทในเอเชียกลาง
หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ประเทศในเอเชียกลาง เช่น คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน, ทาจิกิสถาน, คีร์กีซสถาน และเติร์กเมนิสถาน ได้รับเอกราช แต่รัสเซียยังคงรักษาความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับประเทศเหล่านี้ผ่านกลุ่ม CIS และ องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม (CSTO)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของรัสเซียกับโลกตะวันตกเริ่มตึงเครียดอย่างรุนแรง เนื่องจากสงครามยูเครนและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
ดังนั้น เอเชียกลางจึงกลายเป็น “พันธมิตรสำคัญเชิงยุทธศาสตร์” ของมอสโก เพื่อรักษาอิทธิพลในภูมิภาคยูเรเซีย
ความร่วมมือกับทาจิกิสถาน
ทาจิกิสถานถือเป็นพันธมิตรดั้งเดิมของรัสเซียในภูมิภาค ปูตินมีการพบหารือแบบทวิภาคีกับประธานาธิบดี เอ็มโมมาลี ราห์มอน (Emomali Rahmon) ผู้นำทาจิกิสถาน ซึ่งทั้งสองได้ตกลงร่วมมือด้านความมั่นคงชายแดนและการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนติดกับอัฟกานิสถาน
รัสเซียยังคงมีฐานทัพทหารขนาดใหญ่ในทาจิกิสถาน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาค
คำพูดของปูติน
ในระหว่างการประชุม ปูตินกล่าวว่า
> “เอเชียกลางคือหัวใจของความมั่นคงในยูเรเซีย รัสเซียจะไม่ยอมให้ภูมิภาคนี้ถูกคุกคามจากอิทธิพลภายนอกหรือการก่อการร้าย เราจะเดินหน้าสร้างสันติภาพและความร่วมมืออย่างยั่งยืนร่วมกับพันธมิตรทุกประเทศ”
คำกล่าวนี้สะท้อนความตั้งใจของรัสเซียที่จะคงบทบาท “ผู้พิทักษ์ความมั่นคง” ในเอเชียกลาง ซึ่งเป็นท่าทีที่ส่งสัญญาณถึงตะวันตกว่า รัสเซียยังคงมีเครือข่ายพันธมิตรที่เข้มแข็งในภูมิภาคนี้
---
วิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์
นักวิเคราะห์จากสำนักข่าว BBC และ Al Jazeera มองว่า
การเยือนครั้งนี้ของปูตินมีนัยสำคัญในเชิง “ยุทธศาสตร์ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Strategy)” เพราะเกิดขึ้นในช่วงที่
จีนกำลังผลักดันโครงการ Belt and Road Initiative (BRI)
สหรัฐฯ พยายามขยายอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียกลาง เพื่อจำกัดบทบาทของรัสเซีย
ดังนั้น ปูตินจึงต้องเดินเกมทางการทูตเพื่อรักษาฐานอำนาจเดิม และใช้เวที CIS เป็นเครื่องมือสร้าง “แนวร่วมทางการเมือง” กับประเทศเพื่อนบ้าน
---
ผลกระทบระยะยาว
1. ด้านการเมือง: รัสเซียจะสามารถคงอิทธิพลในเอเชียกลางได้ต่อไป แม้จะถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก
2. ด้านเศรษฐกิจ: โครงการร่วมด้านพลังงานและการขนส่งอาจสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศสมาชิก
3. ด้านความมั่นคง: การร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายและควบคุมชายแดนกับอัฟกานิสถานจะช่วยลดความเสี่ยงในภูมิภาค
---
🧭 สรุป
การเยือนทาจิกิสถานของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินในปี 2025 เป็นมากกว่าการประชุมธรรมดา หากแต่เป็น “การประกาศความเป็นผู้นำทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียในเอเชียกลาง”
ท่ามกลางแรงกดดันจากชาติตะวันตก รัสเซียยังคงเลือกเดินเกมแบบ “พันธมิตรใกล้บ้าน” เพื่อสร้างสมดุลทางอำนาจในภูมิภาคยูเรเซียต่อไป
อ้างอิงจาก: สำนักข่าวต่างประเทศ
















