ประจักษ์ชัย ไฟเขียว! “ลำไย–บอส” จะรักกันก็ไม่ว่า ถือเป็นสีสันของวงการลูกทุ่ง
💥 เรื่องร้อนที่ต้องรีบเคลียร์! “ลำไย ไหทองคำ” เจอดราม่าปลากระป๋อง–อดีตแฟนร่วมทริปญี่ปุ่น “ประจักษ์ชัย” เคลียร์ชัดทุกประเด็น!
กลายเป็นกระแสร้อนบนโลกออนไลน์ที่หลายคนพูดถึงไม่หยุด สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง “ลำไย ไหทองคำ” ที่ช่วงนี้ต้องบอกว่าโดนมรสุมข่าวรุมเร้าแบบต่อเนื่อง ทั้งดราม่ามารยาทการกินปลากระป๋องในสนามบินที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ไปจนถึงประเด็น “บอส เอวหวาน” อดีตแดนเซอร์หนุ่มของวงที่ถูกจับตาอย่างหนัก หลังมีภาพร่วมเฟรมในทริปฉลองวันเกิดที่ญี่ปุ่น จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า... “หรือจะเป็นการรีเทิร์นรักเก่า?”
ล่าสุด “นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ” เจ้าของค่ายเพลงชื่อดัง และผู้ปั้นลำไยให้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ลูกทุ่ง ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก เคลียร์ทุกดราม่าที่เกิดขึ้น เพื่อปกป้องศิลปินในสังกัด พร้อมชี้แจงแบบละเอียดยิบ ทั้งเรื่องปลากระป๋อง เรื่องความรัก และภาพที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์
🍱 ประเด็นแรก: กินปลากระป๋องในสนามบิน – “ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใช่คอนเทนต์!”
จุดเริ่มต้นของดราม่ามาจากคลิปที่มีผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ ขณะลำไยนั่งกิน “มาม่าปลากระป๋อง” อยู่บริเวณเกตสนามบินก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพราะอาจมีกลิ่นรบกวนคนรอบข้าง ทำให้คลิปถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหัวข้อร้อนในโลกออนไลน์
นายห้างประจักษ์ชัย ออกมาอธิบายว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดและ “เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์” ของทีมงานทั้งหมด เขากล่าวว่า
“เป็นที่แรกในโลกใบนี้เลยครับที่มีคนกินปลากระป๋องในสนามบิน ซึ่งกินเนสส์บุ๊กน่าจะบันทึกไว้ได้เลย มันไม่ใช่เรื่องตั้งใจ มันแค่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของคนทั่วไป ทีมงานกลัวเข้าเกตไม่ทัน ก็เลยซื้อมาม่ากับปลากระป๋องมากินในโซนเกต ซึ่งก็ซื้อจากร้านในสนามบิน ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรืออยากสร้างคอนเทนต์”
เขายังเสริมอีกว่า ปลากระป๋องไม่ใช่อาหารที่มีกลิ่นรุนแรงเหมือนปลาร้าหรือทุเรียน และทีมงานก็ไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นประเด็นใหญ่โตเช่นนี้
“พอมีคนวิจารณ์ ก็เข้าใจได้ครับว่ามันอาจไม่เหมาะสมในบางมุม แต่เรายืนยันว่าไม่มีเจตนาโชว์หรือทำให้เป็นเรื่องดราม่า แค่รีบกินเพราะกลัวตกเครื่องเท่านั้นเอง ต่อไปเราสัญญาว่าจะไม่กินปลากระป๋องในสนามบินอีกครับ”
คำชี้แจงดังกล่าวทำให้หลายคนที่ติดตามข่าวรู้สึกเห็นใจ เพราะลำไยเองเป็นคนทำงานหนัก เดินทางบ่อย อาจไม่ได้มีเวลาคิดเรื่องภาพลักษณ์มากนักในทุกสถานการณ์
💞 ประเด็นที่สอง: “บอส เอวหวาน” อดีตแดนเซอร์โผล่ร่วมทริปญี่ปุ่น
จากเรื่องปลากระป๋องยังไม่ทันจบ โลกออนไลน์กลับมีอีกประเด็นร้อนต่อทันที เมื่อมีภาพของลำไยเดินเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงวันเกิด โดยมีคนตาดีเห็นว่า “บอส เอวหวาน” อดีตแดนเซอร์หนุ่มคนสนิทที่เคยมีข่าวรักๆ เลิกๆ กับลำไยเมื่อหลายปีก่อน ปรากฏตัวร่วมทริปด้วย!
ชาวเน็ตหลายคนจับตาและตั้งคำถามว่า ทั้งคู่กลับมาคบกันอีกหรือไม่ หรือเป็นเพียงความบังเอิญที่ไปเที่ยวช่วงเวลาเดียวกัน
🤖 “อาจจะเป็น AI!” ประจักษ์ชัยตอบขำๆ แต่แฝงแง่คิด
นายห้างประจักษ์ชัยตอบเรื่องนี้ด้วยน้ำเสียงสบายๆ พร้อมรอยยิ้มว่า
“อาจจะเป็น AI ก็ได้ครับ (หัวเราะ) เพราะทุกวันนี้มันไม่รู้แล้วว่าอะไรจริงอะไรปลอม ภาพที่เห็นอาจจะเป็นภาพ AI ก็ได้ ผมเองยังไม่รู้เลยว่าของจริงหรือเปล่า มันเหนือการควบคุมแล้วครับ”
แต่ถึงจะพูดขำๆ เขาก็ไม่ลืมแสดงความเข้าใจต่อศิลปินในสังกัด โดยกล่าวว่า ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน และไม่ใช่เรื่องผิดหากลำไยจะมีความสัมพันธ์กับใคร
“ความรักมันเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ครับ มันเป็นสิ่งดีงาม ขอแค่รู้หน้าที่ รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรต่อไป ที่ผ่านมาลำไยก็ยังทำงานหนัก ไม่มีวันหยุด ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมจนถึงวันนี้ยังไม่มีวันที่หยุดเลย ผลงานก็ยังออกมาดี นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม”
เขายังเน้นย้ำว่า สำหรับตนแล้ว การที่ศิลปินจะมีแฟนหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่ากับ “การรับผิดชอบหน้าที่” และ “ความเป็นมืออาชีพ”
🎂 ทริปวันเกิดญี่ปุ่น – การพักผ่อนของคนทำงานหนัก
จากข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าทริปญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นการเดินทางฉลองวันเกิดของลำไย ซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่ 3 ตุลาคมของทุกปี โดยปกติลำไยมักจัดงานเล็ก ๆ ที่กรุงเทพฯ แถวเลียบด่วนรามอินทรา แต่ปีนี้เจ้าตัวอยากเปลี่ยนบรรยากาศ จึงเลือกไปญี่ปุ่นเพื่อพักผ่อนและเติมพลังหลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งปี
“เข้าใจว่าน้องเหนื่อยครับ ปีนี้ก็เลยอยากไปเปลี่ยนบรรยากาศที่ญี่ปุ่น ซึ่งเราก็สนับสนุนเต็มที่ เพราะทำงานมาเหนื่อยมาก ๆ แต่อันนี้ที่เห็นว่ามีใครไปด้วยบ้าง มันก็เป็นเรื่องส่วนตัว จะเป็น AI หรือไม่เป็น ก็ให้เขาจัดการกันเอง”
เขาทิ้งท้ายว่า ต่อให้ลำไยจะคบกับใครจริง ๆ ก็ไม่ถือเป็นเรื่องเสียหาย เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์
“การคบกันหรือจิ้นกันมันก็เป็นสีสันของวงการครับ ไม่เป็นไรเลย ผมมีหน้าที่บริหารคิวงาน และสร้างนักร้อง ส่วนเรื่องส่วนตัวเขาก็จัดการเองได้ เพราะโตแล้ว มีวุฒิภาวะในการตัดสินใจ”
🎤 ลำไย ไหทองคำ – ศิลปินหญิงที่ยืนหยัดด้วยผลงาน
ถึงแม้จะมีข่าวดราม่าเข้ามารุมเร้า แต่ลำไยก็ยังคงยืนหยัดในเส้นทางดนตรีอย่างแข็งแรง เธอยังคงมีงานโชว์ต่อเนื่องแทบทุกวัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่เคยมีข่าวเรื่องความไม่รับผิดชอบหรือล่มงาน
นายห้างประจักษ์ชัยยังกล่าวชมศิลปินในสังกัดว่า
“ตั้งแต่มีดราม่า ลำไยไม่เคยหยุดทำงานเลยครับ เธอรับผิดชอบทุกงานอย่างมืออาชีพ ไม่มีข้อผิดพลาดในโชว์ ไม่เคยทำให้แฟนเพลงผิดหวังเลย นั่นคือสิ่งที่ผมภูมิใจมากที่สุด”
แฟนคลับจำนวนมากที่ติดตามข่าวก็ออกมาส่งกำลังใจให้ลำไย พร้อมแสดงความเห็นในโซเชียลว่า “เธอคือคนทำงานหนัก สมควรได้รับการพักผ่อนบ้าง” และ “อย่าให้ดราม่ามาทำลายคนเก่ง ๆ แบบนี้เลย”
💬 เสียงจากชาวเน็ต
หลังจากคำชี้แจงของนายห้างดังถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์อย่างหลากหลาย บางคนเห็นใจ บางคนยังคงตั้งคำถาม แต่ส่วนใหญ่ต่างชื่นชมในการออกมาอธิบายอย่างตรงไปตรงมา เช่น
“เข้าใจเลยค่ะ คนทำงานเดินทางบ่อย บางทีก็แค่อยากกินอะไรง่าย ๆ”
“ดีเจ๊ลำไยยังคงทำงานหนักสุด ๆ รักในความขยัน”
“คุณประจักษ์ชัยพูดดีมาก อธิบายแบบเข้าใจ ไม่โยนความผิดใคร”
“ดราม่าปลากระป๋องฟังดูขำ ๆ แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่เกินเหตุจริง ๆ”
🔍 บทเรียนจากดราม่านี้
เรื่องราวของลำไย ไหทองคำ ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นหลายมิติ ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตของคนดังที่อยู่ภายใต้สายตาสาธารณะ การรับมือกับกระแสในโลกออนไลน์ และความสำคัญของการมีผู้บริหารที่พร้อมปกป้องศิลปินด้วยเหตุผลและความเข้าใจ
ดราม่าปลากระป๋องอาจดูเล็กน้อยในแง่เนื้อหา แต่สะท้อนภาพใหญ่ของยุคโซเชียลที่ “ทุกพฤติกรรมสามารถกลายเป็นข่าวได้” และทุกการกระทำของคนดังต้องถูกตรวจสอบในมุมต่าง ๆ เสมอ
ในขณะเดียวกัน ดราม่าความสัมพันธ์กับอดีตคนรักก็แสดงให้เห็นว่า โลกออนไลน์สามารถขยายประเด็นส่วนตัวให้กลายเป็นเรื่องสาธารณะได้ในพริบตา แต่สิ่งสำคัญคือ การรับมืออย่างมีสติ และไม่ปล่อยให้ดราม่ากลบผลงานของตัวเอง
🌟 สรุป
แม้จะมีมรสุมข่าวรุมเร้า แต่ “ลำไย ไหทองคำ” ยังคงเป็นศิลปินหญิงที่ยืนหยัดได้ด้วยความสามารถและความขยัน เธอพิสูจน์ให้เห็นว่า “ผลงาน” คือคำตอบที่ดีที่สุดต่อทุกคำวิจารณ์
และแน่นอนว่า “นายห้างประจักษ์ชัย” ก็ยังคงเป็นผู้บริหารที่ไม่เพียงแค่ดูแลศิลปินด้านงาน แต่ยังเข้าใจหัวใจของคนทำงานในวงการบันเทิงได้อย่างลึกซึ้ง เขาพูดชัดเจนว่า
“จะดราม่ากี่เรื่องก็ไม่กลัวครับ เพราะเรามีความจริงและผลงานเป็นเครื่องยืนยัน ทุกคนมีสิทธิ์จะผิดพลาดได้ แต่ต้องรู้จักเรียนรู้และปรับปรุงต่อไป”
ท้ายที่สุด เรื่องราวทั้งหมดนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งบทเรียนในชีวิตของลำไย และเป็นอีกสีสันหนึ่งในวงการเพลงลูกทุ่งไทย ที่ยังคงมีเรื่องราวให้พูดถึงอยู่เสมอ




















