หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ครม.เคาะ “คนละครึ่งพลัส” แจกเงินสูงสุด 2,400 บาท ใช้ได้ฟู้ดเดลิเวอรี่ด้วย!

เนื้อหาโดย bbb1236555

📢 ครม. เคาะแล้ว! “คนละครึ่งพลัส” แจกสูงสุด 2,400 บาท เพิ่มวงเงิน-เพิ่มสิทธิ-เพิ่มโอกาส ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี

วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ เห็นชอบโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่จากกระทรวงการคลัง ภายใต้งบประมาณรวมกว่า 44,000 ล้านบาท เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศในช่วงปลายปี 2568 ที่หลายฝ่ายประเมินว่าเป็นช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวจากภาวะโลก

 

โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้โครงการนี้ ครอบคลุมประชาชนไม่เกิน 20 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ใหญ่และใกล้เคียงกับโครงการ “คนละครึ่ง” ในระยะก่อนหน้า แต่ครั้งนี้มีการปรับโฉมใหม่ เพิ่มสิทธิประโยชน์มากขึ้นหลายด้าน ทั้งด้านวงเงิน การเข้าถึงของร้านค้า และกลุ่มเป้าหมายที่เปิดกว้างมากขึ้น

 

🔹 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ แถลงย้ำ “คนละครึ่งพลัส” คือเรือธงฟื้นเศรษฐกิจปลายปี

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ถือเป็นหนึ่งใน นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นฟื้นฟูความเชื่อมั่นและเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมักซบเซา

นายเอกนิติกล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจให้ “คนละครึ่งพลัส” เป็น โครงการเรือธง (Flagship Project) ที่ต่อยอดจากโครงการเดิมอย่าง “คนละครึ่ง” และ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง ทั้งในแง่ของการลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และการกระตุ้นให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก

“คนละครึ่งพลัสไม่ใช่เพียงโครงการแจกเงิน แต่เป็นการลงทุนในเศรษฐกิจของประชาชน เป็นการสร้างแรงขับเคลื่อนให้ร้านค้ารายเล็กมีรายได้เพิ่มขึ้น และให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้นในช่วงปลายปี” — นายเอกนิติ กล่าว

🔹 “พลัส” ทั้ง 5 ด้าน – ยกระดับสิทธิประโยชน์ให้มากกว่าที่เคย

ชื่อของโครงการ “คนละครึ่งพลัส” มาจากแนวคิด “เพิ่มทุกด้าน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม” โดยรัฐบาลได้กำหนด “พลัส” ทั้ง 5 ด้านที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ ได้แก่

🟢 พลัสที่ 1: เพิ่มช่วงอายุผู้เข้าร่วม

จากเดิมโครงการ “คนละครึ่ง” เปิดให้เฉพาะผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ในรอบนี้ ขยายสิทธิให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป สามารถเข้าร่วมได้ เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ที่เริ่มมีรายได้จากการทำงานพาร์ทไทม์ ได้เข้าถึงสิทธิของรัฐ

🟢 พลัสที่ 2: เพิ่มวงเงินใช้จ่ายต่อวัน

จากเดิมจำกัดการใช้สิทธิ 150 บาทต่อวัน เพิ่มเป็น 200 บาทต่อวัน เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงค่าครองชีพสูง ทั้งค่าน้ำมัน อาหาร และของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน

🟢 พลัสที่ 3: เพิ่มสิทธิพิเศษตามสถานะภาษี

รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษีอย่างเป็นทางการ จึงได้เพิ่มสิทธิพิเศษในโครงการนี้ คือ

ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี ได้รับสิทธิ สูงสุด 2,400 บาทต่อคน

ผู้ที่อยู่นอกระบบภาษี ได้รับสิทธิ 2,000 บาทต่อคน

การแบ่งแบบนี้เป็นการจูงใจให้ประชาชนสมัครเข้าระบบภาษี เพื่อความยั่งยืนของนโยบายด้านเศรษฐกิจในระยะยาว

🟢 พลัสที่ 4: เพิ่มโอกาสให้ร้านค้ารายเล็ก

นอกจากร้านค้าทั่วไปแล้ว “คนละครึ่งพลัส” ยังเปิดให้ ร้านค้ารายเล็กและ Micro SME เข้าร่วมได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนพาณิชย์ขนาดใหญ่ เพียงมีบัญชีพร้อมเพย์และโทรศัพท์สมาร์ตโฟนก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพื่อช่วยกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ

🟢 พลัสที่ 5: เพิ่มทักษะ (Upskill/Reskill)

รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะของร้านค้า โดยจะจัดอบรมทั้ง การใช้เทคโนโลยีการชำระเงินดิจิทัล การบริหารร้านค้าออนไลน์ และการตลาดยุคใหม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้โครงการนี้ต่อยอดธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

🔹 เงื่อนไขและระยะเวลาใช้สิทธิ

สำหรับรายละเอียดการใช้สิทธิ “คนละครึ่งพลัส” มีดังนี้

ผู้มีสิทธิจะได้รับวงเงินตลอดโครงการ

2,400 บาท สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี

2,000 บาท สำหรับผู้ที่อยู่นอกระบบภาษี

ใช้สิทธิได้ ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน

ชำระเงินผ่าน แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” (G-Wallet)

ใช้ได้ระหว่างเวลา 06.00–23.00 น.

เริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568

ผู้ได้รับสิทธิต้อง “เริ่มใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ก่อนเวลา 23.00 น.” มิฉะนั้น สิทธิจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ

🔹 คลังมั่นใจ เงิน 44,000 ล้านบาท ช่วยหมุนเศรษฐกิจเพิ่ม 1.5 เท่า

กระทรวงการคลังคาดว่า งบประมาณ 44,000 ล้านบาท ที่ใช้ในโครงการนี้จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ มากกว่า 66,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราทดทางเศรษฐกิจ (Multiplier Effect) ประมาณ 1.5 เท่า

การใช้จ่ายผ่านแอป “เป๋าตัง” ยังช่วยให้ภาครัฐสามารถ ติดตามพฤติกรรมการใช้จ่ายได้แบบเรียลไทม์ ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจฐานรากมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการจัดเก็บภาษี และการวางแผนนโยบายระยะต่อไป

 

🔹 เสียงสะท้อนจากประชาชนและผู้ประกอบการ

หลังข่าวการอนุมัติโครงการ “คนละครึ่งพลัส” แพร่ออกไป โลกออนไลน์ต่างแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง หลายคนมองว่าเป็น “ของขวัญปลายปี” ที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากค่าครองชีพ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและแม่บ้านที่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายรายวัน

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านค้ารายเล็ก ต่างก็แสดงความยินดี เพราะโครงการในลักษณะนี้เคยช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่มี “คนละครึ่ง” ระยะก่อนหน้า

“ตอนโครงการคนละครึ่งรอบก่อน ลูกค้าแน่นร้านเลยค่ะ ขายของได้มากกว่าปกติ 30-40% หวังว่ารอบนี้จะคึกคักอีก” — เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวในเชียงใหม่ให้สัมภาษณ์

นอกจากนี้ กลุ่มเยาวชนอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมเป็นครั้งแรก เพราะถือเป็น โอกาสในการฝึกวางแผนการเงินและการใช้จ่ายอย่างมีวินัย ผ่านระบบดิจิทัลของรัฐ

🔹 นักเศรษฐศาสตร์ชี้ โครงการนี้ช่วย “ประคองเศรษฐกิจ” ช่วงปลายปีได้จริง

นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งหนึ่ง วิเคราะห์ว่า โครงการลักษณะนี้มีผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น เพราะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศทันที โดยเฉพาะในภาคค้าปลีกและบริการ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนเสนอว่า รัฐบาลควร วางแผนต่อยอดในระยะยาว เช่น การสนับสนุนให้ร้านค้าใช้เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) อย่างยั่งยืน เพื่อให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตควบคู่กับเศรษฐกิจฐานราก

 

🔹 “คนละครึ่งพลัส” กับเป้าหมาย “เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อประชาชน”

อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของโครงการนี้ คือการผลักดันให้ประชาชนคุ้นเคยกับ ระบบการชำระเงินดิจิทัล (Digital Payment) ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อประชาชน” ที่รัฐบาลต้องการให้เกิดการใช้เทคโนโลยีอย่างแพร่หลาย

จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้ “เป๋าตัง” มากกว่า 35 ล้านบัญชี และตัวเลขนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เช่น “เราเที่ยวด้วยกัน”, “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”, “คนละครึ่ง” และล่าสุดคือ “คนละครึ่งพลัส”

🔹 รัฐบาลย้ำ “ไม่มีการหักภาษี” จากเงินที่ได้รับ

กระทรวงการคลังยืนยันว่า เงินที่ประชาชนได้รับในโครงการนี้จะ ไม่ถูกหักภาษี และจะไม่ถูกนับรวมเป็นรายได้ในภาษีบุคคลธรรมดา ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าสิทธิที่ได้รับคือเงินช่วยเหลือโดยตรงจากภาครัฐ ไม่ใช่เงินกู้หรือเงินชดเชยที่จะมีภาระภายหลัง

 

🔹 สรุปสาระสำคัญของโครงการ “คนละครึ่งพลัส”

รายการ รายละเอียด

งบประมาณรวม 44,000 ล้านบาท

ครอบคลุม ไม่เกิน 20 ล้านคน

ระยะเวลาใช้สิทธิ 29 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2568

วงเงินสูงสุด 2,400 บาท (อยู่ในระบบภาษี) / 2,000 บาท (อยู่นอกระบบภาษี)

จำกัดการใช้ 200 บาทต่อวัน

แอปที่ใช้ เป๋าตัง (G-Wallet)

ใช้สิทธิครั้งแรก ภายใน 11 พ.ย. 2568 ก่อน 23.00 น.

เวลาชำระเงิน 06.00 – 23.00 น.

ร้านค้าที่เข้าร่วม ร้านค้าทั่วไป, ร้านรายเล็ก, Micro SME

 

🔹 บทสรุป – “คนละครึ่งพลัส” ความหวังใหม่ปลายปีของคนไทย

โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่รัฐบาลหวังว่าจะเป็น แรงกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญก่อนเข้าสู่ปี 2569 ทั้งในด้านการจับจ่ายของประชาชนและรายได้ของผู้ประกอบการรายย่อย

 

การเพิ่มสิทธิและขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการปรับตัวให้เข้ากับยุคเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษีและระบบการเงินอย่างโปร่งใส

 

ไม่ว่าจะมองจากมุมของผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการ “คนละครึ่งพลัส” จึงไม่ใช่แค่โครงการแจกเงิน แต่เป็น “การลงทุนในศักยภาพของคนไทย” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแรง และสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงในปีหน้า

 

🟢 สรุปสั้นๆ อีกครั้ง

แจกสูงสุด 2,400 บาท/คน

ใช้ได้วันละ 200 บาท

ผ่านแอป เป๋าตัง G-Wallet

เริ่ม 29 ต.ค. – 31 ธ.ค. 68

ต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายใน 11 พ.ย.

โครงการนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในมาตรการเศรษฐกิจที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงปลายปี 2568 เพราะไม่เพียงช่วย “ลดรายจ่าย” แต่ยังช่วย“เพิ่มความหวัง” ให้ประชาชนทั่วประเทศในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจต้องการแรงส่งอย่างที่สุด.

เนื้อหาโดย: bbb1236555
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: rage555
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"บอย ท่าพระจันทร์" เผยที่มาเหรียญหลวงปู่ทวด ปี 08 ของหายาก เจอเซียนเสนอซื้อ 10 ล้าน"นอร์เวย์" ให้เงินสนับสนุนเขมร 1.2 ล้านดอลลาร์เปิดจดหมาย “อดีตหลวงพ่ออลงกต” จากในเรือนจำ เขียนถึงศิษย์ทั่วประเทศ สารสะเทือนใจ!พระเอกฉายา "ไอ้หนุ่มสลาตัน" ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม หลังอุบัติเหตุครั้งใหญ่"น้องฑีฆายุ" สู้เพื่อแม่ ฝึกจนผ่านเป็น นศท.จ๊ะ นงผณี โพสต์ซึ้งถึง บิ๊ก เปิดแชตหวานฝ่ายชายพูดเอง “จะให้พ่อไปขอแล้วนะ”รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ 07/10/68ผลเสียของการดื่มมัทฉะมากเกินไปเลือกเลขห้อง เลขห้องคอนโด มงคลตามวันเกิด เลขไหนอยู่แล้วปัง สำหรับคนที่เกิดวันพุธกลางคืน วันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์เลือกเลขห้อง เลขห้องคอนโด มงคลตามวันเกิด เลขไหนอยู่แล้วปัง สำหรับคนที่เกิดวันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธกลางวันปรับฮวงจุ้ยโต๊ะอาหาร เสริมดวงรับทรัพย์ฮวงจุ้ยห้องน้ำ เรียกทรัพย์ พร้อมเสริมสุขอนามัยที่ดี เสริมดวงให้ปัง ด้วยสีห้องน้ำตามหลักฮวงจุ้ย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พระเอกฉายา "ไอ้หนุ่มสลาตัน" ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม หลังอุบัติเหตุครั้งใหญ่จ๊ะ นงผณี โพสต์ซึ้งถึง บิ๊ก เปิดแชตหวานฝ่ายชายพูดเอง “จะให้พ่อไปขอแล้วนะ”"ปอปหยิบ"อัตลักษณ์ผีปอปไทยผ่านภาพยนตร์บ้านผีปอปประสบการณ์ทำงาน(ตรง)จาก7Eleven"นอร์เวย์" ให้เงินสนับสนุนเขมร 1.2 ล้านดอลลาร์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
สาวงาม Miss Grand International 2025 งามสง่าในชุดไทย พร้อมเปิดตัวมงกุฏใหม่ รุ่นที่ 5จ๊ะ นงผณี โพสต์ซึ้งถึง บิ๊ก เปิดแชตหวานฝ่ายชายพูดเอง “จะให้พ่อไปขอแล้วนะ”เปิดจดหมาย “อดีตหลวงพ่ออลงกต” จากในเรือนจำ เขียนถึงศิษย์ทั่วประเทศ สารสะเทือนใจ!"บอย ท่าพระจันทร์" เผยที่มาเหรียญหลวงปู่ทวด ปี 08 ของหายาก เจอเซียนเสนอซื้อ 10 ล้าน
ตั้งกระทู้ใหม่