เขมรให้เงินช่วยเหลือชาวบ้านและผู้พลัดถิ่นในอุดรมีชัย

     ครอบครัวเปราะบางประมาณ 200 ครอบครัว ที่ต้องพลัดถิ่นเนื่องจากข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย ที่กำลังดำเนินอยู่ ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากโครงการ "โอนเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน" จากอ็อกแฟมในกัมพูชา เพื่อช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูกที่ถูกทำลาย ซึ่งรวมถึงสนับสนุนการดำรงชีวิตประจำวันของพวกเขา

     โครงการริเริ่มนี้ ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2025 มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนอง ต่อความต้องการด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ของชาวบ้านผู้พลัดถิ่น ระหว่างวันที่ 26 ถึง 30 สิงหาคม 2025 โดย "อ็อกแฟมและกลุ่มสนับสนุนหมู่บ้าน" ได้ดำเนินการประเมินในหมู่บ้าน 19 แห่ง ครอบคลุม 4 ตำบล และ 3 อำเภอ ในจังหวัดออดเดอร์มีชัย พบว่ามี 415 ครัวเรือน จากทั้งหมด 499 ครัวเรือน ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

     "อ็อกแฟมและกลุ่มสนับสนุนหมู่บ้าน" กล่าวว่า "เราให้ความสำคัญกับครอบครัวที่มีความเสี่ยงสูงสุด ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครอบครัวที่อาศัยอยู่คนเดียว และ ครอบครัวที่เผชิญกับความเปราะบางอย่างยิ่ง เช่น ครอบครัวที่มีบ้านเรือนเสียหายจากสงคราม พื้นที่เพาะปลูกที่ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากภัยคุกคามทางทหารของไทย การสูญเสียรายได้ การขาดแคลนการเดินทาง การเข้าถึงบริการสาธารณะที่ยากไร้ และ ชาวบ้านที่ติดเชื้อเอชไอวี"

     ผู้อำนวยการอ็อกแฟม "โสภณ เพียร" ประจำประเทศกัมพูชา กล่าวถึงความจำเป็นเร่งด่วน ในการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมแก่ผู้พลัดถิ่น เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาว่า "เงินบริจาคที่นี่มีไม่มากนัก แต่เราหวังว่าจะช่วยให้พวกคุณได้" และ "ราเชื่อว่าความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ต้องควบคู่ไปกับสันติภาพ..."

     เมื่อวันที่ 2 และ 3 ตุลาคม 2025 "อ็อกแฟมและกลุ่มสนับสนุนหมู่บ้าน" ได้มอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับครอบครัวจำนวน 200 ครอบครัว เกือบครึ่งหนึ่งของครอบครัวเหล่านี้ ประกอบด้วยผู้หญิง โดยส่วนใหญ่เป็นเด็ก

     กลุ่มนี้ยังรวมถึงผู้สูงอายุและผู้พิการ ที่เผชิญกับความยากลำบากเพิ่มเติม อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวที่จำกัด การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่ไม่เพียงพอ และ โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอ แต่ละครัวเรือนได้รับเงิน 50 ดอลลาร์ เพื่อช่วยครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำวัน ปรับสมดุลสภาพความเป็นอยู่ และ ช่วยให้พวกเขาสามารถเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ได้

     ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มสนับสนุนหมู่บ้าน "ชอร์วิวอร์น รอส" กล่าว "การตอบสนองนี้สร้างขึ้นจากเสียงของชุมชน" และ "เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำท้องถิ่น เพื่อให้แน่ใจว่าครอบครัวที่เปราะบางที่สุด จะได้รับการสนับสนุน ไม่เพียงแต่ด้วยเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงน้ำสะอาดและสุขาภิบาลด้วย!!"

     "รัตนา ซาล" คุณแม่ลูกสาม จากหมู่บ้านเซนมโนรม 2 ตำบลโคกโคปส อำเภอบันทายอัมปิล ได้เดินทางกลับมายังค่ายผู้พลัดถิ่นพนมธมอรคัมบอร์  กล่าวว่า "ฉันเก็บเงินนี้ไว้กับลูกๆ เผื่อพวกเขาป่วย ฉันไม่กล้ากลับบ้านเลย สถานการณ์ไม่เหมือนเมื่อก่อน ฉันกลัวกระสุนจากไทย" และ "ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ของเราใหม่ได้อย่างไร?"

     โครงการโอนเงินนี้เป็นส่วนหนึ่ง ของความพยายามอย่างต่อเนื่อง ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชุมชนผู้พลัดถิ่นในกัมพูชา โครงการนี้ได้ให้การสนับสนุนครัวเรือนไปแล้ว 7,431 ครัวเรือน และเข้าถึงผู้พลัดถิ่น 25,281 คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอ็อกแฟม ในการส่งเสริมความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ การปกป้องสิทธิมนุษยชน และ การสร้างหลักประกันการสนับสนุน ด้านมนุษยธรรมที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

     ประธานมูลนิธิป่าชุมชนโรลัสธอม "ฟัลลี รอส" ได้ออกมากล่าวแสดงความขอบคุณ สำหรับการสนับสนุน โดยกล่าวถึงอุปสรรค ที่ครอบครัวผู้พลัดถิ่นต้องเผชิญในปัจจุบันว่า "ก่อนหน้านี้ เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตักน้ำ จากบ่อน้ำใกล้เคียง ซึ่งน้ำนั้นสกปรกและเต็มไปด้วยขยะ แต่ปัจจุบัน ชุมชนของเรามีถังเก็บน้ำสะอาด พร้อมระบบกรองน้ำและห้องน้ำที่สะอาด ซึ่งทำให้ชุมชนของเรารู้สึกปลอดภัยและสบายใจมากขึ้น..."

อ้างอิง : kiripost