รีบเลย! 7 ล้านคนเสี่ยงอดสิทธิ์ “คนละครึ่งพลัส” เปิดเกณฑ์ใหม่ก่อนลงทะเบียน 20 ต.ค.
เปิดเหตุผล "คนละครึ่งพลัส" ทำไมอาจมีคนชวดสิทธิ์ถึง 7 ล้านคน! รัฐจำกัดโควตา เตือนลงทะเบียน 20–26 ต.ค. 68 ก่อนเริ่มใช้สิทธิ์ 29 ต.ค.นี้
หลังจากรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนในช่วงปลายปี 2568 ได้ไม่นาน ความสนใจของประชาชนทั่วประเทศก็พุ่งทะลุเพดานอีกครั้ง
โครงการนี้ถือเป็น “ภาคต่อ” ของนโยบายยอดฮิตในยุคก่อนหน้าอย่าง “คนละครึ่ง เฟส 5” ซึ่งเคยได้รับเสียงตอบรับอย่างถล่มทลายจากประชาชนกว่า 27 ล้านคนทั่วประเทศ แต่สิ่งที่สร้างความสงสัยและความกังวลในครั้งนี้ คือทำไมรัฐบาลจึงประกาศว่าอาจมีประชาชน “ถึง 7 ล้านคน” ที่อาจไม่ได้รับสิทธิ์ในรอบใหม่ของ “คนละครึ่งพลัส”
เพื่อไขข้อสงสัยทั้งหมด เราได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึก เหตุผลที่แท้จริง และรายละเอียดการลงทะเบียน รวมถึงข้อควรรู้ที่ประชาชนต้องทราบก่อนถึงวันเปิดระบบในวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568
🔸 “คนละครึ่งพลัส” คืออะไร?
โครงการนี้เป็นการ ยกระดับจากโครงการคนละครึ่งเดิม โดยรัฐบาลชุดใหม่ตั้งเป้าให้ครอบคลุมทั้ง “กลุ่มเปราะบาง” และ “กลุ่มผู้เสียภาษี” อย่างเท่าเทียม รวมถึงเพิ่มวงเงินสมทบและขยายเงื่อนไขการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
กระทรวงการคลังระบุว่า โครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศช่วงปลายปี โดยเน้นให้ประชาชนใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก ร้านชุมชน และธุรกิจรายย่อย (SMEs) ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ซึ่งยังคงเป็นช่องทางหลักเหมือนเดิม
🔸 รัฐบาลแบ่งกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์อย่างชัดเจน 3 กลุ่ม รวมกว่า 33 ล้านคน
1. กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
ประชาชนกลุ่มนี้มีประมาณ 13 ล้านคน จะได้รับเงินเพิ่มเติม 1,700 บาทต่อเดือน รวมกับสิทธิ์เดิมเป็น 2,000 บาทต่อเดือน โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ระบบจะโอนสิทธิ์ให้อัตโนมัติผ่านบัตร
2. กลุ่มผู้อยู่ในระบบภาษี (เช่น ผู้มีรายได้ประจำหรือผู้ประกอบการที่ยื่นภาษีประจำปี)
มีจำนวนประมาณ 11 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์แบบ 60:40 คือ
รัฐบาลสมทบ 2,400 บาท
ประชาชนเติมเงินเอง 2,000 บาท
จำกัดการใช้จ่ายไม่เกินวันละ 200 บาท
ใช้ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” เท่านั้น
3. กลุ่มผู้อยู่นอกระบบภาษี (เช่น อาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า คนทำงานนอกระบบ)
ประมาณ 9 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์แบบ 50:50 โดย
รัฐสมทบ 2,000 บาท
ประชาชนเติมเอง 2,000 บาท
จำกัดการใช้วันละ 200 บาท
ใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมในแอปฯ “เป๋าตัง”
รวมทั้งหมดจะมีประชาชนได้รับสิทธิ์ในโครงการนี้ประมาณ 33 ล้านคนทั่วประเทศ
🔸 แล้วทำไมถึงมีคนอาจ “ชวดสิทธิ์” ถึง 7 ล้านคน?
ย้อนดูข้อมูลโครงการ “คนละครึ่ง เฟส 5” พบว่ามีผู้เข้าร่วมกว่า 27 ล้านคน แต่รอบนี้รัฐบาลจำกัดจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ในกลุ่มประชาชนทั่วไป (กลุ่มที่อยู่ในและนอกระบบภาษี) ไว้เพียง 20 ล้านสิทธิ์ เท่านั้น
หมายความว่า มีประชาชนราว 7 ล้านคน ที่เคยได้สิทธิ์ในเฟสก่อนหน้า อาจพลาดโอกาสครั้งนี้ และนี่คือสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้หลายคนอาจ “หลุดสิทธิ์” โดยไม่รู้ตัว
🔸 สาเหตุหลักที่อาจทำให้ “ชวดสิทธิ์คนละครึ่งพลัส”
1. จำกัดจำนวนสิทธิ์ตามงบประมาณ
รัฐบาลอนุทินตั้งงบประมาณไว้สำหรับ “คนละครึ่งพลัส” เพียงพอสำหรับประชาชน 33 ล้านคนเท่านั้น และในส่วนของประชาชนทั่วไปถูกจำกัดไว้ 20 ล้านสิทธิ์ เนื่องจากต้องจัดสรรงบอีกส่วนให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ที่ได้รับสิทธิ์อัตโนมัติ
2. ไม่ผ่านเกณฑ์รายได้หรือภาษีใหม่
รอบนี้กระทรวงการคลังเพิ่มเงื่อนไขใหม่ให้ “ผู้มีรายได้สูงเกินเกณฑ์” หรือ “ผู้มีประวัติการเสียภาษีไม่ตรงตามจริง” ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมในกลุ่มประชาชนทั่วไป
3. ไม่ได้ยืนยันสิทธิ์ในแอปฯ เป๋าตังภายในกำหนดเวลา
โครงการนี้เน้น “ลงทะเบียนและยืนยันสิทธิ์ผ่านเป๋าตังเท่านั้น” ผู้ที่ไม่ยืนยันสิทธิ์ระหว่างวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568 จะถือว่าสละสิทธิ์โดยอัตโนมัติ
4. คุณสมบัติเปลี่ยนแปลงจากเดิม
บางรายอาจหมดสิทธิ์เพราะ เสียชีวิต, เปลี่ยนสัญชาติ, หรือเปลี่ยนสถานะเป็น ข้าราชการ/ผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งอาจถูกตัดออกจากระบบสิทธิ์ในครั้งนี้
5. ระบบตัดสิทธิ์อัตโนมัติจากข้อมูลซ้ำซ้อน
ผู้ที่เคยมีสิทธิ์ในหลายโครงการพร้อมกัน เช่น “คนละครึ่ง” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” อาจถูกระบบตรวจสอบและตัดสิทธิ์หากข้อมูลซ้ำหรือไม่ตรงกับทะเบียนบ้าน
🔸 รัฐบาลย้ำ! อย่าชะล่าใจ รีบลงทะเบียนทันที
กระทรวงการคลังย้ำชัดว่า “สิทธิ์มีจำนวนจำกัด” และจะพิจารณาเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนหรือยืนยันสิทธิ์ในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยขอให้ประชาชนเตรียมข้อมูลให้พร้อม ทั้งบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน เพื่อป้องกันปัญหายืนยันตัวตนไม่ผ่าน
🔸 ไทม์ไลน์สำคัญของโครงการ “คนละครึ่งพลัส”
📅 15 ตุลาคม 2568
เปิดลงทะเบียนร้านค้า ผู้ประกอบการสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์หรือแอปฯ ถุงเงิน โดยจะมีการประกาศเงื่อนไขและขั้นตอนเพิ่มเติม
📅 20 – 26 ตุลาคม 2568
เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนหรือยืนยันสิทธิ์ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” เท่านั้น สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมในเฟสก่อนหน้า
📅 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
เริ่มใช้สิทธิ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ใช้จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ตามเงื่อนไขที่กำหนด
🔸 ผลดีต่อเศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดหวัง
กระทรวงการคลังประมาณการว่า โครงการนี้จะช่วย กระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศกว่า 250,000 ล้านบาท โดยเม็ดเงินที่รัฐสมทบจะกระจายไปสู่ร้านค้าทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านราย
นอกจากนี้ยังเป็นการ ฟื้นฟูรายได้ให้กลุ่ม SMEs และร้านค้ารายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าครองชีพสูงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาลอนุทินประกาศไว้ตั้งแต่วันแรกเข้ารับตำแหน่ง
🔸 เสียงสะท้อนจากประชาชน
หลังจากมีการประกาศรายละเอียดเบื้องต้นในสื่อสังคมออนไลน์ พบว่ามีประชาชนจำนวนมากแสดงความกังวลเกี่ยวกับ จำนวนสิทธิ์ที่ลดลง และ ขั้นตอนการยืนยันสิทธิ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่ถนัดใช้สมาร์ตโฟน
ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งมองว่า รัฐบาลควรกำหนดเกณฑ์ชัดเจนตั้งแต่ต้น เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าตนเองอยู่ในกลุ่มใด ไม่ต้องรอลุ้นเหมือนโครงการก่อนหน้า
🔸 สรุป: อย่าพลาดสิทธิ์! เช็กคุณสมบัติให้ครบก่อนลงทะเบียน
เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิ์ในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ควรตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ก่อนวันลงทะเบียน
✅ เป็นคนสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
✅ มีบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ
✅ มีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน
✅ มีแอปฯ “เป๋าตัง” และอัปเดตเวอร์ชันล่าสุด
✅ ไม่เป็นข้าราชการหรือผู้ประกันตนในระบบ ม.33
✅ ยืนยันสิทธิ์ภายในวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568
แม้โครงการ “คนละครึ่งพลัส” จะยังคงเป็นความหวังของหลายครอบครัวในการบรรเทาภาระค่าครองชีพ แต่สิ่งสำคัญคือ ความเข้าใจเงื่อนไขและการเตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิ์สำคัญจากความไม่รอบคอบเพียงเล็กน้อย
อย่าลืม! วันที่ 20–26 ตุลาคมนี้ คือช่วงเวลาชี้ชะตา ใครลงทะเบียนไม่ทัน อาจต้องรอเฟสต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
“รีบยืนยันสิทธิ์ไว้ก่อน ดีกว่ามานั่งเสียดายทีหลัง”
📍สรุปอีกครั้งสั้น ๆ:
ลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส 20–26 ต.ค. 68
เริ่มใช้สิทธิ์ 29 ต.ค.–31 ธ.ค. 68
จำกัดสิทธิ์ประชาชนทั่วไป 20 ล้านราย
คาดมีคนชวดสิทธิ์กว่า 7 ล้านคนทั่วประเทศ
ตรวจสอบสิทธิ์ในแอปฯ “เป๋าตัง” ให้พร้อมก่อนวันจริง
















