เลี้ยงฉลองบ้านใหม่ 20 โต๊ะ เชิญเจ้านายด้วย 1 เดือนต่อมาถูกไล่ออก
เมื่อครู่นี้ดิฉันได้อ่านบทความหนึ่งของคุณ “หลิว หมิง” วัย 33 ปีค่ะ อ่านแล้วก็รู้สึกสะท้อนใจไม่น้อย เลยอยากมาเล่าแบ่งปันให้ท่านผู้อ่านฟังกัน
เรื่องมีอยู่ว่า คุณหลิวกับภรรยาออมเงินเก็บหอมรอมริบมาหลายปี จนสามารถสร้างบ้านสองชั้นที่ชานเมืองได้สำเร็จ ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของทั้งครอบครัว พอถึงฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ก็จัดเลี้ยงใหญ่ถึง 20 โต๊ะ เชิญญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และยังเชิญเจ้านายที่ทำงานไปด้วย ซึ่งท่านก็ให้เกียรติมาร่วมงานจริง ๆ
แต่ความสุขอยู่ได้ไม่นาน เพียงหนึ่งเดือนต่อมา คุณหลิวกลับถูกให้ออกจากงาน ทั้งที่ทำงานมาถึง 3 ปี และไม่เคยมีปัญหากับใครเลย ตอนแรกได้รับคำอธิบายเพียงว่าบริษัทกำลังปรับโครงสร้างบุคลากร แต่ต่อมาจึงได้รู้ความจริงจากเพื่อนร่วมงานว่า เจ้านายเกิดความสงสัยขึ้นหลังมาร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ เห็นบ้านหลังใหญ่ก็คิดว่าอาจมีความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับรายได้ ทั้งที่แท้จริงแล้วบ้านหลังนั้นสร้างขึ้นจากเงินเก็บเก่าและการช่วยเหลือจากครอบครัว
อ่านถึงตรงนี้ ดิฉันรู้สึกสงสารและก็เข้าใจเจ้าของเรื่องเป็นอย่างมากค่ะ เพราะบางครั้งความสำเร็จที่เราภูมิใจ กลับถูกมองด้วยสายตาที่ไม่เป็นธรรม จนกลายเป็นเหตุให้ถูกกีดกันหรือเข้าใจผิดไปเสียอย่างนั้น
อย่างไรก็ดี คุณหลิวเองก็ได้ข้อคิดและเลือกที่จะมองโลกในแง่ดี ท่านบอกว่าพอได้รู้เหตุผลที่แท้จริง กลับรู้สึกโล่งใจมากกว่าจะโกรธ เพราะถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่โปร่งใสและเต็มไปด้วยความระแวง คงไม่อาจทำงานอย่างสบายใจได้ในระยะยาว
ดิฉันคิดว่าเรื่องนี้สอนเราว่า การทำงานนั้น นอกจากเงินเดือนและตำแหน่งแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันก็คือ “บรรยากาศที่โปร่งใสและเป็นธรรม” เพราะถ้าเราต้องทำงานอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง ต่อให้เงินเดือนดีแค่ไหน ใจก็คงไม่เป็นสุขค่ะ
ท่านผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างคะ ดิฉันเองอ่านแล้วก็อดนึกไม่ได้ว่า บางครั้งการจากไปของงานหนึ่ง อาจเป็นโอกาสให้เราได้พบที่ทำงานใหม่ที่เหมาะสมและเห็นคุณค่าในตัวเรามากกว่าก็เป็นได้
















