บริษัทผู้ผลิตเบียร์ดังในญี่ปุ่นถูกโจมตีทางไซเบอร์
บริษัท "เซเวน แอนด์ ไอ โฮลดิงส์" ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นในญี่ปุ่น รวมถึงผู้ค้าปลีกรายใหญ่อื่นๆอีกมากมาย ได้ออกมาประกาศแจ้งเตือนลูกค้าในวันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] ว่า "อาจเกิดภาวะขาดแคลนเบียร์ "อาซาฮี" และ สินค้าอื่นๆของบริษัท "อาซาฮี กรุ๊ป โฮลดิงส์" เนื่องจากทางบริษัทถูกมือดีโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิต และ การกระจายสินค้าทั่วญี่ปุ่น..."
ลูกค้าบางรายเริ่มพบป้ายประกาศหน้าร้านเซเว่นที่แจ้งว่า "การจัดส่งเบียร์อาซาฮีถูกระงับชั่วคราว" ในขณะที่ร้าน "ลอว์สัน" และ "แฟมิลีมาร์ท" ก็ออกคำเตือนเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า "ผลิตภัณฑ์ของอาซาฮี ทั้งเบียร์ เครื่องดื่ม และอาหารบางชนิด อาจหาซื้อได้ยากตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2025 เป็นต้นไป"
ความวุ่นวายครั้งนี้มีจุดเริ่มจากเหตุโจมตีไซเบอร์ ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันจันทร์ที่ผ่านมา [ตามเวลาท้องถิ่น] โดยผู้ไม่หวังดีใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ เจาะเข้าสู่ระบบไอทีของอาซาฮี ส่งผลให้เครือข่ายด้านการผลิต การรับคำสั่งซื้อ และ การจัดส่งภายในประเทศต้องหยุดชะงัก
ซึ่งทางบริษัท "อาซาฮี กรุ๊ป โฮลดิงส์" ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า "เราจำเป็นต้องเลื่อนการเปิดตัวสินค้าใหม่ถึง 12 รายการออกไปอย่างไม่มีกำหนด" และ "ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบและกู้คืนระบบ..."
เจ้าหน้าที่ของ "อาซาฮี กรุ๊ป โฮลดิงส์" กล่าวว่า "ขณะนี้เรายังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนว่า ระบบจะกลับมาดำเนินงานตามปกติเมื่อใด? โดยหลายสาขาในเครือบริษัทของเรา จึงต้องเปลี่ยนกระบวนการทำงานมาใช้ระบบแมนนวล แทนระบบอัตโนมัติชั่วคราว" และ "ถึงแม้ระบบของเราจะเละ แต่ข้อมูลลูกค้าหรือข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ยังคงปลอดภัยอยู่..."
แรงกระแทกจากเหตุการณ์นี้ ยังส่งผลต่อตลาดหุ้น โดยหุ้นอาซาฮีปรับตัวลดลงราว 12% ภายในสัปดาห์เดียว ความผันผวนดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง กับคู่แข่งสุดแกร่งอย่าง "คิริน โฮลดิงส์" และ "ซันโตรี เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ดส์" ซึ่งต่างกำลังแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดเบียร์และเครื่องดื่ม ที่มีมูลค่าสูงของญี่ปุ่น...
ด้านผู้ประกอบการร้านอาหารหลายแห่ง กล่าวว่า "หากสินค้าคงคลังของอาซาฮีหมดลงจริง อาจจำเป็นต้องหันไปใช้เบียร์ยี่ห้ออื่น เช่น ซันโตรีหรือคิริน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแคลน"
เหตุโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความปั่นป่วน ต่อกิจการของ "อาซาฮี กรุ๊ป โฮลดิงส์" เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนครั้งสำคัญ ต่อบริษัทญี่ปุ่นและผู้ประกอบการทั่วโลกว่า การพึ่งพาระบบดิจิทัลอย่างเดียวอาจทำให้บริษัทเจ๊งได้...
อ้างอิง : vinetur
อ้างอิง : vinetur














