หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ศาลสั่งประหารแก๊งโหดฆ่า “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

เนื้อหาโดย bbb1236555

ศาลพิพากษาประหารชีวิต "แก๊งค์มิง" คดียิงน้องหยอด นักศึกษาอุเทนถวาย และครูเจี๊ยบ ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

หนึ่งในคดีสะเทือนขวัญที่สังคมไทยให้ความสนใจอย่างกว้างขวางในช่วงปี 2566 คือเหตุการณ์ยิงกราดกลางกรุงที่คร่าชีวิต “น้องหยอด” นายธนสรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และทำให้ “ครูเจี๊ยบ” นางสาวศิรดา ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ต้องเสียชีวิตจากการถูกลูกหลงอย่างไม่ตั้งใจ

คดีนี้ไม่เพียงเป็นการสูญเสียของครอบครัวผู้ตาย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบันการศึกษา ที่ดำเนินต่อเนื่องมายาวนานนับสิบปี และกลายเป็นแผลลึกในสังคมไทย เมื่อศาลอาญารัชดาภิเษกมีคำพิพากษาออกมาเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ว่า กลุ่มคนร้ายทั้ง 14 คน ที่ถูกฟ้องร้องในคดีนี้ มี 11 คนถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ศาลพิพากษา ประหารชีวิต แต่เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือ จำคุกตลอดชีวิต

 

คดีดังกลางกรุง: เหตุกราดยิงหน้าธนาคารคลองเตย

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2566 เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นบริเวณ หน้าธนาคารแห่งหนึ่งย่านคลองเตย ถนนสุนทรโกษา เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่กลุ่มนักศึกษาที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นคู่อริ

 

จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่

นายธนสรณ์ หรือ "น้องหยอด" อายุ 19 ปี นักศึกษาอุเทนถวาย

นางสาวศิรดา หรือ "ครูเจี๊ยบ" ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกลูกหลง

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บอันตรายต่อร่างกายอีก 2 ราย

ข่าวการเสียชีวิตของน้องหยอดและครูเจี๊ยบทำให้สังคมสะเทือนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะครอบครัวของทั้งสองที่ไม่อาจทำใจได้กับความสูญเสียจากความขัดแย้งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

ความขัดแย้งยาวนานระหว่างสองสถาบัน

คดีนี้มีรากเหง้ามาจาก ความขัดแย้งระหว่างสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันและอุเทนถวาย ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมาหลายสิบปี เป็นปัญหาที่สังคมไทยรับรู้กันมานาน เนื่องจากความขัดแย้งดังกล่าวมักนำไปสู่เหตุทะเลาะวิวาท การทำร้ายร่างกาย และบางครั้งก็ถึงขั้นสูญเสียชีวิต

ในเดือนกรกฎาคม 2565 ก่อนเกิดเหตุกราดยิงนี้เพียงหนึ่งปี เคยมีกรณีนักเรียนสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันถูกยิงเสียชีวิตในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน เหตุการณ์นั้นได้กลายเป็นชนวนที่ทำให้กลุ่มจำเลยวางแผนล้างแค้น โดยมีเป้าหมายคือกลุ่มนักศึกษาอุเทนถวาย

 

การวางแผนอย่างเป็นระบบของแก๊งค์มิง

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าจำเลยทั้งหมดมีการ สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อวางแผนฆ่าผู้อื่น โดยมีการประชุมกันเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ที่บ้านพักของจำเลยที่ 7 ในย่านหนองจอก

รายละเอียดการวางแผนคือ:

แบ่งหน้าที่ชัดเจนในการจัดเตรียมอาวุธปืนและรถจักรยานยนต์

ใช้เบอร์โทรศัพท์เฉพาะกิจสำหรับการก่อเหตุ

ส่งทีมไปดูลาดเลาบริเวณจุดเกิดเหตุล่วงหน้า

ในวันเกิดเหตุ จำเลยที่ 2 แต่งกายเป็นไรเดอร์เพื่ออำพรางตัว และทำหน้าที่ส่งสัญญาณ ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุอีกหลายคนจะขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปกราดยิงใส่กลุ่มนักศึกษา โดยไม่ได้เจาะจงตัวบุคคล

การกราดยิงครั้งนั้นไม่เพียงทำให้เป้าหมายเสียชีวิต แต่ยังคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างครูเจี๊ยบ และทำให้คนในพื้นที่ต้องตกอยู่ในความหวาดกลัว

หลักฐานเด็ดจากกล้องวงจรปิด

ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมา ซึ่งประกอบไปด้วย ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกเหตุการณ์ได้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างที่เกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ รวมถึงการสอบสวนเส้นทางหลบหนี การใช้โทรศัพท์ และการจัดเตรียมอาวุธ

ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานทั้งหมดมีน้ำหนักเพียงพอที่จะเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 1-5, 7-9, 11-13 มีส่วนร่วมกันประชุม วางแผน และลงมือก่อเหตุจริง ขณะที่จำเลยที่ 6, 10 และ 14 ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ จึงพิพากษายกฟ้อง

 

คำพิพากษาของศาล

ศาลอาญารัชดาภิเษกห้องพิจารณา 806 ได้มีคำพิพากษาดังนี้

จำเลยที่ 1-5, 7-9, 11-13 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

ศาลพิพากษา ประหารชีวิต แต่เนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือ จำคุกตลอดชีวิต

ให้จำเลยทั้ง 11 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นเงิน 1,677,400 บาท

สำหรับจำเลยที่ 6, 10 และ 14 ศาลมีคำพิพากษา ยกฟ้อง

เสียงสะท้อนจากสังคม

หลังจากศาลมีคำพิพากษา กระแสในสังคมได้สะท้อนออกมาในหลายมุมมอง

ครอบครัวผู้เสียชีวิต แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่ไม่อาจชดเชยได้ แม้คำพิพากษาจะเป็นการลงโทษผู้ก่อเหตุ แต่ความเจ็บปวดจากการเสียลูกหลานและคนที่รักยังคงอยู่

ประชาชนทั่วไป มองว่าคำพิพากษาครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญในการจัดการปัญหาความรุนแรงของนักศึกษาอาชีวะ และหวังว่าคดีนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบัน

นักวิชาการด้านกฎหมาย เห็นว่าคำพิพากษาสะท้อนให้เห็นถึงความเด็ดขาดของศาลไทยในการจัดการกับคดีที่มีความรุนแรงต่อสาธารณะ แต่ก็ยังมีคำถามว่าการแก้ไขปัญหาที่แท้จริงควรอยู่ที่การป้องกันก่อนเกิดเหตุ ไม่ใช่เพียงการลงโทษภายหลัง

 

คดีนี้สอนอะไรสังคมไทย?

1. ความขัดแย้งระหว่างสถาบันไม่ควรถูกละเลย – ปัญหาที่ดำเนินต่อเนื่องมายาวนานเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

2. ผู้บริสุทธิ์อาจตกเป็นเหยื่อได้ทุกเมื่อ – เช่นกรณีของครูเจี๊ยบ ที่เพียงเดินผ่านจุดเกิดเหตุก็ต้องสูญเสียชีวิตโดยไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง

3. กฎหมายต้องเข้มงวดและเป็นธรรม – เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ก่อเหตุจะถูกลงโทษอย่างสาสม และเพื่อป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำ

4. สังคมต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาที่รากเหง้า – ทั้งในระดับครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ต้องช่วยกันปลูกฝังแนวคิดการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ลดการสร้างศัตรูจากเพียงแค่ชื่อสถาบัน

 

บทสรุป

คดี “แก๊งค์มิง ยิงน้องหยอดและครูเจี๊ยบ” ถือเป็นคดีตัวอย่างที่สะท้อนทั้งด้านมืดของความขัดแย้งในสังคม และความเด็ดขาดของกระบวนการยุติธรรมไทย แม้คำพิพากษาจะนำไปสู่การลงโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต แต่ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ที่ต้องจากไปก็ไม่อาจหวนกลับคืนมา

สังคมไทยควรเรียนรู้จากคดีนี้ว่า ความรุนแรงไม่เคยนำไปสู่ทางออกที่แท้จริง การแก้แค้นระหว่างสถาบันไม่เพียงทำร้ายคู่กรณี แต่ยังทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่ออย่างไม่ควรจะเป็น

ในที่สุด คำพิพากษาครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการตัดสินโทษของจำเลยทั้ง 11 คน แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้ทั้งสังคมต้องหันมาร่วมมือกันสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติและการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพซึ่งกันและกัน

 

 

เนื้อหาโดย: bbb1236555
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทหารเขมร โพสต์ พร้อมแต่เช้า ข่มขวัญทหาร เสียม คาดทหารเขมร เติมกำลังในพื้นที่ชายแดนรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ทหารหน่วย BHQ โพสต์ "เกิดมาชีวิตนี้ เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อศาสน์ เพื่อท่านสมเด็จเตโชและเพื่อประชาชน แค่คำสั่งมา พร้อมเข้าตี พร้อมรบ สูงสุดทุกวินาที"เคิร์ก บอนเดด หนุ่มหล่อจาก ฟิลิปปินส์ คว้าชัยจากการประกวด Mister International 2025ร้านอาหารญี่ปุ่นงานเข้า! ถูกโซเชียลจวกแรง ปมใช้วัฒนธรรมเขมรทับไทย คนแห่สมน้ำหน้าวิเคราะห์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา..คาดว่าเปิดศึกรอบใหม่เร็วๆ นี้😰 ชวนลองเข้ามาดูภาพถ่ายหลอน ๆ ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญจนทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุก 😱มาแล้ว! เลขเด็ด "เสือตกถังพลังเงินดี มีโชค รับทรัพย์" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 68..ส่องเลยก่อนหวยหมด!!"เอ็มม่า วัตสัน" เผย ออกจากวงการบันเทิงเพราะ?ระทึก!!! กลุ่มโจรสวมหน้ากาก 25 คน บุกปล้นร้านเครื่องประดับหรูที่สหรัฐฯการศึกษา DNA ของหญิงชราวัย 117 ปี อาจช่วยให้รู้วิธีการมีชีวิตที่ยืนยาวได้การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ร้านอาหารญี่ปุ่นงานเข้า! ถูกโซเชียลจวกแรง ปมใช้วัฒนธรรมเขมรทับไทย คนแห่สมน้ำหน้ารวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้การศึกษา DNA ของหญิงชราวัย 117 ปี อาจช่วยให้รู้วิธีการมีชีวิตที่ยืนยาวได้ทหารเขมร โพสต์ พร้อมแต่เช้า ข่มขวัญทหาร เสียม คาดทหารเขมร เติมกำลังในพื้นที่ชายแดนระทึก!!! กลุ่มโจรสวมหน้ากาก 25 คน บุกปล้นร้านเครื่องประดับหรูที่สหรัฐฯ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
"บีม ศรัณยู" ฟาดเดือด! "โหนกระแส" ให้แสงนางงามโชว์กี..ลั่น! เลิกเอียงได้แล้วหาวจนกระดูกคอหัก! เรื่องจริงสุดช็อกของ Hayley Black กับอุบัติเหตุแปลกที่เปลี่ยนชีวิตนายกฯ อนุทิน’ กราบเท้าพ่อแม่ เอาฤกษ์ ก่อนเข้าทำงานทำเนียบรัฐบาลการศึกษา DNA ของหญิงชราวัย 117 ปี อาจช่วยให้รู้วิธีการมีชีวิตที่ยืนยาวได้
ตั้งกระทู้ใหม่