อัปเดตล่าสุด! คนละครึ่ง แบ่งกลุ่ม 2 กลุ่มใหญ่ เพิ่มวงเงินต่อวัน
ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง 2568 “คนละครึ่งอนุทิน” กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเต็มรูปแบบ
รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เดินหน้าสานต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในโครงการเด่นที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการคือ โครงการคนละครึ่ง 2568 หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “คนละครึ่งอนุทิน” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่สำคัญ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถปรับตัวและเพิ่มรายได้ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว
ภาพรวมโครงการคนละครึ่ง 2568
โครงการ คนละครึ่ง ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2563 และได้รับความนิยมอย่างสูงจากประชาชนทุกกลุ่ม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย เช่น หาบเร่ แผงลอย ร้านอาหาร และร้านค้าขนาดเล็ก ให้สามารถขายสินค้าและอาหารได้เพิ่มขึ้น โดยรัฐร่วมจ่ายค่าสินค้าและบริการให้ครึ่งหนึ่งของราคา
สำหรับ โครงการคนละครึ่ง 2568 ที่จะกลับมาใหม่ภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบันนั้น ได้รับการออกแบบเพื่อให้มี ความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งในด้านจำนวนสิทธิ์ เงื่อนไขการลงทะเบียน และวงเงินใช้จ่ายรายวันของประชาชน
เงื่อนไขใหม่สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งรอบใหม่จะแบ่งสิทธิ์ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. กลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
กลุ่มนี้จะได้รับสิทธิ์แบบพิเศษ โดยรัฐช่วยจ่าย 60% ของราคาสินค้า ส่วนประชาชนจ่ายเอง 40% หรือในรูปแบบ 60:40 ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนในกลุ่มนี้ประมาณ 11 ล้านคน
2. กลุ่มประชาชนทั่วไปและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
กลุ่มนี้จะได้รับสิทธิ์แบบ คนละครึ่งเดิม คือรัฐช่วยจ่าย 50% และประชาชนจ่าย 50%
การแบ่งกลุ่มลักษณะนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีมีส่วนร่วมมากขึ้น และยังคงช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้สามารถใช้สิทธิ์ได้อย่างต่อเนื่อง
การเพิ่มวงเงินใช้จ่ายรายวัน
ในอดีตโครงการคนละครึ่งจำกัดวงเงิน ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทตลอดโครงการ เพื่อให้รัฐสามารถกระจายสิทธิ์ไปยังประชาชนจำนวนมาก
แต่สำหรับ คนละครึ่ง 2568 ล่าสุด ภาคเอกชนเสนอให้เพิ่มวงเงินการใช้จ่ายต่อวันเป็น 200 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมเพื่อให้ประชาชนสามารถซื้ออาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ที่เคยใช้สิทธิ์และมีบัญชีอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้สิทธิ์จะต้องทำการลงทะเบียนใหม่ผ่าน แอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือระบบออนไลน์ที่ทางรัฐบาลจัดเตรียมไว้
สำหรับผู้ที่ ไม่มีสมาร์ทโฟน รัฐบาลยังเตรียมระบบ ออฟไลน์ รองรับ เพื่อให้ทุกกลุ่มประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิ์ได้อย่างเท่าเทียม
จุดประสงค์ของโครงการคนละครึ่ง 2568
โครงการนี้นอกจากจะเป็นมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้นแล้ว ยังมีวัตถุประสงค์อื่น ๆ ดังนี้
1. กระตุ้นการจับจ่ายของประชาชน
การช่วยจ่ายครึ่งหนึ่งของราคา ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในการใช้จ่าย เพิ่มอัตราการบริโภคภายในประเทศ และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน
2. สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย
โดยเฉพาะร้านอาหาร แผงลอย และหาบเร่ ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมา
3. เชื่อมโยงประชาชนเข้าสู่ระบบภาษีและระบบดิจิทัล
การลงทะเบียนและใช้สิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชันกระตุ้นให้ประชาชนและผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้น
4. เพิ่มความสามารถในการบริหารงบประมาณภาครัฐ
โดยใช้วงเงินประมาณ 25,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2569 ภายใต้หมวดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ
กระบวนการลงทะเบียนและการใช้สิทธิ์
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้
1. ลงทะเบียนผ่านแอปเป๋าตัง
ผู้ที่เคยใช้สิทธิ์คนละครึ่งเดิมสามารถเข้าสู่ระบบและใช้สิทธิ์ต่อได้ทันที
2. ลงทะเบียนสำหรับผู้ใหม่
ประชาชนทั่วไปที่ไม่เคยใช้สิทธิ์มาก่อน ต้องลงทะเบียนผ่านแอปเป๋าตัง หรือระบบออนไลน์ที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้
3. ผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน
รัฐบาลเตรียมระบบออฟไลน์ เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สมาร์ทโฟน
4. การใช้จ่าย
ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ซื้อสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มที่ร้านค้าที่ร่วมโครงการ โดยรัฐจะช่วยจ่ายส่วนหนึ่งตามสัดส่วนที่กำหนด
การคาดการณ์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
หลายฝ่ายประเมินว่าโครงการ คนละครึ่ง 2568 จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพิ่มการใช้จ่ายของประชาชน จากการช่วยจ่ายส่วนหนึ่งของรัฐ
กระตุ้นยอดขายร้านค้ารายย่อย ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถปรับตัวและสร้างรายได้มากขึ้น
ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและระบบดิจิทัล ในการชำระเงินและลงทะเบียน
ลดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ถือบัตรสวัสดิการ
แง่มุมทางสังคมของโครงการ
นอกจากผลทางเศรษฐกิจแล้ว โครงการคนละครึ่งยังมีผลดีต่อ สังคมและชุมชน
1. ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
การช่วยจ่าย 50-60% ของราคาสินค้า ทำให้ครอบครัวที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคได้อย่างเหมาะสม
2. สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
โครงการนี้สะท้อนความเอาใจใส่ของรัฐบาลต่อประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มฐานราก
3. ส่งเสริมความเท่าเทียมทางดิจิทัล
การพัฒนาระบบออนไลน์และออฟไลน์ช่วยให้ทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิ์ได้ง่ายขึ้น
แผนการเริ่มโครงการ
ตามรายงานล่าสุด โครงการคนละครึ่ง 2568 คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2568 โดยรัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 25,000 ล้านบาท จากหมวดงบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2569
ประชาชนที่เคยเข้าร่วมโครงการเดิมไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ส่วนผู้ที่ไม่เคยใช้สิทธิ์ ต้องทำการลงทะเบียนใหม่ และผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็จะมีระบบออฟไลน์รองรับ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิ์ได้อย่างสะดวก
สรุป
โครงการ คนละครึ่ง 2568 หรือ “คนละครึ่งอนุทิน” เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่ครบวงจร ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มการจับจ่ายของประชาชนและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย แต่ยังสร้างความเข้มแข็งให้ระบบดิจิทัลและภาษีของประเทศ
ด้วย เงื่อนไขใหม่ที่แบ่งกลุ่มผู้ใช้สิทธิ์อย่างชัดเจน และการเพิ่มวงเงินใช้จ่ายรายวันเป็น 200 บาทต่อคน โครงการนี้จึงคาดว่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม
ประชาชนที่สนใจควรเตรียมตัวทำความเข้าใจเงื่อนไขการลงทะเบียน และติดตามข่าวสารจาก กระทรวงการคลัง เพื่อไม่พ

















