ฮุนเซนเดือด! ซัดไทยปล่อยเฟคนิวส์ ปมเขมรไม่ยอมรับเส้นเขตแดน
ฮุน เซน ชี้ชัด! ไทยเผยข่าวปลอม อ้างกัมพูชายอมรับเส้นเขตแดนเปรยจัน ประชาชนอย่าหลงเชื่อ
วันที่ 21 กันยายน 2568 สำนักข่าว freshnewsasia รายงานว่า เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้เผยแพร่แถลงการณ์ของ สำนักเลขาธิการกิจการพรมแดนกัมพูชา (SSBA) เพื่อประณามการเผยแพร่ข่าวปลอมจากประเทศไทย โดยเฉพาะกรณีที่อ้างว่ากัมพูชายอมรับเส้น เขตแดนเปรยจัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ "Royal Thai Army: Update" ได้เผยแพร่ภาพแผนผังภูมิประเทศและตำแหน่งของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43 ในพื้นที่เปรยจัน เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 โดยมีข้อความระบุว่าเอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานยืนยันการยอมรับเส้นเขตแดนจากฝั่งกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของ SSBA ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
แถลงการณ์อย่างเป็นทางการของ SSBA
จากข้อมูลที่เผยแพร่โดย SSBA มีสาระสำคัญดังนี้
1. เอกสารที่ถูกเผยแพร่ไม่ใช่หลักฐานทางการ
เอกสารแผนผังที่เพจเฟซบุ๊กนำมาโพสต์ เป็นเพียง แผนผังภาคสนาม (field annexes) ของรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 และ 28 ธันวาคม 2016 ซึ่งจัดทำโดยคณะสำรวจร่วม กัมพูชา-ไทย เพื่อบันทึกตำแหน่งที่แน่นอนของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43 ในพื้นที่เปรยจัน ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส
เอกสารเหล่านี้ ไม่ใช่แผนที่ทางการ ที่ใช้กำหนดเส้นแบ่งเขตแดน จึงไม่สามารถอ้างอิงว่าเป็นการยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการจากฝั่งกัมพูชาได้
2. การใช้เอกสารไปบิดเบือนข้อมูล
เพจดังกล่าวได้นำข้อมูลจากแผนผังภาคสนามไปสร้างเส้นเขตแดนปลอมบนภาพถ่ายดาวเทียม มีเจตนาหลอกลวงสาธารณชนให้เข้าใจผิดว่า เส้นแบ่งดังกล่าวได้รับการยอมรับจากกัมพูชาอย่างเป็นทางการ
3. พื้นที่เปรยจันยังไม่บรรลุข้อตกลงร่วม
พื้นที่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43 หรือที่เรียกว่า เปรยจัน เป็นพื้นที่ที่ ไทยและกัมพูชายังไม่ได้บรรลุข้อตกลงร่วม ในการปักปันเส้นเขตแดนบนพื้นดิน เรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขโดย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) เท่านั้น ไม่มีหน่วยงานใดสามารถอ้างสิทธิ์กำหนดเส้นเขตแดนได้
4. คำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม
SSBA ได้เรียกร้องให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ อย่าเชื่อหรือเผยแพร่ข่าวปลอม พร้อมยืนยันว่าข้อมูลที่เพจเฟซบุ๊ก Royal Thai Army: Update เผยแพร่นั้นเป็นข้อมูลเท็จ และมีเจตนาชัดเจนในการสร้างความเข้าใจผิด
การตอบโต้จากกัมพูชา
การที่ ฮุน เซน และ SSBA ออกมาแถลงการณ์อย่างชัดเจนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ และยืนยันสถานะของพื้นที่เปรยจันอย่างเป็นทางการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเผยแพร่ข่าวปลอมจากสื่อโซเชียลมีเดีย ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความสับสน ทั้งในกัมพูชาและไทย SSBA จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงเพื่อให้ข้อมูลตรงตามข้อเท็จจริง และป้องกันการบิดเบือนเอกสารสำคัญที่จัดทำโดย คณะสำรวจร่วมกัมพูชา-ไทย
ความสำคัญของพื้นที่เปรยจัน
พื้นที่เปรยจันเป็น พื้นที่ชายแดนที่ยังไม่ได้ข้อยุติระหว่างไทย-กัมพูชา มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทั้งในแง่ความมั่นคงและการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน
หลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43 เป็นจุดสำคัญที่ทั้งสองประเทศต้องใช้ในการตรวจสอบและยืนยันตำแหน่งของเส้นแบ่ง
การบิดเบือนข้อมูลหรือสร้างแผนที่ปลอมอาจนำไปสู่ ความตึงเครียดทางการทูต และกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาค
SSBA จึงย้ำว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน ต้องดำเนินการผ่าน คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เท่านั้น
ผลกระทบจากข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย
การเผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยเพจเฟซบุ๊ก Royal Thai Army: Update ส่งผลกระทบหลายด้าน
1. สร้างความสับสนในหมู่ประชาชน
ประชาชนทั้งในไทยและกัมพูชาอาจเชื่อว่า กัมพูชายอมรับเส้นแบ่งเขตแดนแล้ว ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
2. กระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูต
ข่าวปลอมเช่นนี้อาจเป็นชนวนความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา หากไม่ได้รับการชี้แจงอย่างรวดเร็ว
3. บั่นทอนความเชื่อมั่นในข้อมูลสาธารณะ
การนำเอกสารทางราชการไปบิดเบือนและเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อแหล่งข่าวทางการ
SSBA จึงเน้นย้ำถึงความสำคัญของ การตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่ข้อมูล เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและความตึงเครียดในภูมิภาค
ข้อสรุป
กรณีนี้สะท้อนถึงหลายประเด็นสำคัญ ทั้งในด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การจัดการข่าวปลอม และการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ข่าวปลอมจากไทยที่อ้างว่ากัมพูชายอมรับเส้นเขตแดนเปรยจัน เป็นข้อมูลเท็จโดยสิ้นเชิง
เอกสารและแผนผังภาคสนาม ที่ถูกนำมาใช้ เป็นเพียงข้อมูลตรวจสอบพื้นที่และไม่ได้ใช้กำหนดเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการ
การแก้ไขข้อพิพาทชายแดน ต้องดำเนินการผ่าน คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เท่านั้น
ประชาชนควรระมัดระวัง และไม่เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ได้ตรวจสอบ เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและความเข้าใจผิด
การแถลงการณ์ของ ฮุน เซน และ SSBA เป็นตัวอย่างของการใช้ การสื่อสารทางการทูต และการป้องกันข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน
อ้างอิงจาก: เฟซบุ๊ก Royal Thai Army
















