อัปเดตชีวิตในเรือนจำ! ‘ทักษิณ’ ป่วยกระดูกต้นคอ แต่ยังใช้ชีวิตปกติ
กรมราชทัณฑ์แจงชัด สุขภาพ “ทักษิณ ชินวัตร” ป่วยโรคกระดูกต้นคอเสื่อม นัดพบแพทย์เฉพาะทาง 22 ก.ย.นี้ ชีวิตในเรือนจำยังปกติ ใช้เงินส่วนตัวได้วันละ 500 บาท
ประเด็นร้อน: สุขภาพอดีตนายกฯ กลายเป็นที่จับตา
ชื่อของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ยังคงเป็นที่จับตามองของสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ หรือแม้แต่ชีวิตความเป็นอยู่ภายในเรือนจำคลองเปรม หลังจากต้องโทษคดีและถูกคุมขัง ล่าสุด ประเด็นที่สังคมให้ความสนใจคือ สถานการณ์สุขภาพของทักษิณ ที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ว่าอาการป่วยค่อนข้างน่าเป็นห่วง
เพื่อยุติกระแสข่าวลือและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง กรมราชทัณฑ์ จึงได้ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ โดยยืนยันว่า ทักษิณมีอาการป่วยจริงจากโรคกระดูกต้นคอเสื่อม แต่ยังคงใช้ชีวิตในเรือนจำได้ตามปกติ และมีกำหนดการเข้าพบแพทย์เฉพาะทางในวันที่ 22 กันยายน 2568 นี้
ย้อนลำดับเหตุการณ์: จากข่าวลือสู่คำชี้แจง
ก่อนหน้านี้ (20 ก.ย. 68) มีกระแสข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวทักษิณออกจากเรือนจำไปตรวจร่างกายที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลียและปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำให้เกิดความสับสนในสังคมว่าทักษิณป่วยหนักถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาลหรือไม่
ล่าสุด พ.ต.ท. เช่น กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ข่าวดังกล่าวไม่ถูกต้องทั้งหมด โดยยืนยันว่า ทักษิณแจ้งอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2568 และต้องการพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูก แต่เนื่องจากวันดังกล่าวไม่มีแพทย์เฉพาะทางประจำอยู่ จึงได้นัดหมายให้เข้ารับการตรวจในวันที่ 22 กันยายน ที่จะถึงนี้
กล่าวคือ การที่ทักษิณถูกนำตัวไปตรวจร่างกายในวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา เป็นเพียงการตรวจเช็กอาการทั่วไป ไม่ใช่การส่งตัวไปนอนพักรักษาที่โรงพยาบาลอย่างที่มีกระแสข่าวแพร่หลาย
โรคกระดูกต้นคอเสื่อม คืออะไร?
อาการที่กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าอดีตนายกฯ ป่วยคือ โรคกระดูกต้นคอเสื่อม (Cervical Spondylosis) ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี อาการที่มักพบ ได้แก่
ปวดคอเรื้อรัง
ชา แขน ขา หรือรู้สึกอ่อนแรง
ปวดร้าวไปยังไหล่หรือแขน
บางรายอาจมีอาการเวียนศีรษะร่วมด้วย
แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิต แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ก็อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนในระบบประสาทได้
การดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง: มาตรฐานเดียวกัน
หนึ่งในประเด็นที่สังคมตั้งคำถามคือ ทักษิณได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากผู้ต้องขังทั่วไปหรือไม่?
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่า ทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับผู้ต้องขังคนอื่น ๆ กล่าวคือ เมื่อผู้ต้องขังแจ้งอาการป่วย เจ้าหน้าที่จะพาไปตรวจที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หากพบว่าเป็นโรคเฉพาะทางที่ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะมีการนัดหมายวันเข้าตรวจตามลำดับ
ดังนั้น กรณีของทักษิณจึงไม่ใช่การได้รับอภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องขังรายอื่น แต่เป็นการปฏิบัติในกรอบมาตรฐานการดูแลสุขภาพนักโทษตามสิทธิขั้นพื้นฐาน
ชีวิตความเป็นอยู่ในเรือนจำคลองเปรม
แม้จะมีปัญหาสุขภาพ แต่กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของทักษิณยังเป็นไปตามปกติ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้:
1. อาหารการกิน
ยังคงรับประทานอาหารของเรือนจำได้ตามปกติ
หากต้องการ สามารถใช้เงินส่วนตัวซื้ออาหารเพิ่มเติมจากร้านค้าสวัสดิการภายในเรือนจำได้ วันละไม่เกิน 500 บาท
2. สิทธิขั้นพื้นฐาน
ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับนักโทษคนอื่น
มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและตรวจสอบอาการอย่างต่อเนื่อง
3. สภาพร่างกาย
ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แม้จะมีอาการปวดจากโรคกระดูกต้นคอเสื่อม
ไม่มีรายงานว่ามีภาวะวิกฤตหรือจำเป็นต้องรักษาเร่งด่วน
กระแสสังคมและการเมือง
การออกมาชี้แจงของกรมราชทัณฑ์ครั้งนี้มีความสำคัญ เนื่องจากสุขภาพของทักษิณไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนตัว แต่ยังเป็น ประเด็นการเมืองที่สังคมไทยจับตามอง เพราะทักษิณคือบุคคลสำคัญที่ยังคงมีอิทธิพลต่อการเมืองไทยในหลายมิติ
กระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่กล่าวว่า ทักษิณถูกนำตัวออกไปโรงพยาบาล ได้สร้างข้อสงสัยให้กับสังคมว่า เขาได้รับสิทธิพิเศษหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็มองว่าการป่วยอาจเป็น “ช่องทาง” ที่ทำให้หลีกเลี่ยงโทษจำคุกได้
การที่กรมราชทัณฑ์รีบออกมาอธิบายอย่างละเอียดจึงถือเป็นความพยายามในการ สร้างความโปร่งใส และยืนยันว่าทักษิณยังคงอยู่ภายใต้กฎระเบียบเช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น
ความหมายต่อสังคมไทย
กรณีนี้สะท้อนถึงหลายประเด็นที่สังคมควรให้ความสำคัญ ได้แก่:
ความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรม : การที่กรมราชทัณฑ์รีบออกมาชี้แจงช่วยลดข้อครหาเรื่องอภิสิทธิ์ทางการเมือง
สิทธิของผู้ต้องขัง : ไม่ว่าผู้ต้องขังจะเป็นใคร ก็มีสิทธิพื้นฐานในการได้รับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม
อนาคตสุขภาพทักษิณ: สิ่งที่ต้องจับตา
แม้กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าอาการของทักษิณยังปกติ แต่การนัดพบแพทย์เฉพาะทางในวันที่ 22 กันยายน ถือเป็นจุดสำคัญที่สังคมจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะหากผลการตรวจพบว่าอาการรุนแรง ก็อาจมีผลต่อแนวทางการรักษาและการดำเนินชีวิตในเรือนจำ
ในอีกมุมหนึ่ง การที่อดีตนายกฯ ต้องใช้ชีวิตในเรือนจำพร้อมกับปัญหาสุขภาพ ย่อมสร้างคำถามถึงความสามารถในการปรับตัวและการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง
สรุป
กรมราชทัณฑ์ออกมาชี้แจงชัดเจนแล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร ป่วยด้วยโรคกระดูกต้นคอเสื่อมจริง แต่ยังคงใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติในเรือนจำคลองเปรม พร้อมนัดพบแพทย์เฉพาะทางในวันที่ 22 กันยายน 2568 นี้ ยืนยันว่าการดูแลทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนเดียวกับผู้ต้องขังทั่วไป ไม่ได้มีการปฏิบัติพิเศษเหนือใคร
แม้เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับสุขภาพส่วนบุคคล แต่เนื่องจากทักษิณเป็นบุคคลสาธารณะและนักการเมืองที่ยังมีอิทธิพลต่อสังคมไทย ทำให้ทุกความเคลื่อนไหวของเขายังคงถูกสังคมจับตามองอย่างใกล้ชิด และน่าจะยังคงเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงต่อไปในอนาคต
















