สื่อกัมพูชาซัดไทย! กล่าวหาจับชาวบ้านเขตพิพาท ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
สื่อกัมพูชาประณามไทย! ปมเตรียมจับชาวบ้านพื้นที่พิพาท ชี้ไทยเป็น “รัฐนอกคอก” มาเลเซียห่วง เสถียรภาพอาเซียนสั่นคลอน
วันที่ 21 กันยายน 2568 สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังสื่อกระแสหลักของกัมพูชา Fresh News Asia รายงานข่าวอย่างดุเดือด โดยพาดหัวประณามการเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยที่ถูกอ้างว่ามีแผนจะ เข้าจับกุมชาวบ้านกัมพูชาในพื้นที่พิพาทชายแดน
รายงานดังกล่าวระบุว่า การกระทำของฝ่ายไทยถูกมองว่าเป็น “พฤติกรรมก้าวร้าว” ที่อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่เพียงแค่ระหว่างไทย-กัมพูชา แต่ยังรวมถึง เสถียรภาพของทั้งภูมิภาคอาเซียน ด้วย
ข้อกล่าวหาที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด
จากข้อมูลที่สื่อกัมพูชานำเสนอ มีการกล่าวอ้างว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ของไทย ได้มีคำสั่งเตรียมเข้าจับกุมชาวบ้านกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งทั้งสองประเทศยังคงมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน
สื่อกัมพูชาระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ “น่าตกตะลึงและไม่อาจยอมรับได้” เนื่องจากทางการไทย ไม่มีเขตอำนาจใด ๆ ในการเข้าจับกุมพลเมืองกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในบ้านและที่ดินของตนเอง
มีข้อความหนึ่งที่สื่อกัมพูชายกมาเป็นประเด็นว่า:
“การใช้กำลังเพื่อขับไล่ผู้ที่เป็นเจ้าของตามสิทธิ์ออกจากบ้านของพวกเขา คือการกระทำเยี่ยงอันธพาลที่น่ากังวล และเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”
ถ้อยแถลงนี้สะท้อนถึงท่าทีที่แข็งกร้าวของกัมพูชาต่อไทย และยังใช้คำที่รุนแรงอย่าง “รัฐนอกคอก” (Rogue State) เพื่อโจมตีการดำเนินการของฝ่ายไทย
มุมมองของกัมพูชา: ไทยเป็น “รัฐนอกคอก”
คำว่า “รัฐนอกคอก” ที่สื่อกัมพูชาใช้ ไม่ได้เป็นเพียงคำพูดธรรมดา แต่ถือเป็นถ้อยคำทางการทูตที่มีนัยสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการถูกกล่าวหาว่าเป็น “รัฐนอกคอก” หมายถึง ประเทศนั้น ๆ ไม่เคารพกฎเกณฑ์สากล และดำเนินการตามความต้องการของตนเองโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้อื่น
กัมพูชามองว่า การกระทำของไทยในครั้งนี้ เป็นการ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และยัง บ่อนทำลายข้อตกลงหยุดยิง ที่ทั้งสองฝ่ายเคยตกลงกันไว้ในอดีต โดยเฉพาะหลังจากที่เคยมีการไกล่เกลี่ยโดยบุคคลสำคัญระดับโลก เช่น อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม
มาเลเซียกังวล: นายกฯ อันวาร์ ต่อสายตรงถึงฮุน มาเนต
รายงานของสื่อกัมพูชายังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ได้ต่อสายตรงถึง สมเด็จมหาบารมีบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนล่าสุด
มาเลเซียแสดงความกังวลว่า หากไทยเดินหน้าดำเนินการตามที่สื่อกัมพูชาอ้างจริง ๆ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้น และ สั่นคลอนเสถียรภาพของทั้งภูมิภาคอาเซียน
มาเลเซียยังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ร่วมกันจับตาและ ต่อต้านยุทธวิธีของกองทัพไทย หากพบว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศ
ปัญหาพื้นที่พิพาท: บาดแผลทางประวัติศาสตร์
ความขัดแย้งเรื่องพรมแดนไทย-กัมพูชาไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีรากฐานลึกลงไปถึง ข้อตกลงสมัยอาณานิคมฝรั่งเศส และยังคงสร้างปัญหาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะบริเวณรอบ ปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ใกล้เคียง
ไทยเคยยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในปี 2505 ซึ่งตัดสินให้ปราสาทพระวิหารอยู่ในดินแดนกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่แน่ชัดคือ “เขตแดนโดยรอบ” ที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์ ทำให้เกิดการปะทะหลายครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
แม้จะมีการหยุดยิงและการไกล่เกลี่ยโดยนานาชาติ แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ การใช้กำลังหรือการจับกุมชาวบ้านในพื้นที่พิพาท มักจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ
การเรียกร้องให้ใช้ “การทูตแทนการเผชิญหน้า”
ในรายงานของสื่อกัมพูชา ยังมีการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและกัมพูชา หันหน้าเข้าสู่การเจรจา โดยเน้นการแก้ไขปัญหาผ่านการทูต มากกว่าการใช้กำลังทหารหรือมาตรการกดดันที่อาจบานปลาย
ข้อเรียกร้องนี้สะท้อนถึงความต้องการของประชาคมอาเซียนโดยรวม ที่พยายามสร้างภูมิภาคให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน มากกว่าที่จะปล่อยให้ปัญหาพรมแดนกลายเป็นชนวนความรุนแรง
วิเคราะห์ผลกระทบ: ไทยอาจเจอแรงกดดันทางการทูต
หากสถานการณ์บานปลาย ไทยอาจเผชิญแรงกดดันจากหลายฝ่าย ทั้งจากประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และจากประชาคมโลก เนื่องจากภาพลักษณ์ของไทยอาจถูกโยงกับ การละเมิดสิทธิมนุษยชน และ การไม่เคารพข้อตกลงระหว่างประเทศ
ด้านเศรษฐกิจ: ความตึงเครียดชายแดนอาจส่งผลต่อการค้าชายแดนที่มีมูลค่านับหมื่นล้านบาทต่อปี
ด้านการท่องเที่ยว: ภาพลักษณ์ความไม่ปลอดภัยอาจทำให้นักท่องเที่ยวลังเลในการเดินทาง
ด้านการทูต: ไทยอาจถูกมองว่าเป็น “ผู้ก่อปัญหา” ในภูมิภาค ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการเป็นผู้นำในอาเซียน
บทสรุป
กรณีที่สื่อกัมพูชาประณามไทยครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่า ความขัดแย้งเรื่องพรมแดนยังคงเป็นบาดแผลที่ไม่เคยหายไป และอาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อหากไม่มีการจัดการอย่างระมัดระวัง
แม้ฝ่ายไทยยังไม่ได้ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการต่อข้อกล่าวหานี้ แต่ความเคลื่อนไหวที่ปรากฏในสื่อกัมพูชาก็เพียงพอที่จะทำให้ประชาคมระหว่างประเทศจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทั้งสองประเทศจำเป็นต้อง ให้ความสำคัญกับการเจรจาและการทูต มากกว่าการเผชิญหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปัญหาบานปลาย และเพื่อรักษา เสถียรภาพของอาเซียน ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศในภูมิภาค
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
เปิดโผ 60 อันดับสาวเอเชียสาย Amateur ที่มียอดวิวสูงสุดใน Pornhub ปี 2025: ใครคือแชมป์ตัวจริงแห่งปี
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
มาตรการ ‘มหาเถรสมาคม’ - ‘คพช.’ กู้คืนศรัทธาวงการสงฆ์: บทเรียนจากปีแห่งการล้างบาง
สรุปเผยข้อมูลกลโกงใหม่ๆที่ต้องระวัง!!!
เกาหลีเหนือ..จับหญิงศัลย์ฯหน้าอก ลั่นไม่เป็นสังคมนิยม
คุก 2 ปี "แอน จักรวาล" ไม่รอลงอาญา
"ภูมิรพี"เด็กไทยฟุตบอล U17 สู่ตัวหลักมือกาวมัธยมปลายในญี่ปุ่น
วันนี้!! ทหารไทยเหยียบระเบิดขาขาดอีกแล้ว!!
Avatar 3 ช่วยแบก MAJOR ไม่ไหว! กำไรดิ่งหนัก 30%
เมาหนักเพราะรักติ๋ม กำลังดังสุดขีด อุบัติเหตุ ก็พรากชีวิตของเขาไป
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
เปิดโผ 60 อันดับสาวเอเชียสาย Amateur ที่มียอดวิวสูงสุดใน Pornhub ปี 2025: ใครคือแชมป์ตัวจริงแห่งปี
วันนี้!! ทหารไทยเหยียบระเบิดขาขาดอีกแล้ว!!
ประเทศเดียวในโลกที่ประชากรทั้งหมดนับถือศาสนาคริสต์
"ภูมิรพี"เด็กไทยฟุตบอล U17 สู่ตัวหลักมือกาวมัธยมปลายในญี่ปุ่น
มาตรการ ‘มหาเถรสมาคม’ - ‘คพช.’ กู้คืนศรัทธาวงการสงฆ์: บทเรียนจากปีแห่งการล้างบาง
เกาหลีเหนือ..จับหญิงศัลย์ฯหน้าอก ลั่นไม่เป็นสังคมนิยม
ออกหมายจับผู้สมัครสส.พรรค🍊ฐานฟอกเงิน ชาวเน็ตแห่สงสัยไหนบอกมีพรรค “ส้ม” ไม่มี “เทา
รายละเอียดเงื่อนไข 5 ประการ ที่กัมพูชาและไทยเห็นพ้องร่วมกัน ในการประชุมที่ประเทศจีน
