ลูกชายตัวน้อยวัย 1 ขวบ ชอบเกาหัวอยู่เรื่อย พ่อแม่คิดว่าเป็นเรื่องปรกติของเด็ก จนกระทั่งรู้ความจริงแทบช็อก!!!
การเลี้ยงดูลูกให้แข็งแรงมีความสุขเป็นหน้าสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนปรารถนากันอยู่แล้ว พ่อแม่ต้องคอยเรียนรู้และสังเกตุพฤติกรรมความผิดปรกติของลูกน้อยอยู่เสมอ เพราะบางครั้งมันอาจจะอันตรายกว่าที่คิด เช่น เรื่องราวของ เด็กชายตัวน้อยวัย 1 ขวบ ที่กว่าจะรู้ก็เกือบสายเกินแก้
เด็กชายตัวน้อยอายุ 1 ขวบ คนนี้มีชื่อว่า อัน อัน เขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่คู่หนึ่งที่ประเทศ จีน ชีวิตของ อัน อัน ก็ดูเหมือนปรกติทุกไป แต่จะมีอยู่บางสิ่งที่ไม่ปรกติ อัน อัน มักจะยกมือเกาหัวตรงบริเวณหูของเขาอยู่บ่อยๆ พ่อแม่ของเขามองว่านี่เป็นเพียงเรื่องปรกติของเด็กเล็กทั่วๆ ไปเท่านั้น
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ อัน อัน ยังคงยกมือขึ้นมาเกาหัวที่ตรงบริเวณหูจุดเดิมที่เขาทำอยู่บ่อยๆ ผู้เป็นแม่เริ่มวิตกกังวล เพราะนอกจาก อัน อัน จะเกาหัวแล้ว ยังตามมาด้วยอาการขมวดคิ้วและอึดอันไม่สบาย จนเธอตัดสินใจพา อัน อัน ไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการ
หลังจาก ที่พ่อแม่ของ อัน อัน พาเขาไปโรงพยาบาล ก็ต้องพบความจริงอันน่าตกใจ อัน อัน ป่วยเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบรุนแรง และมีอาการติดเชื้อร่วมด้วย
แพทย์ยังระบุอีกว่า อัน อัน น่าจะเป็นมานานแล้ว แต่พ่อแม่ของเด็กไม่ทราบเรื่องนี้ พ่อแม่ของ อัน อัน รู้สึกเสียใจอย่างที่สุด ที่พวกเขาเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนที่ลูกชายอย่าง อัน อัน พยายามส่งให้พวกเขารู้ โชคยังดีที่พ่อแม่ของ อัน อัน พาเขามารักษาได้ทันเวลา
เรื่องราวของ อัน อัน ถือเป็นข้อคิดให้พ่อแม่ๆ หลายๆ คนให้ความสำคัญในการสังเกตุพฤติกรรมของลูกๆ เด็กเล็กที่ยังไม่สามารถพูดโต้ตอบได้ พวกเขาทำได้เพียงแสดงอารมณ์ ความรู้สึก ผ่านการกระทำต่างๆ ของร่างกาย ทั้งร้องไห้ หัวเราะ ขมวดคิ้ว เกาหัว เกาตัว หยิก หรือ ดึงหู ที่อาจจะเป็นสัญญาณเตือน เพื่อบอกกับพ่อแม่ของพวกเขาว่า ตอนนี้พวกเขากำลังป่วยอยู่และต้องการการรักษา เมื่อพ่อแม่สามารถสังเกตุพฤติกรรมและรับรู้สิ่งเหล่านั้นที่ลูกๆ สื่อออกมา จะได้รีบพาเขาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและตรวจรักษาได้ทันท่วงทีอีกด้วย
พ่อแม่ควรมีความรู้เกี่ยวกับโรคหูชั้นกลางอักเสบในเด็กอย่างไรบ้าง?
หูชั้นกลางอักเสบเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก โดยเฉพาะทารกและเด็กเล็ก เป็นโรคติดเชื้อในหูชั้นกลาง มักเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย หูชั้นกลางอักเสบอาจเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง โดยหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลันมักพบได้บ่อยกว่า มักเกิดขึ้นหลังจากเด็กเป็นหวัดหรือติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
1. วิธีที่ใช้จดจำหรือสังเกตุอาการของโรคหูชั้นกลางอักเสบ
- การดึงหูหรือเกาหัว : เด็กที่ดึงหูหรือเกาหัวบ่อยๆ อาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบาย
- ร้องไห้มากกว่าปกติ : เด็กอาจร้องไห้มากขึ้นหรือหงุดหงิด โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
- ไข้สูง : เด็กที่เป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ มักมีไข้ โดยอาจมีอุณหภูมิสูงถึง 39°C หรือสูงกว่านั้น
- ของเหลวไหลออกจากหู : หากมีของเหลวไหลออกจากหู อาจเป็นสัญญาณชัดเจนของโรคหูชั้นกลางอักเสบ
- นอนหลับยากและเบื่ออาหาร : เด็กอาจมีปัญหาในการนอนหลับเนื่องจากความไม่สบายตัวและอาจมีอาการเบื่ออาหารได้ด้วย
2. ผลกระทบต่อเด็กที่เป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ
- การสูญเสียการได้ยินชั่วคราวหรือถาวร : หูชั้นกลางอักเสบอาจทำให้เกิดการอุดตันของเสียง ส่งผลให้การได้ยินลำบาก หากอาการยังคงอยู่ อาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินถาวร
- โรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง : หากไม่รักษา โรคหูชั้นกลางอักเสบอาจกลายเป็นโรคเรื้อรัง ทำให้ควบคุมอาการได้ยาก
- ผลกระทบต่อพัฒนาการทางภาษา : เด็กจำเป็นต้องได้ยินเพื่อพัฒนาภาษา การสูญเสียการได้ยินอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความสามารถในการสื่อสารและพัฒนาภาษาของเด็ก
- การติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้น : ในบางกรณี โรคหูชั้นกลางอักเสบอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้น เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
3. การป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงของโรคหูชั้นกลางอักเสบ
- รักษาความสะอาดหู : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหูของลูกสะอาดและแห้งอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการให้น้ำเข้าหูขณะอาบน้ำหรือว่ายน้ำ
- การฉีดวัคซีนครบถ้วน : การฉีดวัคซีน เช่น วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบและวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สามารถช่วยป้องกันเด็กๆ จากการติดเชื้อที่นำไปสู่โรคหูชั้นกลางอักเสบได้
- หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ : ควันบุหรี่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหูชั้นกลางในเด็ก ผู้ปกครองควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในบ้านหรือใกล้เด็ก
- การให้นมบุตร : น้ำนมแม่มีแอนติบอดีจำนวนมากที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปกป้องเด็กจากการติดเชื้อ
- การตรวจสุขภาพเป็นประจำ : พาบุตรหลานของคุณไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อตรวจหาสัญญาณผิดปกติในระยะเริ่มต้น













