สื่อนอกเผย "เจ้าหน้าที่ไทยยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาใส่ชาวบ้านเขมร"

     วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] สื่อนอกอย่าง "Freemalaysiatoday" ได้รายงงานข่าวว่า "วานนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] กองกำลังไทยได้ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อสลายการชุมนุมของชาวกัมพูชา ที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังมีประชาชนราวๆ 200 คนมาชุมนุมคัดค้าน การวางลวดหนามของไทย"

     โดยฝ่ายไทย กล่าวว่า "ผู้ชุมนุมบางส่วนได้ขว้างปาก้อนหินและสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อควบคุมสถานการณ์ และ ป้องกันการละเมิดอธิปไตย"

     ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชา แถลงการณ์ว่า "เหตุการณ์เกิดขึ้นในจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 ราย ซึ่งรวมถึงทหารและพระสงฆ์ 1 รูป โดยถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของไทย!!"

     ทั้งนี้ เหตุปะทะดังกล่าวนับเป็นครั้งแรก ที่ไทยใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ตั้งแต่ที่ทั้ง 2 ประเทศทำข้อตกลงสงบศึก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 หลังการสู้รบยืดเยื้อ 5 วันที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 40 ราย และ บังคับให้ประชาชนกว่า 300,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ชายแดน ถึงแม้จะมีการประกาศหยุดยิง แต่ทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังคงแลกเปลี่ยนข้อกล่าวหากัน เรื่องการละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง...

     เหตุการณ์ล่าสุด สะท้อนถึงความตึงเครียดเรื้อรัง ที่ยังคงดำรงอยู่จากข้อพิพาทดินแดนและเขตแดนใกล้ปราสาทโบราณ ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวต่อความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา จากภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ ยิ่งทำให้กระแสความไม่พอใจเพิ่มสูงขึ้น

     ซึ่งในคลิปจะเห็นว่า ชาวบ้านที่ถือไม้กำลังเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ไทย และ พระสงฆ์ที่พยายามรื้อแนวลวดหนาม ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาโต้ตอบ เหตุปะทะครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนถึง ความเปราะบางของข้อตกลงหยุดยิง และ มีความจำเป็นที่ 2 ประเทศจะต้องหันหน้ามาเจรจา เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้ง ปะทุรุนแรงขึ้นอีกครั้งในอนาคต!!