หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สื่อนอกชี้ ไทยส่งออกทองคำไปกัมพูชา พุ่ง 19% ผิดปกติ

โพสท์โดย bbb1236555

ไทยส่งออกทองไปกัมพูชา 7 เดือนแรกปี 68 พุ่ง 7.1 หมื่นล้านบาท – ภาคเอกชนเรียกร้องตรวจสอบธุรกรรม

ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 ประเทศไทยมีรายงานการ ส่งออกทองคำไปยังกัมพูชา สูงถึง 71,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่น่าสนใจและสร้างความกังวลต่อภาคเอกชนและผู้เกี่ยวข้องในหลายมิติ โดยเฉพาะในแง่ของความไม่สอดคล้องกับขนาดเศรษฐกิจและความต้องการภายในประเทศกัมพูชา

สื่อ Businesstimes รายงานว่าภาคเอกชนไทยได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนต่อการส่งออกทองคำที่มีปริมาณสูงผิดปกติ ซึ่งมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจสร้างแรงกดดันต่อ ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย

 

สถิติการส่งออกทองคำไทย – กัมพูชา

ข้อมูลจาก กรมศุลกากร ระบุว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2568 การส่งออกทองคำจากไทยไปยังประเทศกัมพูชา มีมูลค่า 71,300 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปี 2567 และมีแนวโน้มทำลายสถิติสูงสุดของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 106,000 ล้านบาท

ความน่าสนใจอยู่ที่ ปริมาณการส่งออกทองคำไปกัมพูชา นั้นมากจนสามารถเทียบได้กับ สวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการหลอมทองและการค้าทองคำในภูมิภาคและระดับโลก ทำให้กัมพูชากลายเป็น จุดหมายปลายทางทองคำสำคัญของไทย และสร้างความสงสัยในหลายด้าน

ความกังวลจากภาคเอกชน

นาย เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 กันยายน ว่า การส่งออกทองคำและอัญมณีไปกัมพูชา พุ่งสูงอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งไม่สอดคล้องกับขนาดเศรษฐกิจและความต้องการของกัมพูชา

“มันดูน่าสงสัย” นายเกรียงไกรกล่าว พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), กรมศุลกากร และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าว

โดยเขาชี้ว่า การส่งออกทองคำจำนวนมากไปกัมพูชาอาจเกี่ยวข้องกับ ธุรกิจสีเทา เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์และกาสิโน ซึ่งอาจใช้ทองคำเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน โดยถือเป็นการใช้ทองคำ หลอกลวงหรือฟอกเงินในรูปแบบต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและตรวจสอบยาก

 

ปัจจัยที่กระทบค่าเงินบาท

นายเกรียงไกร ยังกล่าวถึงอีกปัจจัยที่อาจส่งผลต่อ ค่าเงินบาท คือการโอนเงินกลับประเทศของ แรงงานข้ามชาติ ซึ่งในไทยมีแรงงานลงทะเบียนกว่า 4 ล้านคน โดยจำนวนจริงอาจสูงกว่านี้มากหากรวมแรงงานที่ไม่ได้ลงทะเบียน

การโอนเงินทั้งในระบบและนอกระบบไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาและกัมพูชา อาจทำให้ สภาพคล่องของเงินบาทในประเทศลดลง และสร้างแรงกดดันต่อค่าเงิน ส่งผลต่อ ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง

 

มาตรการตรวจสอบจากภาครัฐและภาคเอกชน

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย ส.อ.ท., สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย มีแผนเข้าพบ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัปดาห์หน้า

ในการประชุมครั้งนี้ จะมีการหยิบยกข้อกังวลหลายประเด็น ได้แก่

1. การส่งออกทองคำไปกัมพูชา และความไม่สอดคล้องกับขนาดเศรษฐกิจ

2. ผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า ต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว

3. มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs เพื่อช่วยรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ

โดยวัตถุประสงค์หลักคือ การตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยง ที่อาจเกิดจากธุรกรรมทองคำและการโอนเงินของแรงงานข้ามชาติ

 

ปริมาณทองคำกับเศรษฐกิจกัมพูชา

หลายฝ่ายชี้ว่าปริมาณทองคำที่ส่งออกไปยังกัมพูชา ไม่สอดคล้องกับขนาดเศรษฐกิจของประเทศ โดยกัมพูชาเป็นประเทศที่มี เศรษฐกิจขนาดเล็กเมื่อเทียบกับไทย และความต้องการทองคำภายในประเทศไม่สูงพอที่จะรองรับมูลค่าการส่งออกที่พุ่งสูงดังกล่าว

ข้อสังเกตนี้ทำให้เกิดคำถามต่อสังคมว่า ทองคำที่ส่งออกไปใช้ในธุรกิจหรือวัตถุประสงค์ใด และทำไมปริมาณจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

 

ความเสี่ยงทางธุรกิจสีเทา

นายเกรียงไกรระบุชัดเจนว่า การส่งออกทองคำจำนวนมากไปกัมพูชาอาจเกี่ยวข้องกับ ธุรกิจที่ไม่เปิดเผยอย่างชัดเจน เช่น

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่อาจใช้ทองคำในการฟอกเงิน

คาสิโนและธุรกิจการพนัน ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

เครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ ที่ใช้ทองคำเป็นสื่อกลางในการหมุนเวียนเงิน

ซึ่งกรณีเหล่านี้อาจทำให้ระบบการเงินไทยถูกมองว่า มีความเสี่ยงต่อการฟอกเงิน และเป็นประเด็นที่ภาคเอกชนและธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเร่งตรวจสอบ

 

ผลกระทบต่อผู้ประกอบการและเศรษฐกิจไทย

ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ประกอบการไทยต้องจับตามอง โดยเฉพาะผู้ส่งออกสินค้าและบริการไปต่างประเทศ เพราะเงินบาทแข็งค่าอาจทำให้

ราคาสินค้าไทยสูงขึ้นในต่างประเทศ

ความสามารถในการแข่งขันลดลง

ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจมองว่าการใช้จ่ายในไทยแพงขึ้น

โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งมีความยืดหยุ่นทางการเงินน้อย การแข็งค่าของเงินบาทอาจสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อธุรกิจรายย่อยอย่างมาก

 

แนวทางแก้ไขและมาตรการตรวจสอบ

เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ กกร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาแนวทางหลายประเด็น ได้แก่

1. ตรวจสอบธุรกรรมทองคำ ที่ส่งออกไปกัมพูชาอย่างละเอียด

2. วิเคราะห์แรงงานข้ามชาติและการโอนเงินกลับประเทศ เพื่อป้องกันปัญหาสภาพคล่องเงินบาท

3. มาตรการสนับสนุน SMEs ในการปรับตัวต่อความผันผวนของค่าเงินและตลาดต่างประเทศ

4. สร้างมาตรการป้องกันธุรกิจฟอกเงิน และปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

โดยการดำเนินงานร่วมกันของ ธปท., กรมศุลกากร และกระทรวงพาณิชย์ จะช่วยให้ภาคเอกชนและประชาชนมั่นใจว่า การส่งออกทองคำและการเคลื่อนไหวเงินทุนมีความโปร่งใส

 

สรุป

สถานการณ์การส่งออกทองคำของไทยไปกัมพูชาในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่า สูงถึง 71,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ สอดคล้องกับข้อกังวลของภาคเอกชน เนื่องจากปริมาณดังกล่าวไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจและความต้องการของกัมพูชา

การประชุมของ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กับ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัปดาห์หน้า จะเป็นจุดเริ่มต้นในการหารือและตรวจสอบธุรกรรมทองคำ รวมถึงผลกระทบต่อค่าเงินบาทและภาคการส่งออกไทย

ในระหว่างนี้ ภาคเอกชนและประชาชนยังคงจับตามองอย่างใกล้ชิดว่า มาตรการตรวจสอบและป้องกันปัญหาเงินทุนและธุรกิจสีเทา จะสามารถสร้างความโปร่งใสและปกป้องเศรษฐกิจไทยได้มากน้อยเพียงใด

การตรวจสอบและการปรับปรุงระบบนี้นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการฟอกเงินและธุรกิจผิดกฎหมายแล้ว ยังช่วย สร้างความมั่นใจให้กับผู้ส่งออกและนักลงทุนไทย ว่าเศรษฐกิจไทยสามารถรับมือกับความผันผวนและปัญหาที่เกิดจากธุรกิจสีเทาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
“ปากดีนัก! อินฟลูเขมรยิ้มเยาะอยากปิดด่าน แต่ความจริง CDRI เตือนชัด ปิดต่อไปทั้งประเทศจะจนบรรลัย 50% ภายในสิ้นปี!”ทึ่งทั่วไทย : "สะพานชลมารควิถี" หรือสะพานเลียบชายทะเลชลบุรีกัมพูชาคึก! “บุน รานี” ภริยา “ฮุน เซน” นำพิธีสวดใหญ่ ขับไล่ศัตรูคุกคามชาติแม่หยัวฟีเวอร์! “ใหม่-ดาวิกา” คว้ารางวัลนักแสดงหญิงแห่งปีบ้านหลังเดียวสะเทือนโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน 1.7 แสนล้านบาทเสียงแตก! 🇰🇭 “สนามบินเตโช” รถยนต์ทะลักวันละ 20,000 คัน – ผู้โดยสารจริงบ่นอุบ รถติด-ตกเครื่อง-ไร้ระเบียบดาราดัง "เมอิสะ คุโรกิ" กำลังคบหากับนักมวยดัง "ซูกวงฮั่น"เลขเด็ด "หวยปฏิทินจีน" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 68..คอหวยส่องด่วน!ดอกเหมย หอบของเยี่ยม ‘วันมรณา’ แต่สุดท้ายกินเองเรียบเลขเด็ด "ม้าสีหมอก" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 68 วิ่งมาให้โชคแล้ว..รีบส่องด่วน!ขนลุก! เรื่องเล่าอ.เบียร์ เผย “สีกาตา” ใกล้ชิดหลวงพ่อคึกฤทธิ์ วัดดัง ดราม่าเงินบริจาคย้อนภาพปี 2508 – แม่ค้าหาบข้าวปุ้นเลี้ยงทหารไทย-สหรัฐฯ ยุคต่อต้านคอมมิวนิสต์ในอีสาน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แม่หยัวฟีเวอร์! “ใหม่-ดาวิกา” คว้ารางวัลนักแสดงหญิงแห่งปีมาแล้ว! 10 เลขเด็ดเลขดัง "แม่ทำเนียนลอตเตอรี่" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 68..อยากรวย ส่องเลย!!กัมพูชาคึก! “บุน รานี” ภริยา “ฮุน เซน” นำพิธีสวดใหญ่ ขับไล่ศัตรูคุกคามชาติพายุแม่เหล็กโลก G3 กำลังเกิดขึ้น — ผลกระทบต่อประเทศไทยมีหรือไม่เสียงแตก! 🇰🇭 “สนามบินเตโช” รถยนต์ทะลักวันละ 20,000 คัน – ผู้โดยสารจริงบ่นอุบ รถติด-ตกเครื่อง-ไร้ระเบียบ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
แม่หยัวฟีเวอร์! “ใหม่-ดาวิกา” คว้ารางวัลนักแสดงหญิงแห่งปีพายุแม่เหล็กโลก G3 กำลังเกิดขึ้น — ผลกระทบต่อประเทศไทยมีหรือไม่บ้านหลังเดียวสะเทือนโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน 1.7 แสนล้านบาทเปิดยอดเงินบริจาค วัดนาป่าพง ย้อนหลัง 3–4 ปี หมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท
ตั้งกระทู้ใหม่