นักวิทยาศาสตร์พบมัมมี่ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งที่เชื่อกันว่าเป็น "มัมมี่" ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งสร้างขึ้นโดยการทำให้แห้งด้วยควัน เมื่อประมาณ 12,000 ปีก่อน
การศึกษาสถานที่ฝังศพโบราณ ในประเทศจีน ฟิลิปปินส์ ลาว ไทย มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย เผยให้เห็นโครงกระดูกที่ถูกฝังในลักษณะขดตัว และ ถูกทำให้แห้งด้วยควันเหนือไฟเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการมัมมี่และการฝังศพ
งานวิจัยดังกล่าว ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์สหสาขาวิชา PNAS เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา [ตามเวลาท้องถิ่น] โดยการทำมัมมี่ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายเน่าเปื่อย และ เป็นเทคนิคทั่วไปที่ใช้ในการรักษาสภาพศพในหลายวัฒนธรรม โดยที่โด่งดังที่สุดคือในอียิปต์โบราณ ซึ่งจะนำซากศพมนุษย์ไปทำเป็นมัมมี่
นักวิจัยเขียนว่า "กลไกที่ใช้ในการรมควันร่างกาย ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเผาโดยตรงโดยตั้งใจ แต่ทำให้เกิดการดำคล้ำและเปลี่ยนสีของส่วนต่างๆของร่างกาย มากกว่าที่จะเกิดการเผาไหม้ทั้งหมด"
จนถึงปัจจุบัน มัมมี่ที่เก่าแก่ที่สุดบางส่วนที่มนุษย์รู้จักนั้น ถูกเตรียมเมื่อประมาณ 7,000 ปีก่อน ในพื้นที่ๆปัจจุบันคือประเทศเปรูและชิลี โดยชนเผ่าชาวประมงที่เรียกว่า "ชินคอร์โร" ตามข้อมูลของ PNAS
ถึงแม้ว่าการค้นพบล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ จะทำให้ไทม์ไลน์ย้อนกลับไป แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิวัฒนาการของมนุษย์ "ริต้า เปย์โรเตโอ สตาร์" จากมหาวิทยาลัยอุปป์ซาลา ในสวีเดน ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยครั้งนี้ กล่าวว่า "ยังไม่ชัดเจนว่ามัมมี่ทั้งหมดในภูมิภาคนี้ ถูกทำให้แห้งด้วยควันหรือไม่?"
"เสี่ยว ชุน หง" นักวิจัยอาวุโสแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และ หัวหน้าคณะผู้วิจัยกล่าวว่า "การให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรม และ ระบบความเชื่อของชุมชนโบราณ จากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งการรมควันน่าจะมีความหมายทางจิตวิญญาณ ศาสนา หรือ วัฒนธรรมที่มากกว่าแค่การชะลอความเสื่อมเท่านั้น..." และ "การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับซากศพ เผยให้เห็นว่าร่างของผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ถูกฝังในลักษณะเดียวกัน โดยทั่วไปจะอยู่ในท่านั่งยองๆ และ น่าจะถูกฝังโดยชุมชนนักล่าสัตว์และเก็บของป่า ซึ่งเป็น "ผลงานสำคัญในการศึกษาพิธีกรรมงานศพ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์" และ "จากการศึกษาพบว่า "ตัวอย่างการฝังศพแสดงให้เห็นถึง "ความเชื่อทางวัฒนธรรมและแนวทางปฏิบัติ ในการเก็บศพที่คงอยู่ยาวนานอย่างน่าทึ่ง ซึ่งคงอยู่มานานกว่า 10,000 ปีในชุมชนนักล่าสัตว์และเก็บของป่า" และ "ในบางกรณียังบ่งชี้ถึงการแยกชิ้นส่วน หลังการเสียชีวิตอีกด้วย"
นักวิจัยถือว่าซากศพที่พวกเขาค้นพบนั้น "เป็นมัมมี่" เนื่องจากถูกทำให้เป็นมัมมี่โดยเจตนา โดยการรมควัน ถึงแม้ว่าเนื้อ เส้นผม และ ผิวหนังของซากศพ จะไม่ได้ถูกเก็บรักษาไว้ก็ตาม...
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันการชันสูตรพบสาร “ไซยาไนด์”ในกระแสเลือดและกระเพาะอาหารของ “นัทปง” ในปริมาณที่ทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากการไหลตาย
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เจอคลื่นความหนาวเย็นรุนแรงและพายุหิมะถล่ม การเดินทางชะงักทั่วเมือง
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
นิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต
วิธีป้องกันตะขาบในบ้าน ลดเสี่ยงโดนกัด
เลขเด็ด "แพนแพนพารวย" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..สูตรหวยเด็ด รวยก่อนใคร!
ฮือฮาฝรั่งนั่งรถเข็นพ่อตาขับรถจักรยานยนต์ลากปล่อยเมียไว้กลางทางแล้วให้เมียเดินเข้าบ้าน
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
นิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันการชันสูตรพบสาร “ไซยาไนด์”ในกระแสเลือดและกระเพาะอาหารของ “นัทปง” ในปริมาณที่ทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากการไหลตาย
