กระทรวงสาธารณสุขเขมร เตือนระวังโรคมือ เท้า ปาก ระบาดหนัก
วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา ได้ออกมาประกาศว่า "พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก เพิ่มขึ้นในเด็ก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี" และ "โรค "มือ เท้า ปาก" เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อ "เอนเทอโรไวรัส" และ "ค็อกแซกกีไวรัส" ถึงแม้ว่าเด็กและทารกจะมีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ แต่บางครั้งก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่ได้..."
กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา กล่าวอีกว่า "โดยทั่วไปแล้ว โรคนี้แพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านการ สัมผัสโดยตรงกับของเหลวในระบบทางเดินหายใจ เช่น [น้ำลาย เสมหะ และ เมือก] น้ำเหลืองจากตุ่มพอง และ อุจจาระของผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่ติดต่อจากคนสู่สัตว์ หรือ ในทางกลับกัน ผู้ป่วยจะแพร่เชื้อได้มากที่สุด ในช่วงสัปดาห์แรก..." และ "อาการประกอบด้วยไข้ แผลในปาก และ ตุ่มพองที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ก้น และปาก โดยปกติผู้ป่วยจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน หากไม่รุนแรง" และ "ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องใช้ยาลดไข้ และ ยาแก้ปวดจากแผลเรื้อรังหลายเดือน แต่ไม่ควรใช้แอสไพรินเพื่อลดไข้ เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต"
กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา กล่าวเสริมว่า "วิธีการป้องกันโรคนี้ ได้แก่ การรักษาสุขอนามัยโดยการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเกิดแผลพุพองหรือแผลไฟไหม้ การรักษาสุขอนามัยก่อนรับประทานอาหาร และ หลังการใช้ห้องน้ำเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง" และ "ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด เช่น การจูบ การกอด และ ใช้ภาชนะรับประทานอาหารร่วมกับเด็กที่เป็นโรคมือ เท้า และปาก ควรใช้ช้อนและจานแยกกัน..." และ "เมื่อเด็กป่วย ไม่ควรส่งไปโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก และ ผู้ปกครองและผู้ดูแลควรเฝ้าระวังอาการป่วย เพื่อตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และ รีบไปพบแพทย์และรับการรักษาที่ศูนย์สุขภาพ หรือ โรงพยาบาลใกล้เคียงทันที ซึ่งหากล่าช้า เด็กมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน"
อ้างอิง : kiripost
อ้างอิง : kiripost















