โครงการรถไฟความเร็วสูงของจีน มูลค่าหลายแสนล้านต้องสะดุด หลังเจอ "บ้านตะปู" ทำพิษมานานกว่า 2 ปี
เราอาจจะเคยได้ยินเรื่อง "บ้านตะปู" บ้านที่ปฏิเสธเงินชดเชยการย้ายออกจากรัฐบาลของจีน จนกลายเป็นสิ่งที่ทำให้โครงการหลายๆโครงการของจีนต้องหยุดชะงัก หรือ ล้าช้า บางโครงการเลือกที่เดินหน้าต่อโดยการเลี่ยงสร้างการผ่านบ้านตะปู บางโครงการก็ยอมเพิ่มจำนวนเงินค่าชดเชยให้ แต่บางโครงการก็ต้องหยุดชะงักลง อย่างโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่ถือว่าเป็น อภิมหาโปรเจกต์ของจีน ที่ต้องหยุดชะงักมานานกว่า 2 ปี เพียงเพราะ บ้านตะปู 1 หลังเท่านั้น
สำนักข่าวต่างประเทศของจีน รายงานโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่ถือว่าเป็นอภิมหาโปรเจกต์ของจีน ที่เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ ปี 2563 เพื่อเชื่อมต่อระหว่างมณฑลเจียงซู , มณฑลเจ้อเจียง และ เมืองเซี่ยงไฮ้ ที่มีมูลค่าสูงถึง 38,000 ล้านหยวน (ประมาณ170,000 ล้านบาท) โครงการรถไฟความเร็วสูงก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ก็สามารถสร้างทางรถไฟยาวถึง 163.54 กิโลเมตรได้จนเกือบเสร็จสมบูรณ์ แต่ทว่ายังติดปัญหาอีกหนึ่งอย่าง คือ บ้านตะปู ที่ขวางทางอยู่หนังหนึ่งไม่ยอมย้ายออกจากที่ดินดังกล่าวนั้นเอง
บ้านตะปูหลังดังกล่าวเป็นของ นางเจียง เธอปฏิเสธรับเงินชดเชยการย้ายออกจากทางรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่าเงินชดเชยนั้นมีจำนวนที่น้อยเกินไป ในขณะที่เพื่อนบ้านคนอื่นๆในระแวกนั้นได้รับเงินชดเชยและย้ายออกไปกันหมด
นางเจียง เรียกเงินชดเชยจากทางรัฐบาลเป็นเงิน 100,000 หยวนต่อตารางเมตร (ประมาณ 446,000 บาท) แต่ทางรัฐบาลปฏิเสธเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมให้เหตุผลว่ามันสูงเกินไป เธอ รู้ดีว่าบ้านของเธอมีความสำคัญต่อการโครงการนี้มาก เธอยื่นข้อเสนออีกครั้งหลังผ่านไปสักระยะ แต่แทนที่มันจะลดลงมันกลับมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 200,000 หยวนต่อตารางเมตร (ประมาณ 892,000 บาท) และทางรัฐบาลก็ยังคงปฏิเสธเงินจำนวนดังกล่าวอีกเช่นเดิม
หลายคนรู้ว่า การที่นางเจียงทำเช่นนี้ เพราะนี่คือโอกาสที่เธอจะได้รับเงินก้อนโต เธอรู้ว่าบ้านของเธอมีความสำคัญต่อการสร้างโครงการนี้แค่ไหน เธอจึงเลือกที่จะดื้อดึงอยู่แบบนั้นตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่โครงการรถไฟความเร็วสูงที่เป็น อภิมหาโปรเจกต์ของจีน ต้องหยุดชะงักลงเพราะบ้านตะปูของนางเจียง
เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โตในประเทศจีน จนถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก ทำให้ นางเจียง มีสภาวะเครียดสะสมเป็นอย่างมาก จนในที่สุดก็มีข่าวดี เมื่อเธอตัดสินใจรับข้อเสนอค่าชดเชยของทางรัฐบาลและย้ายออกในที่สุด ทำให้ตอนนี้ อภิมหาโปรเจกต์โครงการรถไฟความเร็วสูงนี้ ที่ล้าช้ามากนานกว่า 2 ปี ก็สามารถสร้างต่อได้ในที่สุดนั้นเอง












