โอเวน คูเปอร์ วัย 15 ปี คว้า Emmy 2025 สร้างสถิติเด็กสุดในประวัติศาสตร์
โอเวน คูเปอร์ นักแสดงดาวรุ่งวัย 15 ปี จารึกประวัติศาสตร์เอมมี่ กับบทบาทในซีรีส์ Netflix “Adolescence”
ในวงการบันเทิงระดับโลก การคว้ารางวัลเอมมี่ถือเป็นหนึ่งในเกียรติยศสูงสุดสำหรับนักแสดงและทีมงานผู้สร้างซีรีส์ ล่าสุด วันที่ 15 กันยายน 2568 ณ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อ โอเวน คูเปอร์ (Owen Cooper) นักแสดงดาวรุ่งชาวอังกฤษวัยเพียง 15 ปี สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้ารางวัล นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ชนะรางวัลเอมมี่ฝ่ายชายที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
การคว้ารางวัลครั้งนี้เกิดขึ้นจากบทบาทของเขาในมินิซีรีส์ 4 ตอนจบเรื่อง “Adolescence” ของ Netflix ซึ่งเป็นซีรีส์ที่สร้างเสียงฮือฮาและได้รับรางวัลใหญ่รวมถึง 8 สาขาจากการเข้าชิงทั้งหมด 13 สาขา
ซีรีส์ “Adolescence” กับความสำเร็จถล่มทลาย
“Adolescence” เป็นมินิซีรีส์ 4 ตอนที่นำเสนอเรื่องราวของ เจมี มิลเลอร์ (Jamie Miller) เด็กนักเรียนชายวัยรุ่นที่ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมเพื่อนร่วมชั้นหญิง หลังเข้าไปพัวพันกับวัฒนธรรมออนไลน์สุดโต่งที่เกลียดชังผู้หญิง หรือที่เรียกว่า Incel Culture
ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลก เนื่องจากสามารถสะท้อนปัญหาสังคมในยุคดิจิทัล และเป็นประเด็นให้ผู้ปกครองและวัยรุ่นได้พูดคุยกันอย่างกว้างขวาง การผลิตซีรีส์ได้รับการยกย่องในด้านบทภาพยนตร์ การแสดง และการกำกับ
รางวัลสำคัญที่ “Adolescence” ได้รับในงาน Emmy Awards 2025 ได้แก่
1. รางวัลมินิซีรีส์ยอดเยี่ยม (Limited Series of the Year)
2. รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม – สตีเฟน เกรแฮม (Stephen Graham)
3. รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม – โอเวน คูเปอร์
4. รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม – เอริน โดเฮอร์ตี (Erin Doherty)
5. รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม – ฟิลิป บารันทินี (Philip Barantini)
6. รางวัลบทโทรทัศน์ยอดเยี่ยม
ความสำเร็จของซีรีส์ครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนคุณภาพของผลงาน แต่ยังชี้ให้เห็นถึง ความสามารถของนักแสดงรุ่นเยาว์และทีมงานเบื้องหลัง
โอเวน คูเปอร์ กับการสร้างประวัติศาสตร์
โอเวน คูเปอร์ เป็นนักแสดงดาวรุ่งชาวอังกฤษวัยเพียง 15 ปี ที่เริ่มต้นเรียนการแสดงอย่างจริงจังเพียงสองปีที่ผ่านมา การคว้ารางวัล นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะรางวัลเอมมี่ฝ่ายชายที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
ในวันที่ขึ้นรับรางวัล โอเวนได้กล่าวบนเวทีด้วยความถ่อมตนว่า
“ตอนที่ผมเริ่มเรียนการแสดงเมื่อสองปีก่อน ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มาไกลถึงสหรัฐอเมริกา รางวัลนี้อาจมีชื่อผมอยู่ แต่มันเป็นของทีมงาน เบื้องหลังและนักแสดงทุกคนจริงๆ ครับ”
การกล่าวสุนทรพจน์ของเขาสะท้อนถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเข้าใจในคุณค่าของทีมงานเบื้องหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชมและนักวิจารณ์ชื่นชมอย่างมาก
สตีเฟน เกรแฮม – นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
นอกจากโอเวนแล้ว สตีเฟน เกรแฮม ซึ่งรับบทเป็นพ่อของเจมี ก็ได้รับรางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในงานนี้ด้วย เขากล่าวสุนทรพจน์ที่สร้างแรงบันดาลใจว่า
“ผมเป็นแค่เด็กเชื้อชาติผสมจากแฟลตธรรมดา ๆ การที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ต่อหน้าเพื่อนร่วมวงการและได้รับการยอมรับ ถือเป็นสิ่งที่น่าถ่อมตนที่สุดแล้ว”
คำพูดนี้สะท้อนถึงเส้นทางการเป็นนักแสดงที่ไม่ง่ายของเขา และเน้นย้ำถึงความสำเร็จที่เกิดจากความพยายามและความมุ่งมั่น
ผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวและการเรียนของโอเวน
แม้โอเวนจะได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ แต่เขายังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการชีวิตส่วนตัวและการเรียน โดยเขาต้องรีบเดินทางกลับสหราชอาณาจักรเพื่อเตรียมตัวสอบ GCSE โรงเรียนของเขาได้อนุญาตให้เขาลาเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อเดินทางมาร่วมงานประกาศรางวัลที่ฮอลลีวูด
นี่เป็นการสะท้อนถึงความท้าทายที่นักแสดงรุ่นเยาว์ต้องเผชิญ ทั้งการรักษาผลงานระดับโลกและการศึกษาไปพร้อมกัน
ทำไม “Adolescence” ถึงได้รับความสนใจ
1. เรื่องราวสะท้อนสังคมปัจจุบัน
ซีรีส์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต วัฒนธรรม Incel และความรุนแรงที่เกิดจากความเกลียดชังในโลกออนไลน์
2. คุณภาพการผลิตสูง
ทั้งบทภาพยนตร์ การกำกับ และการตัดต่อ ถูกวิจารณ์ว่าเหนือชั้นและดึงดูดผู้ชมจากหลายประเทศ
3. นักแสดงนำและนักแสดงสมทบ
การแสดงที่สมจริงและลึกซึ้งของสตีเฟน เกรแฮม, เอริน โดเฮอร์ตี และโอเวน คูเปอร์ ทำให้ซีรีส์เป็นที่ยอมรับทั้งในวงการและผู้ชม
4. กระตุ้นการสนทนาในสังคม
ซีรีส์เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ปกครองและวัยรุ่นพูดคุยเกี่ยวกับความปลอดภัยในโลกออนไลน์ การรับมือกับวัฒนธรรมที่เกลียดชัง และการป้องกันปัญหาสังคม
บทบาทของโอเวน คูเปอร์ใน “Adolescence”
โอเวนรับบท เจมี มิลเลอร์ เด็กชายที่ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านจิตใจและสังคมหลังจากพัวพันกับกลุ่ม Incel ซีรีส์นำเสนอการต่อสู้ภายในตัวละครและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับครอบครัวและโรงเรียน
การแสดงของโอเวนได้รับการยกย่องว่า สมจริงและทรงพลัง แม้เขาจะอายุเพียง 15 ปี แต่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ซับซ้อนของตัวละครได้อย่างน่าทึ่ง
ความสำเร็จของทีมงานเบื้องหลัง
นอกจากนักแสดงแล้ว ทีมงานเบื้องหลังของ “Adolescence” ก็มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จ
ผู้กำกับฟิลิป บารันทินี
การกำกับที่ละเอียดและมีวิสัยทัศน์ช่วยสร้างบรรยากาศและโทนของซีรีส์ให้เหมาะสม
บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
การเขียนบทที่เข้าใจตัวละครและสะท้อนปัญหาสังคมอย่างชัดเจน
เอฟเฟกต์และการตัดต่อ
การตัดต่อภาพและเสียงช่วยสร้างความเข้มข้นและความตึงเครียดของเรื่องราว
บทสรุป
การคว้ารางวัลเอมมี่ของ โอเวน คูเปอร์ ไม่เพียงเป็นความสำเร็จส่วนตัว แต่ยังเป็นตัวแทนของ นักแสดงรุ่นเยาว์ที่สามารถสร้างผลงานระดับโลกได้ และสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทีมงานเบื้องหลัง
ซีรีส์ “Adolescence” กลายเป็นตัวอย่างของผลงานที่ ผสมผสานความบันเทิงและสังคมศึกษา ได้อย่างลงตัว และการได้รับรางวัลเอมมี่หลายสาขา รวมถึงการสร้างประวัติศาสตร์ของโอเวน คูเปอร์ แสดงให้เห็นว่าผลงานคุณภาพสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและแรงบันดาลใจให้ผู้ชมทุกวัย
อนาคตของโอเวน คูเปอร์ และซีรีส์ “Adolescence” ยังคงน่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผลงานใหม่หรือการมีบทบาทสำคัญในวงการบันเทิงระดับโลก

















