ชาตินิยม "กัมพูชา" ปลูกฝังให้เกลียดชัง "ไทย"..แม้จะไม่มี "ฮุนเซน-ฮุน มาเนต" ก็ตาม
ชาตินิยม "กัมพูชา" ปลูกฝังให้เกลียดชัง "ไทย"..แม้จะไม่มี "ฮุนเซน-ฮุน มาเนต" ก็ตาม คำพูดดังกล่าวไม่เกินจริง เพราะสิ่งที่เราเห็นในโลกโซเชียลตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกปลูกฝังมาในแบบเรียนของประเทศกัมพูชา ว่าประเทศไทยเป็นผู้ที่ขโมยแผ่นดินเขมร ซึ่งเรียกกันว่า "เสียม" น่าจะมาจากคำว่า SIAM โดยคำแปลในภาษากัมพูชาก็แปลว่า พวกขี้ขโมยทั้งหลาย
แต่เดิมคนกัมพูชาเชื่อว่า ขอมกับเขมรคือชนชาติเดียวกัน ส่วนคนไทยคือผู้ที่มารุกรานแผ่นดินของเขมร และได้ขโมยเอาวัฒนธรรมของเขมรไปหมดสิ้น ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ภาษา และความเจริญต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐบาลกัมพูชาก็ปล่อยปละละเลย ปลูกฝังค่านิยมเยาวชนในชาติแบบผิดๆ ให้เกลียดชังประเทศเพื่อนบ้าน และกล่าวหาว่าไทยเป็นผู้ร้ายต่างๆ นานา ทั้งเรื่องการมารุกรานและเข่นฆ๋าประชาชนกัมพูชาเป็นจำนวนมาก จะว่าไปแล้วเรื่องกัมพูชากับไทยก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นปัญหาสะสมมานานแล้ว เพียงแต่มีผู้นำเจ้าเล่ห์บางคนนำเอาเรื่องดังกล่าวมาปลุกกระแสชาตินิยมเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อหวังผลทางการเมืองล้วนๆ
เรื่องนี้มันฝังลงรากลึกไปแล้ว ถึงแม้จะไม่มีผู้นำอย่าง "ฮุนเซน" และ "ฮุน มาเนต" ก็ตาม ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงความเชื่อของชาวเขมรลงได้ แม้แต่อดีตผู้นำฝ่ายค้านอย่าง "สม รังสี" ก็มีแนวคิดไม่ต่างจาก 2 พ่อลูกตระกูลฮุนเท่าไหร่ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นใหญ่เท่านั้น ถ้าถึงวันที่ได้ตำแหน่งใหญ่จริงๆ เชื่อว่า ไทยกับกัมพูชาก็คงจะมีปัญหาใหม่ๆ ตามมาอีกอย่างแน่นอน นี่ขนาดกัมพูชามีปัญหากับไทย ทางด้านอดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชายังเอาทรัพยากรบริเวณเกาะกูดของไทยไปประเคนถวายให้กับชาติตะวันตก มันคงจะจริงที่ว่า เขมรยังไงก็คือเขมร ไม่เคยมีความจริงใจ ถึงแม้ว่าไทยจะเป็นมิตรที่ดีก็ตาม เห็นทีต้องปิดด่านถาวรแล้ว คนไทยจะได้กินอิ่มนอนหลับสักที ลากันทีเขมรเพื่อนรัก

















