สรุปยังเหมือนเดิม! ห้ามขายเหล้าเบียร์ช่วงบ่าย กฎหมายเดิมไม่ถูกยกเลิก
ร้านอาหารยังฝันค้าง! ส.ส.เท่าพิภพ ชี้ แม้คำสั่งคณะปฏิวัติถูกยกเลิก แต่ “ประกาศสำนักนายกฯ” ฉบับล่าสุดยังคงห้ามขายเหล้า–เบียร์ช่วง 14.00–17.00 น.
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 เกิดกระแสข่าวที่สร้างความดีใจชั่วคราวให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ หลังจากมีรายงานว่าได้มีการ “ปลดล็อกคำสั่งคณะปฏิวัติ” ที่เคยใช้เป็นกฎหมายหลักในการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00–17.00 น. มายาวนานหลายทศวรรษ
อย่างไรก็ตาม ความดีใจดังกล่าวกลับกลายเป็นเพียง “ความเข้าใจผิด” เมื่อ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.พรรคประชาชน ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่า ร้านอาหารทั่วไปยังคงไม่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายได้ตามกฎหมาย เพราะแม้คำสั่งคณะปฏิวัติปี 2515 จะถูกยกเลิกไปจริง แต่ยังมี “ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี” ฉบับล่าสุด ที่ยังคงบังคับใช้อยู่
คำสั่งคณะปฏิวัติถูกยกเลิกจริง แต่กฎหมายใหม่ยังอยู่
นายเท่าพิภพอธิบายว่า ที่ผ่านมา คำสั่งคณะปฏิวัติที่ 253 พ.ศ. 2515 เป็นกฎหมายหลักที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00–17.00 น. แต่เมื่อมีการแก้ไข พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และปรับปรุงเพิ่มเติมในปี 2568 ได้มีการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวจริง
ทว่าปัญหาคือ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลแต่ละยุคได้อาศัย มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออก “ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี” เพื่อกำหนดเวลาและเงื่อนไขการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นมาใหม่ซ้ำอีกชั้นหนึ่ง
ดังนั้น แม้คำสั่งคณะปฏิวัติถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ “ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี” ที่ยังมีผลบังคับใช้ ก็ยังคงกำหนดห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00–17.00 น. เช่นเดิม
ประกาศสำนักนายกฯ ฉบับล่าสุดลงนามโดย “แพทองธาร ชินวัตร”
นายเท่าพิภพระบุว่า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับล่าสุด เพิ่งลงนามโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ซึ่งยังคงกำหนดชัดเจนว่า ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00–17.00 น.
สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้
ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเวลา 14.00–17.00 น.
ยกเว้นเฉพาะ 3 สถานที่เท่านั้น ได้แก่
1. ท่าอากาศยานนานาชาติ
2. สถานบริการที่จัดตั้งขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมาย
3. โรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
ดังนั้น ร้านอาหารทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารตามสั่ง ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ หรือร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ไม่อยู่ในข่ายได้รับการยกเว้น และยังคงผิดกฎหมายหากจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาดังกล่าว
ความเข้าใจผิดของผู้ประกอบการร้านอาหาร
กระแสความเข้าใจผิดเกิดขึ้นจากการตีความข่าวการ “ยกเลิกคำสั่งคณะปฏิวัติ” โดยผู้ประกอบการหลายรายเข้าใจว่าการยกเลิกคำสั่งดังกล่าว หมายถึงการปลดล็อกให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายได้ทันที แต่ในความเป็นจริงยังคงมีกฎหมายที่บังคับใช้อยู่อีกฉบับหนึ่ง
นายเท่าพิภพจึงออกมาเน้นย้ำว่า ร้านอาหารยังคงต้องปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับล่าสุด จนกว่าจะมีการแก้ไขหรือออกประกาศใหม่ที่เปลี่ยนแปลงเวลา
ผลกระทบต่อผู้ประกอบการ
การคงไว้ซึ่งข้อห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วง 14.00–17.00 น. ย่อมส่งผลกระทบต่อร้านอาหารและผู้ประกอบการหลายด้าน ได้แก่
1. รายได้ลดลง
ร้านอาหารที่ลูกค้ามักนิยมสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่าย โดยเฉพาะร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว ย่อมสูญเสียรายได้ในช่วงเวลาดังกล่าว
2. ความสับสนในกฎหมาย
ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยเกิดความสับสนว่า กฎหมายใดบังคับใช้อยู่จริง ระหว่างคำสั่งคณะปฏิวัติเดิม หรือประกาศสำนักนายกฯ ทำให้เสี่ยงต่อการทำผิดโดยไม่เจตนา
3. ความเหลื่อมล้ำของสถานประกอบการ
ร้านอาหารทั่วไปไม่สามารถขายได้ แต่โรงแรมและสถานบริการที่ถูกกฎหมายกลับสามารถขายได้ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมในมุมมองของผู้ประกอบการรายย่อย
4. ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่คุ้นเคยกับข้อห้ามนี้ อาจเกิดความไม่เข้าใจและมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในการใช้บริการร้านอาหารไทย
ผู้สนับสนุนกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายให้เหตุผลว่า เป็นมาตรการที่ช่วย ควบคุมการบริโภคสุรา ลดการดื่มต่อเนื่องยาวนาน และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายที่มีการเดินทางกลับจากการทำธุระหรือขับขี่รถยนต์
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายคัดค้านมองว่า มาตรการดังกล่าวอาจไม่ตอบโจทย์ยุคสมัย เพราะพฤติกรรมการบริโภคและโครงสร้างเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
หลังจากกระแสข่าวนี้ถูกเผยแพร่ ผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล ทบทวนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเสนอว่าอาจปรับเปลี่ยนให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น
ให้ร้านอาหารที่มีใบอนุญาตสุราโดยตรงสามารถขายได้ตลอดทั้งวัน
กำหนดมาตรการควบคุมอื่น ๆ แทน เช่น คุมอายุผู้ซื้ออย่างเข้มงวด แทนที่จะจำกัดเวลา
ใช้ระบบการตรวจสอบและปรับเงินแทนการห้ามขายโดยสิ้นเชิง
บทสรุป
แม้คำสั่งคณะปฏิวัติปี 2515 จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00–17.00 น. ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ภายใต้ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับล่าสุดที่ลงนามโดยนายกฯ แพรทองธาร ชินวัตร เมื่อเดือนมิถุนายน 2568
ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วไปยังคงไม่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ หากฝ่าฝืนยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย จนกว่าจะมีการออกประกาศใหม่แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ
เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่ง “โจทย์ใหญ่” ที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ระหว่างการรักษามาตรการด้านสาธารณสุขกับการตอบโจทย์ความเป็นจริงทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ

















