การติดเชื้อจากเห็บที่ร้ายแรง กำลังแพร่กระจายไปทั่วญี่ปุ่น
โรคไข้รุนแรงพร้อมเกล็ดเลือดต่ำ [SFTS] เป็นโรคที่ติดต่อทางเห็บ กำลังแพร่ระบาดไปทั่วญี่ปุ่น โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ของญี่ปุ่น ได้ออกมากล่าวเตือนว่า "การติดเชื้ออาจทำให้มีไข้สูงกว่า 38°C ตามมาด้วยอาการ ปวดท้องอย่างรุนแรงและท้องเสีย"
อัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ประเมินไว้สูงถึง 30% รายงานผู้ป่วยรายใหม่สร้างสถิติสูงสุดในสัปดาห์นี้ และ ในปีนี้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ในฮอกไกโดและภูมิภาคคันโต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยมีรายงานการติดเชื้อมาก่อน เหตุใดจึงเกิดการแพร่ระบาดทั่วประเทศ และ ผู้คนควรป้องกันตนเองอย่างไร?
ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ในการติดต่อระหว่างมนุษย์กับสัตว์ป่า และ เน้นย้ำถึงการป้องกันขั้นพื้นฐาน
ที่สวนสาธารณะนารา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มักพบเห็บบนตัวกวาง ทั้งบนใบหน้า คอ และรอบปาก หน่วยงานท้องถิ่นกำลังรณรงค์ให้นักท่องเที่ยว ไม่สัมผัสตัวกวาง และ โรค SFTS ถูกตรวจพบครั้งแรกในประเทศจีน ในปี 2011 และ ญี่ปุ่นยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรก ในประเทศในปี 2013
เห็บมักจะอาศัยอยู่ในหญ้าและพุ่มไม้ ซึ่งพวกมันจะเกาะติดกับคนและสัตว์ที่เดินผ่านไปมาและดูดเลือด ส่งผลให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปในกระแสเลือด อาการทั่วไป ได้แก่ มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ตามด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและท้องเสีย และ อาจถึงแก่ชีวิตได้ประมาณ 10% ถึง 30% ของผู้ป่วย
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในปีนี้ พุ่งสูงถึง 143 ราย ในวันที่ 17 สิงหาคม 2025 ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 126 ราย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม ถึงแม้ว่ายาต้านไวรัสที่นิยมใช้รักษาไข้หวัดใหญ่อย่าง Avigan จะได้รับการอนุมัติให้เป็นทางเลือก ในการรักษาเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน เจ้าหน้าที่แนะนำให้ใช้ยาไล่แมลงอย่างทั่วถึง ในขณะทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยทาลงบนผิวหนัง ที่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
SFTS ซึ่งครั้งหนึ่งเคยกระจุกตัวอยู่ในญี่ปุ่นตะวันตก ปัจจุบันมีรายงานพบในคันโตและฮอกไกโดด้วย ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาด คือ การปรากฏตัวของสัตว์ป่าที่เข้ามารุกรานในเมือง ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งในเขตเมืองและชานเมือง
ในสวนสาธารณะของเมืองโยโกฮามา เจ้าหน้าที่สวนสัตว์พบเห็นกระรอกไต้หวันหลายตัว วิ่งเข้ามาในสวนสัตว์อย่างรวดเร็ว โดยชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกล่าวว่า "กระรอกเหล่านี้ ทำรังอยู่ในช่องว่างใต้หลังคาบ้านของเขา แถมยังสร้างความเสียหาย ให้กับสวนผักของเขาด้วย"
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าวว่า "แรคคูนและกระรอกไต้หวัน สามารถเป็นพาหะของเห็บ และ เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสนี้ในมนุษย์"
ในเดือนพฤษภาคม 2025 สัตวแพทย์ในจังหวัดมิเอะ ซึ่งรักษาแมวที่ติดเชื้อ SFTS ได้ติดเชื้อไวรัสนี้ในภายหลัง และ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้เชี่ยวชาญจึงเน้นย้ำถึงขั้นตอนปฏิบัติ ได้แก่ หลีกเลี่ยงการถูกเห็บกัด งดการสัมผัสสัตว์ป่าหรือสัตว์จรจัด ใช้สารไล่แมลง สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ในพื้นที่ที่มีหญ้าหรือป่า และ รีบไปพบแพทย์ทันทีหากถูกกัดหรือมีอาการ...






















