ผบ.ตร. สั่งกวาดล้างบ่อนพนันทุกจังหวัด! ห้ามตำรวจรับเงินใต้โต๊ะเด็ดขาด
ผบ.ตร.สั่งกวาดล้างบ่อนพนันทั่วประเทศ ปมจับบ่อนดอนเมือง คาดโทษผู้บังคับบัญชา หากปล่อยปละละเลย
สถานการณ์การพนันในประเทศไทยกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังจากที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้รับคำสั่งเข้มจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ยกระดับการป้องกันและปราบปรามการพนันอย่างเด็ดขาดทั่วประเทศ
คำสั่งดังกล่าวออกมาเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 โดยมีความเร่งด่วนสูงและระบุชัดเจนว่า หากมีการละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา จะต้องถูก พิจารณาดำเนินการทางปกครอง วินัย และอาญา ทันที
เหตุการณ์ครั้งนี้มีชนวนมาจากการจับกุม บ่อนพนันในพื้นที่ สน.ดอนเมือง ซึ่งถือเป็นกรณีที่สะท้อนถึงปัญหาการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่บางส่วน และเป็นสัญญาณให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้อง ตื่นตัวและเข้มงวดกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่
ความสำคัญของคำสั่ง “ด่วนที่สุด” ของ ผบ.ตร.
คำสั่งนี้ถูกส่งตรงไปยัง รอง ผบ.ตร. (ปป), จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกหน่วย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง มาตรการเชิงรุกในการปราบปรามการพนัน ให้ครอบคลุมและเข้มงวดมากที่สุด
หัวใจสำคัญของคำสั่งคือ การ คาดโทษผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น หากปล่อยให้บ่อนพนันดำเนินกิจกรรมในพื้นที่รับผิดชอบ จะต้องถูกตรวจสอบและลงโทษทันที
การออกคำสั่งลักษณะนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ ผบ.ตร. ต่อปัญหาการพนันในประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อสังคม ความสงบเรียบร้อย และเศรษฐกิจท้องถิ่น
มาตรการสำคัญในการกวาดล้างบ่อนพนัน
คำสั่งของ ผบ.ตร. ประกอบด้วยมาตรการเข้มข้นหลายด้าน ครอบคลุมทั้งการตรวจสอบ การสืบสวน การกวาดล้าง และการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
1. สอบสวนกรณีบ่อนดอนเมือง
ผบ.ตร.เน้นย้ำให้ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจับกุมบ่อนพนันในพื้นที่ สน.ดอนเมือง โดยต้องดำเนินการทางปกครองกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามลำดับชั้นอย่างเร่งด่วน
การสอบสวนนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตรวจสอบเหตุการณ์ครั้งล่าสุด แต่ยังเป็นการ สร้างมาตรฐานการทำงาน ให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเห็นความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ
2. ขยายผลทุกมิติ
ทุกคดีการจับกุมบ่อนพนันต้องมี การสืบสวนขยายผลในทุกมิติ ทั้งตัวเจ้าของสถานที่, ผู้จัดให้เล่น, เจ้ามือ, รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจเกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังต้อง ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ของบ่อนพนันอย่างละเอียด โดยอาศัย กฎหมายฟอกเงินและกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้สถานที่ดังกล่าวกลับมาเป็นแหล่งลักลอบเล่นการพนันได้อีก
มาตรการนี้เป็นการสร้าง แนวป้องกันแบบเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงการปิดแหล่งทุนและความเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่
3. กวาดล้างพื้นที่สุ่มเสี่ยง
ผบ.ตร.สั่งให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และตำรวจภูธรภาค 1-9 กำหนดมาตรการเชิงรุกในการตรวจค้นอาคารหรือสถานที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการพนัน
โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยมีประวัติการกระทำผิดซ้ำซาก ต้องจัดชุดปฏิบัติการ สืบสวนหาข่าวและร่วมมือกับภาคประชาชน เพื่อสร้างการแจ้งเบาะแสและป้องกันไม่ให้บ่อนพนันกลับมาดำเนินกิจกรรมอีก
4. ระดมหน่วยงานพิเศษสนับสนุน
เพื่อให้การปราบปรามมีประสิทธิภาพสูงสุด ผบ.ตร.สั่งให้หน่วยงานพิเศษเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติ ได้แก่
กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
ตำรวจท่องเที่ยว
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)
หน่วยงานเหล่านี้จะร่วมมือกัน สืบสวนหาข่าว ตรวจสอบ และติดตามผล ให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านการเงิน การจัดการเจ้าหน้าที่ และการบังคับใช้กฎหมาย
5. ติดตามเรื่องร้องเรียน
คำสั่งยังระบุให้ ติดตามและดำเนินการกับทุกข้อร้องเรียน ที่ประชาชนแจ้งเข้ามาผ่านหลายช่องทาง เช่น
สายด่วน 1599
ระบบ JCOMS
ช่องทางออนไลน์อื่น ๆ
การเปิดช่องทางการแจ้งเบาะแสเหล่านี้ช่วยให้ตำรวจสามารถ เข้าถึงข้อมูลเชิงลึก ของการลักลอบเล่นพนัน และสามารถลงพื้นที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
ปมจับบ่อนดอนเมืองและความสำคัญต่อภาพรวมประเทศ
กรณีบ่อนดอนเมืองถือเป็น สัญญาณเตือนสำคัญ ว่าการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่สามารถสร้างความเสียหายทั้งสังคมและเศรษฐกิจ
บ่อนพนันส่งผลต่อ
1. ความสงบเรียบร้อยของชุมชน – การลักลอบเล่นพนันมักนำไปสู่ความรุนแรงและอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง
2. เศรษฐกิจท้องถิ่น – เงินที่ถูกใช้ในการเล่นพนันไม่ได้สร้างรายได้กลับสู่ชุมชน แต่กลับกระจายออกนอกระบบเศรษฐกิจที่ควบคุมได้
3. ความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่รัฐ – หากเจ้าหน้าที่ไม่เข้มงวด การลักลอบการพนันจะขยายตัวและสร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นของประชาชน
ดังนั้น การสั่งการของ ผบ.ตร. จึงถือเป็น มาตรการเชิงสัญลักษณ์และปฏิบัติการจริง เพื่อยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่ปล่อยให้การพนันลักลอบดำเนินกิจกรรมโดยไม่ถูกตรวจสอบ
มาตรการคาดโทษผู้บังคับบัญชา
หนึ่งในประเด็นสำคัญของคำสั่งคือ การคาดโทษผู้บังคับบัญชาทุกระดับ หากละเลยต่อหน้าที่
การคาดโทษนี้ครอบคลุม วินัย ปกครอง และอาญา
มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บังคับบัญชา ตื่นตัวและรับผิดชอบต่อพื้นที่ของตน
ถือเป็นมาตรการป้องปรามระดับสูงสุดที่ เน้นความเข้มงวดและความรอบคอบในการบริหารงาน
การคาดโทษดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความรับผิดชอบ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ทุกคนว่า การละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่มีผลทางกฎหมายและวินัยทันที
ความร่วมมือกับประชาชน
มาตรการเชิงรุกของ ผบ.ตร. ยังรวมถึง การสร้างเครือข่ายร่วมมือกับประชาชน ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส
การมีส่วนร่วมของประชาชนช่วยให้ตำรวจสามารถ เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของพื้นที่เสี่ยง และทำให้การกวาดล้างการพนันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป
การออกคำสั่งของ ผบ.ตร. ครั้งนี้ถือเป็น มาตรการเข้มข้นที่สุดในรอบหลายปี เพื่อปราบปรามการพนันทั่วประเทศ
มาตรการสำคัญประกอบด้วย
1. ตรวจสอบกรณีบ่อนดอนเมืองอย่างเร่งด่วน
2. ขยายผลทุกมิติของคดี
3. กวาดล้างพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
4. ระดมหน่วยงานพิเศษสนับสนุนการสืบสวน
5. ติดตามเรื่องร้องเรียนจากประชาชน
6. คาดโทษผู้บังคับบัญชาที่ปล่อยปละละเลย
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึง ความจริงจังของตำรวจไทยในการรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยของสังคม พร้อมทั้งเป็นสัญญาณให้ทุกฝ่ายตระหนักถึง ความรับผิดชอบและการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด
มาตรการเหล่านี้คาดว่าจะช่วยให้ประเทศไทย ลดปัญหาการลักลอบเล่นพนันและสร้างสังคมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ในอนาคต










