ด่วน! กองกำลังบูรพาประกาศกฎอัยการศึก คุมพื้นที่ #บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระเเก้ว
ในช่วงเวลาที่ความมั่นคงของประเทศยังคงเผชิญกับความท้าทาย รัฐบาลไทยได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรเพื่อเป็นเครื่องมือในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ แต่ยังคงประกาศให้มีผลบังคับใช้ในบางจังหวัดที่ถือว่ามีความเสี่ยงต่อความมั่นคง โดยหนึ่งในพื้นที่สำคัญที่ยังอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎอัยการศึกคือจังหวัดสระแก้ว ซึ่งประกอบไปด้วยเจ็ดอำเภอ ได้แก่ ตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ คลองหาด วัฒนานคร วังสมบูรณ์ และวังน้ำเย็น
การคงมาตรการทางกฎหมายเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล แต่เป็นเพราะสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีรายงานว่ามีประชาชนชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาก่อเหตุจลาจลภายในราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลถึงภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หน่วยงานรัฐจึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างกองทัพ ตำรวจ หน่วยงานพลเรือน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันประเทศจากการคุกคามที่เกิดขึ้น มาตรการเหล่านี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงการปกป้องเขตแดนเท่านั้น หากยังเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยในชุมชนชายแดนที่เปราะบางต่อความขัดแย้งอีกด้วย ภายใต้อำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ซึ่งได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2557 รัฐบาลจึงประกาศกำหนดพื้นที่บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น ให้เป็นเขตที่ต้องดูแลอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งกำหนดให้ถนนศรีเพ็ญซึ่งเชื่อมต่อกับชุมชนและแนวชายแดนเป็นแนวรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างชัดเจน
มาตรการที่ประกาศออกมามีลักษณะเข้มงวดเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างสงบ โดยมีข้อห้ามหลายประการที่ประชาชนจำเป็นต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นการห้ามพกพาอาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธเข้ามาในพื้นที่ ห้ามขัดขวางเส้นทางสัญจรที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และการดำรงชีวิตประจำวัน ห้ามถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฐานปฏิบัติการทางทหาร รวมไปถึงการห้ามทะเลาะวิวาท ดื่มของมึนเมา หรือใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรการเหล่านี้แม้จะสร้างความเข้มงวดในชีวิตประจำวันของผู้คน แต่ก็มีความจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลายและส่งผลกระทบในวงกว้าง
การกำหนดพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อยในจังหวัดสระแก้วครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของภาครัฐในการปกป้องอธิปไตยของชาติและดูแลความปลอดภัยของประชาชน การบูรณาการกำลังจากหลายฝ่ายถือเป็นมาตรการเชิงรุกเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ขยายตัวไปสู่ความรุนแรงที่ยากจะควบคุม ในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ไม่เพียงแต่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศ หากยังเป็นแนวหน้าในการพิทักษ์ความมั่นคงของชาติอีกด้วย















