กัมพูชา กับการเมืองแบบ IO เมื่อหวัดนกถูกปั้นให้เป็นอาวุธชีวภาพจากฝั่งประเทศไทย
การเสียชีวิตของเด็กชายวัย 11 ปี ในจังหวัดกัมปงสปือจากเชื้อไข้หวัดนก H5N1 กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความจริงที่น่าหวาดหวั่น แต่แทนที่รัฐบาลกัมพูชาจะยอมรับว่านี่คือการระบาดใหญ่ที่ยากจะควบคุม พวกเขากลับเลือกเส้นทางที่ชวนให้ประชาคมโลกตั้งคำถาม — ใช้ “คู่มือ IO” แบบดั้งเดิม บิดเบือนข้อมูล และสร้างเรื่องราวว่าทหารไทยคือผู้นำอาวุธชีวภาพเข้ามา
ในความเป็นจริง ไวรัส H5N1 ไม่ได้มาจากระเบิดชีวภาพ ไม่ได้มาจากปฏิบัติการลับของเพื่อนบ้าน แต่คือโรคที่แพร่จากสัตว์ปีก โดยเฉพาะไก่ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และนักระบาดวิทยายืนยันชัดเจน หลักฐานทางการแพทย์ตีแสกหน้าเรื่องเล่าทางการเมืองทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนวิธีคิดเก่า ๆ ของการเมืองกัมพูชา: เมื่อไม่สามารถจัดการปัญหาภายในได้ ก็หันไปสร้างศัตรูภายนอก เพราะการโทษ “เชื้อโรค” เท่ากับยอมรับความล้มเหลวของระบบสาธารณสุข แต่การโทษ “ไทย” สามารถเปลี่ยนความโกรธของประชาชนให้หันไปทางเพื่อนบ้านแทน และหวังจะได้เครดิตทางการเมืองชั่วคราว
แต่เกมนี้กลับพังทลายอย่างสิ้นเชิง เมื่อความจริงเปิดเผยต่อสาธารณะ สื่อระหว่างประเทศ นักวิชาการ และ WHO ล้วนระบุชัดว่าเป็นการระบาดของ H5N1 ไม่ใช่ปฏิบัติการทางทหาร รัฐบาลกัมพูชาจึงกลายเป็นฝ่าย “โป๊ะแตก” ในสายตาโลก และที่เลวร้ายกว่านั้น ประชาชนในประเทศกลับไม่ได้รับสิ่งที่ควรจะได้ — ไม่ใช่วัคซีน ไม่ใช่มาตรการป้องกัน แต่เป็นเพียงวาทกรรมการเมืองที่สร้างขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
นี่จึงเป็นปัญหาคลาสสิกของการเมืองที่พยายามกลบเกลื่อนด้วย IO ข้อมูลถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องอำนาจ แต่ไม่สามารถปกป้องชีวิตของผู้คนได้ เพราะไวรัสไม่อ่านแถลงการณ์ ไม่สนใจสุนทรพจน์ และไม่หยุดแพร่กระจายเพียงเพราะมีการสร้างเรื่องเล่าใหม่ ๆ ขึ้นมา
กัมพูชายุคนี้จึงคล้ายละครเวทีใหญ่ มีตัวร้ายที่ถูกเขียนบทขึ้นมา มีฉากปราศรัยที่เร้าอารมณ์ แต่เบื้องหลังม่านคือความจริงอันขมขื่น — ไก่ตายเป็นหมื่น ๆ คนป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และรัฐไม่สามารถหยุดยั้งโรคได้เลย สิ่งที่แพร่กระจายไปพร้อมกับเชื้อ H5N1 ไม่ใช่เพียงโรคระบาด แต่คือวาทกรรมที่ตอกย้ำความล้มเหลวของรัฐบาลเอง
พูดตรง ๆ ก็คือ ไก่คือพาหะของโรค แต่รัฐบาลกลับเป็นพาหะของ “การบิดเบือน” และหากยังเลือกใช้ IO เป็นวัคซีนทางการเมืองต่อไป คนที่ต้องจ่ายราคาก็คือประชาชนธรรมดา ที่ไม่มีอาวุธใดจะสู้กับโรคร้ายนี้ได้






