โซเชียลจับตา! หมอบีโผล่กองปราบ สีหน้าเครียดจัด ปิดปากไม่ตอบคำถามสื่อ
เปิดสภาพ “หมอบี เสกสันน์” ถูกคุมตัวถึงกองปราบ หน้าเครียด สวมกุญแจมือ ปฏิเสธตอบสื่อ – เจอข้อหาหนักทั้งฟอกเงินและสนับสนุนเจ้าพนักงานทุจริต
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เกิดความเคลื่อนไหวที่สร้างความสนใจในวงการข่าวอาชญากรรมและสังคมออนไลน์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้คุมตัว นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมอบี” ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน และสนับสนุนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ
ภาพที่ปรากฏต่อหน้าสื่อมวลชนคือ “หมอบี” ในสภาพที่แตกต่างจากภาพลักษณ์ก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสี น้ำตาลอ่อน สวมกุญแจมือ มีผ้าสีดำคลุมขณะเดินเข้าสู่กองปราบปราม ท่ามกลางกองทัพนักข่าวที่เฝ้ารอทำข่าวอย่างเนืองแน่น ใบหน้าเคร่งเครียดของเขาสะท้อนถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาในช่วงเวลานี้
ลำดับการจับกุม – เช้ามืดที่บ้านพักย่านจตุจักร
แหล่งข่าวจากกองปราบเปิดเผยว่า ปฏิบัติการจับกุมหมอบีเกิดขึ้นในช่วง เช้ามืดของวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของเขาในพื้นที่ย่าน จตุจักร กรุงเทพมหานคร หลังจากศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาหนักหลายกระทง
การเข้าจับกุมเป็นไปอย่างราบรื่น หมอบีไม่ได้ขัดขืน แต่มีท่าทีเครียดและพยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามต่อเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมภายในบ้านพัก เพื่อประกอบสำนวนคดีและตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับการกระทำความผิด
ข้อกล่าวหาหนัก – สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์และฟอกเงิน
คดีที่หมอบีเข้าไปพัวพันครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีใหญ่ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการ ทุจริตเงินบริจาคและทรัพย์สินของวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งขณะนี้ถูกสังคมจับตาอย่างใกล้ชิด
หมอบีถูกแจ้งข้อหาดังนี้
1. สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังยักยอกทรัพย์
เข้าข่ายช่วยเหลือหรือมีส่วนรู้เห็นกับเจ้าพนักงานที่เบียดบังทรัพย์สินซึ่งไม่ใช่ของตน
2. สนับสนุนเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ถูกกล่าวหาว่าอาจมีส่วนสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการทำหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
3. ร่วมกันฟอกเงิน
มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่อาจโยงไปสู่การฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงและมีโทษสูง
ข้อกล่าวหาเหล่านี้ทำให้คดีของหมอบีไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แต่เป็นคดีที่ ซับซ้อนและมีเครือข่ายเชื่อมโยงกว้างขวาง โดยต้องใช้เวลาสอบสวนและขยายผลต่อเนื่อง
บรรยากาศที่กองปราบ – นักข่าวรุมถาม แต่ไร้คำตอบ
ช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวหมอบีมายังกองบังคับการปราบปราม บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด สื่อมวลชนหลายสำนักทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และออนไลน์ มาปักหลักรอทำข่าว
เมื่อหมอบีถูกนำตัวลงจากรถ เขาสวมกุญแจมือ มีผ้าคลุมศีรษะสีดำ และเดินด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไปยังห้องสอบสวน นักข่าวต่างตะโกนถามถึงข้อกล่าวหา รวมถึงความรู้สึกต่อการถูกจับกุม แต่เขา ไม่กล่าวตอบใด ๆ เพียงก้มหน้าและเดินตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปที่กองกำกับการ 1 เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน
ภาพนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วสื่อและโซเชียลมีเดีย กลายเป็นภาพจำที่แสดงให้เห็นถึงจุดพลิกผันของบุคคลที่เคยถูกมองว่าเป็นผู้มีชื่อเสียง แต่กลับต้องเผชิญชะตากรรมในฐานะผู้ต้องหาคดีทุจริตครั้งใหญ่
สังคมจับตา – จากภาพลักษณ์หมอคนดังสู่ผู้ต้องหาคดีอื้อฉาว
ก่อนหน้านี้ “หมอบี” เป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมบางกลุ่ม ด้วยภาพลักษณ์ของผู้ที่มีชื่อเสียงและถูกพูดถึงในเชิงบุคคลที่มีบทบาททางสังคม แต่การที่เขามีชื่อเข้าไปพัวพันในคดีนี้ กลับกลายเป็นเรื่องที่หลายคนไม่คาดคิด
ในโลกออนไลน์ มีทั้งผู้ที่รู้สึกตกใจ ไม่เชื่อว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องจริง และอีกส่วนหนึ่งที่มองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็น “สัญญาณเตือน” ว่าคนดังหรือผู้มีชื่อเสียงก็อาจมีเบื้องหลังที่สังคมไม่เคยรู้มาก่อน
ความเชื่อมโยงกับคดีวัดพระบาทน้ำพุ
คดีวัดพระบาทน้ำพุถือเป็นคดีใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการศาสนาและสังคมไทย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ การยักยอกเงินบริจาคจำนวนมหาศาล ที่ประชาชนและผู้ศรัทธาทั่วประเทศมอบให้วัดเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยและกิจกรรมสาธารณประโยชน์
การจับกุมอดีตเจ้าอาวาส พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) และการขยายผลไปยังเครือข่ายบุคคลรอบข้าง รวมถึงหมอบี แสดงให้เห็นถึงความจริงจังของเจ้าหน้าที่ในการคลี่คลายคดีครั้งนี้
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า การจับกุมหมอบี อาจทำให้คดีนี้เปิดเผยความเชื่อมโยงได้มากขึ้น และอาจมีบุคคลอื่น ๆ ที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในอนาคต
ขั้นตอนต่อไป – สอบสวนและหาหลักฐานเพิ่ม
หลังการคุมตัวมาที่กองปราบ หมอบีถูกนำเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำ เบื้องต้นยังคงปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนและไม่ได้ให้การในรายละเอียดมากนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนเพิ่มเติม โดยเฉพาะ เส้นทางการเงิน ที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
คาดว่าการสอบสวนจะใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากต้องอาศัยข้อมูลจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งการตรวจสอบทางการเงินเชิงลึก และอาจต้องอาศัยพยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัญชีธนาคาร การโอนเงิน หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างผู้เกี่ยวข้อง
บทสรุป
การคุมตัว หมอบี เสกสันน์ ในครั้งนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญในคดีทุจริตครั้งใหญ่ที่สังคมไทยจับตาอย่างใกล้ชิด จากบุคคลที่เคยมีภาพลักษณ์ดีในสังคม วันนี้กลับต้องเผชิญกับข้อหาหนักที่อาจส่งผลต่อชีวิตและอนาคตโดยสิ้นเชิง
ในมิติของสังคม คดีนี้ยังเป็น “บทเรียน” ว่าการศรัทธาหรือความเชื่อที่ประชาชนมอบให้กับบุคคลหรือสถาบันใด ๆ หากถูกนำไปใช้ในทางมิชอบ ย่อมสร้างความเสียหายมหาศาลไม่เพียงแค่ต่อบุคคลนั้น แต่ต่อความศรัทธาของสังคมโดยรวม
สิ่งที่ต้องติดตามต่อจากนี้คือ การทำงานของเจ้าหน้าที่ ว่าจะสามารถขยายผลและคลี่คลายเครือข่ายการทุจริตได้มากน้อยเพียงใด รวมถึงชะตากรรมทางกฎหมายของหมอบีและผู้เกี่ยวข้อง ที่สังคมไทยทั้งประเทศกำลังรอคอยคำตอบ




















