เปิดความจริงสุดช็อก ห่อผ้านับหมื่นในวัดพระบาทน้ำพุคืออะไร?
ปมร้อนวัดพระบาทน้ำพุ – ตรวจสอบศพผู้ติดเชื้อ HIV กว่า 20 ร่าง เอกสารยืนยันยังไม่ครบ พร้อมขยายผลพบอีกที่โครงการธรรมรักษ์นิเวช
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีการพบร่างผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้รับการฌาปนกิจจำนวนหลายสิบร่าง ภายในวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ได้กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ถูกสังคมจับตามองอย่างกว้างขวาง เนื่องจากวัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี และมีการเก็บรักษาร่างผู้เสียชีวิตเพื่อ “เป็นวิทยาทาน” มายาวนานหลายสิบปี
อย่างไรก็ตาม การเก็บรักษาศพเหล่านี้กลับทำให้เกิดคำถามสำคัญทั้งในด้าน กฎหมาย – สุขอนามัย – ความโปร่งใส – และสิทธิผู้เสียชีวิต โดยล่าสุดทางเทศบาลตำบลเขาสามยอด สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาทางออกอย่างเป็นทางการ
รายงานล่าสุดระบุว่า หากสามารถตรวจสอบพบ เอกสารยืนยันตัวบุคคลของผู้เสียชีวิตครบถ้วน ก็จะสามารถดำเนินการฌาปนกิจได้ตามกำหนดการเดิม แต่หากยังไม่พบเอกสาร ก็จะทำได้เพียงการจัดพิธีสวดพระอภิธรรมอุทิศส่วนกุศลในเบื้องต้นก่อน
จากนั้นจะต้องมีการประชุมหารือร่วมกับ หน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อกำหนดแนวทางการจัดการศพต่อไป เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งต้องใช้มาตรการทางสาธารณสุขที่เข้มงวด
วัดยืนยัน “มีเอกสารครบ” แต่เป็นระบบเก่าแบบกระดาษ
ทางเจ้าหน้าที่ของวัดพระบาทน้ำพุได้ออกมายืนยันว่า เอกสารยินยอมจากญาติผู้เสียชีวิตที่มอบร่างให้วัดนั้น มีอยู่ครบถ้วน แต่เป็นเอกสารที่จัดเก็บไว้ในรูปแบบกระดาษ เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีระบบคอมพิวเตอร์
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ วัดไม่เคยมีการแจ้งขออนุญาตเก็บศพตาม พระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถาน มาก่อน การเก็บร่างทั้งหมดจึงอยู่นอกกรอบกฎหมาย แม้ว่าจะมีเจตนาเพื่อใช้เป็น “วิทยาทาน” ก็ตาม
ทั้งนี้ หลวงพ่อและคณะวัดได้ชี้แจงว่า การดองศพที่ทำไว้ในอดีตนั้นเป็นการดำเนินการโดย ไวยาวัจกรคนเก่า ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว และที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ร้องเรียน เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่มีญาติ
การเก็บศพ: ศีลธรรม – วิทยาทาน – หรือการละเมิดกฎหมาย?
ประเด็นนี้ถูกตั้งคำถามว่า การเก็บร่างผู้ป่วยไว้โดยไม่แจ้งตามกฎหมาย ถือเป็นความผิดหรือไม่
ทางวัดยืนยันว่า เจตนาบริสุทธิ์ ต้องการเก็บไว้เพื่อให้บุคลากรแพทย์และนักศึกษาแพทย์ใช้ศึกษา
แต่ในแง่กฎหมาย หากไม่มีการแจ้งและไม่มีการออกใบอนุญาตเก็บศพ ก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สุสานและฌาปนสถาน
ในขณะที่นักกฎหมายบางส่วนมองว่า หากสุดท้ายสามารถหาหลักฐานเอกสารยืนยันได้ ก็อาจถือว่าเป็นเพียงการละเลยทางปกครอง ไม่ใช่เจตนาซ่อนเร้น
ศาลาธรรมสังเวชปิดตาย – คุมเข้มป้องกันเชื้อโรค
ปัจจุบัน ศาลาธรรมสังเวช ซึ่งเป็นสถานที่เก็บร่างผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีทั้ง 20 ร่าง รวมถึงกองอัฐิจำนวนมหาศาล ได้ถูกปิดล็อกประตูและหน้าต่างอย่างแน่นหนา พร้อมติดป้าย “ปิดให้บริการ” เพื่อห้ามบุคคลภายนอกเข้าไป
ทางเทศบาลตำบลเขาสามยอดยังได้ใช้เทปมากั้นพื้นที่โดยรอบเพื่อป้องกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา โดยในช่วงบ่าย สาธารณสุขจังหวัดลพบุรีมีแผนจะเข้ามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและเริ่มกระบวนการ พิสูจน์ยืนยันอัตลักษณ์บุคคล อย่างเป็นขั้นตอน
พบเอกสารสำคัญ แต่ต้องใช้เวลาตรวจสอบ
ล่าสุด วัดสามารถเปิด ตู้เอกสารสำคัญ ได้แล้ว และพบว่ามีเอกสารยินยอมจำนวนมากเก็บสะสมไว้เป็นสิบ ๆ ปี แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องและการ จับคู่กับร่างผู้เสียชีวิตแต่ละราย
หากสามารถยืนยันตัวบุคคลได้ครบถ้วน ก็จะสามารถดำเนินการฌาปนกิจได้ตามขั้นตอน ขณะเดียวกันก็ต้องรอการหารือกับหน่วยงานสาธารณสุขเพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสม เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี
ขยายผล: พบเพิ่มอีก 9 ร่างที่โครงการธรรมรักษ์นิเวช 2
ไม่เพียงแค่ที่วัดพระบาทน้ำพุเท่านั้น ล่าสุดยังมีการตรวจสอบไปยัง โครงการธรรมรักษ์นิเวช 2 ในอำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 9 ร่าง ที่ถูกเก็บรักษาในลักษณะเดียวกัน
นอกจากนี้ยังพบ ถุงเถ้ากระดูกนับหมื่นถุง ที่ถูกเก็บไว้ในช่องเก็บต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อตั้งวัดจนถึงปัจจุบัน คาดว่ามีจำนวนรวมกว่า 10,000 – 20,000 ศพ
อย่างไรก็ตาม การเก็บกระดูกที่ผ่านการเผาแล้วไม่ถือว่าผิดกฎหมาย หากมีบัญชีรายชื่อระบุผู้เสียชีวิตชัดเจน แต่หากไม่สามารถระบุได้ ก็ยังถือว่าผิดตาม พ.ร.บ.สุสาน โดยมีโทษปรับศพละ 2,000 บาท
เสียงสะท้อนจากผู้เชี่ยวชาญ
นักกฎหมาย ระบุว่า การเก็บศพโดยไม่มีใบอนุญาตแม้จะมีเจตนาดี แต่ก็เข้าข่ายความผิดอยู่ดี ต้องถูกปรับตามกฎหมาย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข เน้นว่า การจัดการศพผู้ติดเชื้อ HIV ต้องใช้มาตรการพิเศษ แม้เชื้อจะตายไปหลังจากร่างกายสลาย แต่การเก็บไว้หลายสิบปีโดยไม่ถูกกำกับย่อมมีความเสี่ยง
พระสงฆ์ในวัด ยืนยันว่าทำไปด้วยเจตนาดี ต้องการเก็บไว้เพื่อเป็น “วิทยาทาน” ไม่ได้มีเจตนาปกปิดหรือซ่อนเร้น
บทสรุป: ปัญหาที่ต้องหาคำตอบ
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น
กฎหมาย: การเก็บศพโดยไม่มีใบอนุญาตแม้จะมีเจตนาดี ก็อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย
สาธารณสุข: การจัดการศพผู้ติดเชื้อต้องมีมาตรการที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการแพร่โรค
ศีลธรรมและศาสนา: หลวงพ่อและวัดมีเจตนาทำเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ แต่เมื่อไม่สอดคล้องกับกฎหมายก็ทำให้เกิดความขัดแย้งทางสังคม
ความเชื่อมั่นของสาธารณชน: เหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการดูแลร่างผู้เสียชีวิต และการทำงานร่วมกันระหว่างวัดกับภาครัฐ
ท้ายที่สุด ต้องรอผลการตรวจสอบเอกสารและการประชุมร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะหาทางออกที่สมดุลได้อย่างไร ระหว่าง เจตนาดีของวัด – ความถูกต้องตามกฎหมาย – และมาตรการด้านสาธารณสุข
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต "จ้านฮ่าวหลี่" คดีฉ้อโกงพันล้านหยวน
เผยประวัตินักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน ผู้ต้องสงสัยฆ่าหนุ่มขับอัลติสบนทางด่วน พบมีหมายจับพยายามฆ่าด้วย
เมื่อเกิดภาวะ รักเขาข้างเดียว
คอหวยขอโชค วิหารร้างอายุกว่า 100 ปี ไม่ผิดหวังได้ “เลขเด็ด” ลุ้นโชครับปีใหม่
มาตรการ ‘มหาเถรสมาคม’ - ‘คพช.’ กู้คืนศรัทธาวงการสงฆ์: บทเรียนจากปีแห่งการล้างบาง
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
พ่อแม่เปิดกล้องหัวใจแทบสลาย แม่บ้านแอบใส่ "เดทตอล" ในขวดนมให้ลูกน้อยกิน
Avatar 3 ช่วยแบก MAJOR ไม่ไหว! กำไรดิ่งหนัก 30%
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา “ฮุน มาเนต” เรียกร้องให้สื่อมวลชนรายงานข่าวชายแดนกัมพูชา–ไทยอย่างถูกต้องตามจริยธรรมวิชาชีพ
"ภูมิรพี"เด็กไทยฟุตบอล U17 สู่ตัวหลักมือกาวมัธยมปลายในญี่ปุ่น
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
เผยประวัตินักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน ผู้ต้องสงสัยฆ่าหนุ่มขับอัลติสบนทางด่วน พบมีหมายจับพยายามฆ่าด้วย
คุก 2 ปี "แอน จักรวาล" ไม่รอลงอาญา
เมื่อเกิดภาวะ รักเขาข้างเดียว
ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต "จ้านฮ่าวหลี่" คดีฉ้อโกงพันล้านหยวน







