ดิว อริสรา เคลียร์จบ! คืนหรู Bvlgari 15 ล้าน + Hermès 2 ใบ 3.4 ล้าน
คดีร้อนวงการไฮโซ! “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” เคลียร์หนี้หรู คืนสร้อยบูลการี 15 ล้าน–กระเป๋าแอร์เมส 2 ใบ มูลค่ารวมกว่า 18 ล้าน เจรจาถอนฟ้องสำเร็จ
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่เป็นที่จับตามองในสังคม โดยเฉพาะในแวดวงไฮโซและนักสะสมของหรู เมื่อมีการนัดเจรจาคืนทรัพย์สินระหว่าง “ดิว” อริสรา ทองบริสุทธิ์ กับคู่กรณีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หลังจากเกิดคดีดังกรณีการนำ สร้อยคอบูลการีมูลค่า 15 ล้านบาท และ กระเป๋าแอร์เมส 2 ใบ มูลค่า 3.4 ล้านบาท ไปจำนำ จนกลายเป็นคดีความใหญ่โต
การเจรจาในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมหลายฝ่าย ประกอบด้วย นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “หนายเลี้ยง” ในฐานะทนายความผู้ดูแลผลประโยชน์ของคุณดิว อริสรา, น.ส.ณัฐจุฑา ปุณณธนาวัฒน์ ตัวแทนจากบริษัทแบรนด์เนมมันนี่ จำกัด, ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน, ทนายอรรถชัย แจ้งอรุณ ในฐานะทนายของ คุณเมย์ วาสนา ผู้เสียหายหลัก รวมไปถึง นายพีรันธร วิระภรณ์พิมล ตัวแทนของ คุณเบนซ์ อารีรัตน์ เพื่อนที่เกี่ยวข้องกับการรับฝากกระเป๋า ซึ่งทั้งหมดมาพบกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน
เบื้องหลังคดี: ของหรูยืมเพื่อน กลับถูกนำไปจำนำ
คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องล้วนเป็นคนดังในสังคม โดยคุณ ตัว อริสรา ถูกกล่าวหาว่าได้ยืมทรัพย์สินของมีค่าจากเพื่อนสนิทคือ คุณเมย์ วาสนา ได้แก่ สร้อยบูลการีราคา 15 ล้านบาท และกระเป๋าแอร์เมส 2 ใบ รวมมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท
แทนที่จะเก็บรักษาไว้ตามความไว้วางใจที่ได้รับ คุณตัวกลับนำทรัพย์สินเหล่านี้ไปจำนำกับ บริษัทแบรนด์เนมมันนี่ จำกัด และส่งต่อให้เพื่อนอีกคนคือ คุณเบนซ์ อารีรัตน์ เกี่ยวข้องกับการนำกระเป๋าไปเข้าระบบเงินกู้ จนเรื่องบานปลายกลายเป็นคดี “ยักยอกทรัพย์”
วันแห่งการคืนทรัพย์สิน: ทุกฝ่ายเข้าร่วมครบ
ในการนัดเจรจาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นจุดไคลแมกซ์ของคดีนี้ เพราะเป็นวันที่ ทรัพย์สินทั้งหมดถูกนำมาคืนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญที่คอยตรวจสอบความถูกต้อง
สร้อยบูลการี มูลค่า 15 ล้านบาท ถูกนำมาคืนโดยตัวแทนจากบริษัทแบรนด์เนมมันนี่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับเข้าร่วมตรวจสอบความแท้และสภาพของตัวเรือน
กระเป๋าแอร์เมส 2 ใบ ที่เคยถูกนำไปจำนำกับเพื่อนของคุณตัว ก็ถูกนำมาคืนให้กับผู้เสียหายต่อหน้าพนักงานสอบสวนเช่นกัน
บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด แต่ก็เต็มไปด้วยความโล่งใจของผู้เสียหายที่ได้เห็นทรัพย์สินของตนกลับคืนมาอย่างครบถ้วน
การเจรจา: ถอนฟ้อง–ชำระหนี้ตามข้อตกลง
เมื่อทรัพย์สินถูกส่งคืนครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ การเจรจาเพื่อยุติคดีความ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือการถอนฟ้องระหว่างทุกฝ่าย
1. บริษัทแบรนด์เนมมันนี่ ยอมถอนฟ้อง หลังได้รับการคืนทรัพย์สินและได้รับเงินสดเพิ่มเติม 1.75 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋าที่ถูกจำนำ
2. คุณเมย์ วาสนา ในฐานะเจ้าของทรัพย์สินหลัก ยืนยันว่าจะถอนฟ้องคดี “ยักยอกทรัพย์” หลังได้ทรัพย์สินกลับคืน พร้อมบันทึกข้อตกลงการชำระหนี้
3. เพื่อนผู้รับฝากกระเป๋า ก็ยอมถอนฟ้องเช่นกัน หลังได้รับทรัพย์สินกลับคืนครบถ้วน
ที่สำคัญคือ คุณดิว อริสรา ได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าจะรับผิดชอบหนี้สินทั้งหมด โดยทำบันทึกข้อตกลงว่าจะชำระคืนภายใน 1 ปี
ในช่วง 6 เดือนแรก จะทยอยจ่ายเดือนละ 100,000 บาท
หลังจากนั้นจะเพิ่มเป็น เดือนละ 200,000 บาท จนครบยอดที่ตกลงกัน
ทนายความผู้แทนคุณตัวกล่าวย้ำว่า “คุณตัวอาจไม่ได้มาปรากฏตัวในวันนี้เนื่องจากติดธุระ แต่ได้ฝากคำขอบคุณและคำขอโทษไปยังทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่าจะทำงานเต็มที่เพื่อชำระหนี้ให้ครบตามสัญญา”
เสียงจากคู่กรณี: โล่งใจ แต่ยังต้องติดตาม
ทางด้าน ทนายอรรถชัย แจ้งอรุณ ตัวแทนของคุณเมย์ วาสนา ได้เปิดเผยว่า คุณเมย์เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ และยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์โดยตรง แต่ฝากคำขอบคุณตำรวจและทุกฝ่ายที่ช่วยให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี
“ผมอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้เราสามารถได้ทรัพย์สินคืนครบถ้วน วันนี้ถือว่าเป็นวันสำคัญ แต่รายละเอียดอื่น ๆ คงต้องรอคุณเมย์ออกมาเล่าเอง” ทนายอรรถชัยกล่าว
เงินก้อนพิเศษ: 1.75 ล้านจ่ายช่วยเหลือทันที
นอกจากการคืนทรัพย์สินแล้ว ยังมีการนำเงินสดจำนวน 1.75 ล้านบาท มอบให้กับบริษัทแบรนด์เนมมันนี่ เพื่อเป็นการเคลียร์ค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือจากการนำกระเป๋าไปจำนำ โดยเงินก้อนนี้ถูกจัดเตรียมจากเครือข่ายเพื่อนของคุณตัว เพื่อบรรเทาสถานการณ์เร่งด่วน
ทั้งนี้ เงินก้อนดังกล่าวจะถูก
นำไปชดใช้ให้กับคุณเมย์ วาสนาอีกทอดหนึ่ง เพื่อให้การคืนทรัพย์สมบัติและค่าเสียหายเสร็จสิ้นสมบูรณ์ที่สุด
มุมมองทางกฎหมาย: คดีนี้สะท้อนอะไร?
นักกฎหมายบางรายมองว่า คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความซับซ้อนของความไว้วางใจในกลุ่มสังคมชั้นสูง เพราะการยืมของหรูมักไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ใช้ “ความเชื่อใจ” เป็นหลัก เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกลับกลายเป็นคดีความใหญ่โต
อีกทั้ง การที่คู่กรณีสามารถเคลียร์กันได้ด้วยการคืนทรัพย์และทำบันทึกชำระหนี้ ถือเป็น การยุติคดีแบบ Win-Win ทุกฝ่ายได้ของคืนครบถ้วน ขณะที่ผู้ก่อเหตุยังมีโอกาสแก้ไขตัวเองโดยไม่ต้องรับโทษทางอาญาหนัก
บทสรุป: บทเรียนจากคดีของหรู
กรณี “ดิวอริสรา” ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่สังคมจับตามอง เพราะสะท้อนให้เห็นว่า
ความไว้วางใจระหว่างเพื่อน หากขาดความรับผิดชอบ อาจนำไปสู่คดีความใหญ่โตได้
การจัดการปัญหาด้วยการเจรจาและแสดงความจริงใจ สามารถช่วยยุติเรื่องราวได้อย่างสันติ
สังคมไทยยังคงให้โอกาสคนผิด หากเขาเลือกที่จะกลับใจและรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ
หลังจากนี้ คงต้องติดตามว่า คุณดิว อริสรา จะสามารถทำตามสัญญาการชำระหนี้ได้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนดหรือไม่ และจะสามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่ในสังคมได้อย่างไร
🔥 ๒๑ ประเภทเปรตวิสัย: สิ่งที่พระโมคคัลลานะเห็นด้วยญาณ
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68 มาแล้ว!..รีบส่องเลย ก่อนหมดแผง!!
#ทายนิสัยจากกาแฟ: เดือนเกิดคุณเปรียบเหมือนกาแฟแก้วไหน? ทายบุคลิก ความรัก และการเงินจากเครื่องดื่มแก้วโปรด
พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีกำลังมุ่งหน้าสู่เวียดนาม โดยมีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์กว่า 100 คน คาดว่าฮอยอันและดานังจะประสบกับน้ำท่วมอีกครั้ง
หนังกลางแปลงในความทรงจำ กับการดูหนังสร้างรายได้ในโลกออนไลน์
วิดีโอ/เสียชีวิต 48 ราย! ไต้ฝุ่นถล่มเซบู ฟิลิปปินส์ ก่อนน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และวิกฤต
เดือด! อดีตมิสยูนิเวิร์ส 1996 ชาวเวเนซุเอลา เหยียดไทย-เอเชีย เจอทั้งภูมิภาคสวนกลับยับ
"อนุทิน" ถูกแซวในงาน "ลอยกระทง" ลืมรูปซิปกางเกง..เจ้าตัวสวนกลับสุดฮา "ไม่มีออกมาเพ่นพ่านแน่นอนครับ"
🔥 ๒๑ ประเภทเปรตวิสัย: สิ่งที่พระโมคคัลลานะเห็นด้วยญาณ
จับแล้ว "บังเอ็น" มือกราดยิงดญ.1 ขวบดับ พร้อมพ่อ
“จาตุรนต์” กังวลว่า “อนุทิน” อาจจะยุบสภาก่อน ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
ชายชาวกัมพูชาเสียชีวิตจากการกินไข่ตุ๊กแก
รองฯ ปรินดา ร่วม “ดำนา โยนกล้า หว่านข้าว ปีที่ 4” บ้านป่าชิง ส่งเสริมการเรียนรู้วิถีชีวิตและการพึ่งพาตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
วิดีโอ/เสียชีวิต 48 ราย! ไต้ฝุ่นถล่มเซบู ฟิลิปปินส์ ก่อนน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และวิกฤต




