ย้อนรีวิว! กาย-ฮารุ เคยกินไข่เจียวปูเจ๊ไฝ 6 ปีก่อน ราคาแค่พันเดียว
ดราม่าไข่เจียวปูเจ้ไฝ ราคาสุดสะพรึง! จากอินฟลูฯ 4,000 บาท ย้อนไปถึงรีวิวตรงไปตรงมาของ “กาย-ฮารุ” เมื่อ 6 ปีก่อน
หากพูดถึงร้านอาหารสตรีทฟู้ดของไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ชื่อของ “เจ้ไฝ ประตูผี” ย่อมติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน ด้วยเอกลักษณ์การทำอาหารทุกจานด้วยตัวเองของเจ๊ไฝ หรือ คุณไฝ ศิริวรรณ จนได้รับรางวัล มิชลินสตาร์ มาหลายปีติดต่อกัน และกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติต้องลองสักครั้ง
แต่ท่ามกลางชื่อเสียงอันโด่งดัง กลับมักมีดราม่าเรื่อง “ราคาอาหาร” โผล่มาให้ถกเถียงกันเสมอ ล่าสุดมีอินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดังโพสต์ว่าได้ไปกิน ไข่เจียวปู ที่ร้าน และถูกคิดเงินถึง 4,000 บาท ทั้งที่ในเมนูระบุไว้เพียง 1,500 บาท โดยทางร้านชี้แจงว่าเกิดจากการ “อัปเกรดวัตถุดิบ” โดยเฉพาะปูก้อนที่ใหญ่กว่าปกติ แต่ไม่ได้แจ้งลูกค้าล่วงหน้า ทำให้โซเชียลแตกออกเป็นสองฝั่ง ทั้งเห็นว่าราคาเหมาะสมกับคุณภาพ และอีกฝั่งที่มองว่าเป็นการ “แรงเกินไป”
กระแสยังไม่ทันซา ก็มีคนขุดคลิปในอดีตเมื่อ 6 ปีก่อน จากรายการ “อร่อยเด็ด เผ็ดมันส์” ที่คู่รักดารา กาย รัชชานนท์ – ฮารุ สุประกอบ เคยไปชิมร้านเจ้ไฝ และประสบการณ์ของทั้งคู่ก็กลายเป็นบทเรียนที่ยังคงถูกพูดถึงมาจนถึงวันนี้
กรณีล่าสุด: อินฟลูฯ เจอไข่เจียวปู 4,000 บาท
เรื่องเริ่มต้นเมื่ออินฟลูเอนเซอร์สาวคนหนึ่งโพสต์รีวิวการไปทานอาหารที่ร้านเจ้ไฝ โดยเธอเลือกสั่งเมนูขึ้นชื่อที่สุดของร้าน นั่นคือ “ไข่เจียวปู” ซึ่งในเมนูที่ร้านระบุราคาไว้ที่ 1,500 บาท แต่เมื่อถึงเวลาคิดเงิน กลับถูกเรียกเก็บเป็น 4,000 บาท
เมื่อสอบถาม ทางร้านชี้แจงว่า จานที่เธอได้รับเป็นไข่เจียวปูแบบ “พิเศษ” หรือเรียกว่า VVIP โดยใช้ปูก้อนขนาดใหญ่กว่าปกติ ซึ่งราคาปูก้อนเกรดพรีเมียมนี้ในตลาดอาจสูงถึง กิโลกรัมละ 4,000 บาท ดังนั้นราคารวมที่ออกมาจึงสูงกว่าที่เห็นในเมนู
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือร้านไม่ได้แจ้งลูกค้าล่วงหน้า ทำให้เกิดความรู้สึก “ไม่แฟร์” ในสายตาของหลายคน กระแสในโลกออนไลน์จึงถาโถม ทั้งฝั่งที่ปกป้องร้าน โดยอ้างว่าเจ๊ไฝเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพสูงจริง และฝั่งที่ตั้งคำถามว่าอาหารสตรีทฟู้ดควรมีราคาสูงถึงระดับนี้หรือไม่
ย้อนอดีต: กาย-ฮารุ เคยรีวิวตรงไปตรงมา
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 คู่รักดารา กาย รัชชานนท์ และ ฮารุ สุประกอบ เคยไปถ่ายทำรายการ “อร่อยเด็ด เผ็ดมันส์” ที่ย่านประตูผี ซึ่งหนึ่งในร้านที่ทั้งคู่เลือกชิมก็คือ ร้านเจ้ไฝ เช่นกัน
เมนูที่สั่ง
ซุปเปอร์ไข่เจียวปู ราคาในตอนนั้นอยู่ที่ 1,000 บาท
ผัดขี้เมาทะเล ราคา 500 บาท (เพิ่มเส้นเป็น 600 บาท)
เมนูอื่น ๆ สำหรับลูก ๆ เช่น หมูย่างอีก 500 บาท
ประสบการณ์รอคิว
กายและฮารุเล่าว่า หลังจากรอคิวด้านนอกนานกว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ได้โต๊ะ แต่ยังต้องรออาหารอีกเกือบ 3 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าหลายคนยืนยันว่าเกิดขึ้นจริง เพราะเจ๊ไฝทำอาหารด้วยตัวเองแทบทุกจาน
รสชาติและวัตถุดิบ
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ ฮารุถึงกับทึ่งเพราะไข่เจียวใช้ไข่เพียง 2 ฟอง แต่เนื้อปูที่ใส่มานั้น “แน่นทะลัก” เนื้อสดใหม่ เพราะสั่งตรงจากแพปลาโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ราคาที่ทำเอาปาดเหงื่อ
ตอนแรกถามพนักงาน ราคาคือ 1,000 บาท แต่ตอนเช็กบิลกลับกลายเป็น 2,000 บาท โดยเหตุผลคล้ายกัน คือ “ขึ้นอยู่กับคุณภาพปูที่ได้ในวันนั้น”
เมื่อรวมทุกเมนูพร้อมค่าน้ำดื่ม ราคารวมทั้งหมดอยู่ที่ 3,300 บาท ซึ่งทั้งกายและฮารุต่างยอมรับตรง ๆ ว่า
ฮารุ: “ราคามันแรงไปจริง ๆ”
กาย: “ผมบอกเลย ตอนนี้หน้าชา ปากชา ขาชาชา”
แต่ทั้งคู่ก็รีวิวอย่างแฟร์ ๆ ว่า “ถึงจะแพง แต่ก็อร่อยจริง”
ทำไมราคาถึงสูง?
หลายคนอาจสงสัยว่า เหตุใดเมนูไข่เจียวที่ดูธรรมดาในสายตาคนทั่วไปถึงมีราคาหลายพันบาท คำตอบอยู่ที่ คุณภาพวัตถุดิบ และ การปรุงแบบใส่ใจทุกจาน
1. วัตถุดิบเกรดพรีเมียม – ปูที่เจ๊ไฝใช้เป็นปูก้อนสดขนาดใหญ่ ส่งตรงจากแพปลา ซึ่งราคาต่างกันตามตลาดและฤดูกาล บางครั้งสูงกว่าปกติหลายเท่า
2. ปรุงโดยเจ๊ไฝเพียงคนเดียว – ทุกจานที่ออกจากครัวต้องผ่านมือเจ๊ไฝ ทำให้ไม่สามารถเร่งได้ ลูกค้าต้องรอนาน แต่ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
3. ชื่อเสียงระดับโลก – ร้านเจ้ไฝได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากยอมจ่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์
กระแสโซเชียล: แรงจริง อร่อยจริง แต่...
ประเด็นที่ทำให้เกิดดราม่ามากที่สุดคือ “ความโปร่งใสเรื่องราคา” หลายคนไม่ได้ติดใจที่ราคาแพง แต่ติดตรงที่ร้านไม่ได้แจ้งก่อนว่าเมนูที่ได้รับเป็นแบบอัปเกรด ทำให้รู้สึกเหมือนถูกเซอร์ไพรส์ตอนเช็กบิล
ในขณะที่ลูกค้าประจำของร้านกลับบอกว่า “ใครที่เคยมาบ่อย ๆ จะเข้าใจระบบนี้” และยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติที่ราคาจะขึ้นลงตามคุณภาพวัตถุดิบ ซึ่งต่างจากลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
บทสรุป
ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000 บาท” ไม่ใช่ครั้งแรกที่ร้านเจ้ไฝถูกพูดถึงเรื่องราคา และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ทุกครั้งที่เกิดกระแส มักมีเสียงสะท้อนตรงกันว่า
“ราคาแรงจริง”
“แต่อร่อยจริง”
คำถามที่ยังคงอยู่คือ สตรีทฟู้ดไทยควรมีราคาสูงได้แค่ไหน? และการสื่อสารกับลูกค้าเรื่องราคาควรทำให้ชัดเจนกว่านี้หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ความ “อร่อยจริง” ต้องถูกบดบังด้วยคำว่า “แรงไป”















