เดือดกลางตลาด! นักท่องเที่ยวรุ่นแม่คว้าหางม้าลากโจรสาว หลังจับได้ล้วงกระเป๋า
สาวอเมริกันใจเด็ดจับโจรล้วงกระเป๋ากลางเวนิส ดึงหางม้าลากกลางถนน ก่อนกลายเป็นไวรัลในโซเชียล
เหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์ หลังจากนักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันรายหนึ่งตัดสินใจต่อสู้กับกลุ่มมิจฉาชีพวัยรุ่นที่พยายามล้วงกระเป๋าของเธอ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงทำให้ผู้คนในพื้นที่ต้องหันมามองด้วยความตกใจ แต่ยังถูกบันทึกเป็นคลิปวิดีโอที่กลายเป็นไวรัลบนแพลตฟอร์ม TikTok มียอดเข้าชมทะลุ 2.5 ล้านครั้ง ภายในเวลาไม่กี่วัน
เหตุการณ์กลางวันแสก ๆ ในย่านท่องเที่ยว
เรื่องนี้เกิดขึ้นในย่าน ชานดา มาเรีย เดล จิงลิโอ (Santa Maria del Giglio) ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวสำคัญของเวนิส เต็มไปด้วยผู้คนทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันรายนี้ ซึ่งมากับครอบครัว กำลังเดินชมเมืองอย่างเพลิดเพลิน แต่ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ามีมือแปลกปลอมพยายามล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายหลังของเธอ เมื่อหันกลับไป เธอพบว่ามีวัยรุ่นหญิงอายุประมาณ 14 ปี พยายามขโมยกระเป๋าเงินที่ภายในมีทั้ง พาสปอร์ต บัตรเครดิต เงินสด และหูฟัง AirPods
การไหวตัวทันและการต่อสู้แบบไม่คาดคิด
แทนที่จะปล่อยให้โจรสาวหลบหนีไป นักท่องเที่ยวหญิงกลับเลือกที่จะ ต่อสู้กลับ เธอรีบคว้าหางม้าของเด็กสาวผู้ก่อเหตุไว้แน่น แล้วลากตัวเธอฝ่าฝูงชนไปตามถนน พร้อมตะโกนต่อว่าด้วยความโกรธ
คลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่า เด็กสาวผู้ก่อเหตุพยายามดิ้นรนและกรีดร้อง แต่ไม่สามารถหนีจากการจับกุมได้ นักท่องเที่ยวหญิงตะโกนด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“แกขโมยกระเป๋าเงินที่มีพาสปอร์ตฉันไปด้วย แกไม่รอดแน่ ฉันไม่ปล่อยให้แกหนีไปหรอก!”
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ฝูงชนบริเวณนั้นแตกตื่น หลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป ขณะที่บางส่วนพยายามเข้ามาช่วยกันแยกทั้งสองออกจากกัน
การติดตามจากสัญญาณ AirPods
สิ่งที่น่าสนใจคือ ครอบครัวของผู้เสียหายสามารถติดตามโจรได้เพราะ แอปพลิเคชันติดตามตำแหน่ง AirPods ที่อยู่ในกระเป๋าซึ่งถูกขโมยไป นั่นทำให้พวกเขารู้ว่ากลุ่มโจรสาวยังอยู่ใกล้ ๆ และสามารถตามไปจนพบตัวผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากเด็กสาวคนที่ถูกจับหางม้าแล้ว ยังมีวัยรุ่นหญิงอีกคนที่เชื่อว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด พยายามข่มขู่ว่าจะเรียกตำรวจดำเนินคดีในข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันกลับตอบโต้ด้วยความมั่นใจว่า
“งั้นก็เรียกตำรวจมาเลยสิ บางทีฉันอาจจะได้พาสปอร์ตคืน!”
การทำร้ายร่างกายระหว่างรอตำรวจ
สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อโจรสาวรู้ว่าตำรวจกำลังถูกตามเรียกมาที่เกิดเหตุ เธอจึงหยิบกระเป๋าสะพายที่ขโมยมาฟาดเข้าที่ศีรษะของนักท่องเที่ยวหญิงหลายครั้ง
ในกระเป๋ามี กระบอกน้ำโลหะ ซึ่งสร้างบาดแผลฉกรรจ์บริเวณด้านข้างศีรษะของผู้เสียหาย เลือดไหลออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนรีบโทรแจ้งตำรวจและพยายามเข้ามาช่วยห้ามปราม
การจับกุมและการปล่อยตัวที่สร้างความงุนงง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ วัยรุ่นทั้งสองพยายามขัดขืนการจับกุม แต่สุดท้ายก็ถูกควบคุมตัวและนำส่งสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อตั้งข้อหาลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่นาน ทั้งสองก็ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ผู้เสียหายและประชาชนบางส่วนในพื้นที่ เนื่องจากหลังการปล่อยตัวเพียงสองวัน มีรายงานว่ามีผู้พบเห็นวัยรุ่นกลุ่มนี้เดินปะปนอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
คลิปไวรัลบน TikTok: กระแสโลกออนไลน์
หลังจากลูกสาวของผู้เสียหายโพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดลงใน TikTok คลิปนี้ก็กลายเป็นไวรัลทันที มียอดเข้าชมมากกว่า 2.5 ล้านครั้ง และถูกแชร์ออกไปในหลายแพลตฟอร์มโซเชียล
ชาวเน็ตส่วนใหญ่แสดงความชื่นชมในความกล้าหาญของนักท่องเที่ยวหญิงรายนี้ ที่ไม่ยอมให้มิจฉาชีพทำร้ายและขโมยทรัพย์สินไปโดยง่าย ขณะเดียวกันก็มีบางส่วนแสดงความกังวลว่า การต่อสู้ด้วยตัวเองอาจเสี่ยงเกินไป หากมิจฉาชีพมีอาวุธหรือเพื่อนร่วมแก๊งจำนวนมากกว่านี้
ความจริงที่ซ่อนอยู่: โจรมีทั้งหมด 3 คน
ต่อมา ผู้เสียหายเล่าความคืบหน้าว่า แท้จริงแล้วกลุ่มโจรมี ทั้งหมด 3 คน ในขณะที่สองคนถูกจับได้ในที่เกิดเหตุ อีกคนหนึ่งสามารถหลบหนีไปได้ อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น ตำรวจก็สามารถจับตัวผู้หลบหนีได้บนขบวนรถไฟที่มุ่งหน้าไปยังสนามบิน
ในที่สุด ครอบครัวนักท่องเที่ยวก็ได้รับคืนพาสปอร์ตและบัตรเครดิต แม้ว่าเงินสดและหูฟัง AirPods จะสูญหายไปอย่างถาวรก็ตาม
ปัญหาเชิงโครงสร้าง: ช่องโหว่ทางกฎหมายอิตาลี
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในเมืองเวนิส ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
จิอานนิ ฟรานโซอิ รองผู้บังคับการตำรวจท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Secolo d’Italia ว่า “ตอนนี้มีโจรล้วงกระเป๋าผู้หญิงมากขึ้น พวกเธอถูกดึงดูดเข้ามาในเมืองด้วยช่องโหว่ทางกฎหมาย”
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า กฎหมายอิตาลีกำหนดให้ในการพิจารณาคดีลักทรัพย์ ผู้เสียหายจะต้องเดินทางมาให้การที่ศาลด้วยตนเอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและยุ่งยาก โดยเฉพาะเมื่อผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ พวกเขามักไม่สามารถอยู่รอเพื่อเข้าร่วมกระบวนการได้ ทำให้หลายคดีจบลงโดยที่ผู้กระทำผิดไม่ถูกลงโทษอย่างจริงจัง
เวนิส เมืองสวรรค์ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยโจรล้วงกระเป๋า
เวนิสถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านความโรแมนติกและวัฒนธรรม แต่ในอีกด้านหนึ่ง เมืองนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็น “สวรรค์ของมิจฉาชีพล้วงกระเป๋า” เช่นเดียวกับเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ อื่นในยุโรป
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเวนิสมักถูกเตือนให้ระมัดระวังทรัพย์สิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่น จัตุรัส เซนต์มาร์ก (St. Mark’s Square) และบริเวณสถานีรถไฟ เนื่องจากแก๊งมิจฉาชีพมักทำงานเป็นทีม มีทั้งคนล้วง คนเบี่ยงเบนความสนใจ และคนคอยคุ้มกันเส้นทางหลบหนี
บทเรียนจากเหตุการณ์นี้
เหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวสาวอเมริกันตัดสินใจต่อสู้กับมิจฉาชีพสะท้อนหลายประเด็นที่น่าสนใจ
1. ความกล้าหาญและการปกป้องสิทธิ์ของตนเอง – เธอไม่ยอมเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำฝ่ายเดียว แต่เลือกจะต่อสู้เพื่อรักษาทรัพย์สินที่มีค่ามหาศาลสำหรับการเดินทาง
2. บทบาทของเทคโนโลยี – การติดตามตำแหน่ง AirPods ช่วยให้ผู้เสียหายสามารถหาตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีสามารถช่วยลดความสูญเสียได้
3. ปัญหาทางกฎหมาย – ช่องโหว่ของระบบกฎหมายอิตาลีทำให้คนร้ายจำนวนมากไม่ถูกลงโทษอย่างเหมาะสม เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้มิจฉาชีพยังคงก่อเหตุซ้ำ
4. ความเสี่ยงของการจัดการด้วยตนเอง – แม้นักท่องเที่ยวหญิงจะได้รับเสียงชื่นชม แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธว่าการเผชิญหน้ากับคนร้ายโดยตรงอาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้
สรุป
เหตุการณ์นักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันจับโจรล้วงกระเป๋ากลางเมืองเวนิส กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั่วโลก ทั้งในมิติของความกล้าหาญส่วนตัว ปัญหามิจฉาชีพในเมืองท่องเที่ยว และช่องโหว่ในกระบวนการยุติธรรม
ในขณะที่เธอได้รับคืนพาสปอร์ตและบัตรเครดิต แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังเป็นเครื่องเตือนใจนักท่องเที่ยวทุกคนว่า การเดินทางไปยังเมืองท่องเที่ยวชื่อดังควรมาพร้อมกับความระมัดระวัง และการรู้จักใช้เทคโนโลยีในการช่วยป้องกันภัย รวมถึงเป็นแรงกดดันให้รัฐบาลอิตาลีเร่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อรับมือกับมิจฉาชีพที่กำลังสร้างความเสียหายให้แก่ภาพลักษณ์ของประเทศ
#ทายนิสัยจากกาแฟ: เดือนเกิดคุณเปรียบเหมือนกาแฟแก้วไหน? ทายบุคลิก ความรัก และการเงินจากเครื่องดื่มแก้วโปรด
ด่วนที่สุด! อัปเดตล่าสุด บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ย. 68 ถอนเงินสดได้เท่าไหร่? เช็กให้ชัวร์! วงเงินเพิ่ม 1,150 บาท ใช้ยังไง ไม่พลาดสิทธิ์!
ผ่าตัด 32 ชั่วโมงเพื่อชีวิตหนึ่งเดียว เรื่องจริงของทีมหมอที่ล้มลงเพราะ “หมดแรง” ไม่ใช่ “หมดใจ”
“จาตุรนต์” กังวลว่า “อนุทิน” อาจจะยุบสภาก่อน ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
4 ผลไม้ไต้หวัน! “Saika Kawakita” ชิมแล้วฟินหนัก ยกให้ "มะม่วง" เป็นที่หนึ่งในใจ
ชายชาวกัมพูชาเสียชีวิตจากการกินไข่ตุ๊กแก
Stop It! วิธีหยุด 'รักความสมบูรณ์แบบ' (Perfectionism) ก่อนมันจะทำลายความสุขและงานของคุณ!
นักท่องเที่ยวตะลึง! "ยอดเขาแหลมทองผาภูมิ" เปล่งแสงสีทองกลางหุบเขา..ทำเอาโซเชียลแชร์กันสนั่น
นอนในตู้ล็อกเกอร์กลางโตเกียว เมื่อหมีพูห์กลายเป็นรูมเมตในห้องพักไซส์ XS
งบไม่บานปลาย! รวม 7 เมืองมรดกโลก ที่ "สวยจนลืมหายใจ" แถมค่าครองชีพเป็นมิตร!
ไอดอลสาววัย 17 ปี โพสต์รูปสวยๆ ขณะนั่งดูหนัง แต่แฟนๆ สังเกตเห็นเงาสะท้อนของผู้ชายในแก้วเครื่องดื่มของเธอ ทำให้เธอถูกไล่ออกจากวง.
จ่ายค่าปรับเดือนละพันเหรียญ เพื่อให้ต้นไม้สูงเกินกฎหมาย เจฟฟ์ เบโซสกับความสงบราคา 4 วินาที
“จาตุรนต์” กังวลว่า “อนุทิน” อาจจะยุบสภาก่อน ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
4 ผลไม้ไต้หวัน! “Saika Kawakita” ชิมแล้วฟินหนัก ยกให้ "มะม่วง" เป็นที่หนึ่งในใจ
นักท่องเที่ยวตะลึง! "ยอดเขาแหลมทองผาภูมิ" เปล่งแสงสีทองกลางหุบเขา..ทำเอาโซเชียลแชร์กันสนั่น
Stop It! วิธีหยุด 'รักความสมบูรณ์แบบ' (Perfectionism) ก่อนมันจะทำลายความสุขและงานของคุณ!
🔥 ๒๑ ประเภทเปรตวิสัย: สิ่งที่พระโมคคัลลานะเห็นด้วยญาณ
จับแล้ว "บังเอ็น" มือกราดยิงดญ.1 ขวบดับ พร้อมพ่อ



